Valentino นำเสนอแนวทางการออกแบบบูติกทั่วโลกใหม่ ใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น

Valentino นำเสนอแนวทางการออกแบบบูติกทั่วโลกใหม่ที่คำนึงถึงผู้คนเป็นศูนย์กลางและมีความใกล้ชิดกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น

แนวทางการออกแบบใหม่นี้จะถูกนำมาปรับใช้กับบูติกทุกสาขาทั่วโลกแบบค่อยเป็นค่อยไปโดยเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 นี้เป็นต้นไป โครงการนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยเริ่มต้นด้วยการสร้างประสบการณ์อันพิเศษแก่ลูกค้าผ่านการออกแบบที่ร่วมสมัย
แนวทางการออกแบบบูติกใหม่นี้จึงแสดงออกถึงตัวตนของ Valentino ได้เป็นอย่างดีในฐานะ Maison de Couture ที่เป็นเลิศทางธรรมเนียมดั้งเดิมและนวัตกรรมสมัยใหม่ พร้อมด้วยการตกแต่งภายในที่นำเสนอความเชี่ยวชาญด้านฝีมือหัตศิลป์และสุนทรียศาสตร์ของแบรนด์

REDESIGNING THE RETAIL EXPERIENCE

ที่มาของคอนเซ็ปต์ใหม่นี้เกิดจากการคิดทบทวนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเมซงและลูกค้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเรื่องราวการออกแบบและการสร้างเส้นทางของผู้บริโภคตั้งแต่ก่อนจะเป็นลูกค้าจนตัดสินใจซื้อโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากบรรทัดฐานของงานบริการตามแบบฉบับของอิตาลีและสร้างคอนเซ็ปต์ของบูติกใหม่ผ่านพื้นที่ต่างๆ

บูติกแต่ละแห่งได้กลายมาเป็นเสมือนบ้านที่ต้อนรับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้ถูกยกระดับให้เป็นหัวใจหลักของ Valentino โดยเฉลิมฉลองสัญลักษณ์ของเมซงและมรดกแห่งอิตาลี

คอลเล็กชัน prêt-à-porter สำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง รวมถึงเครื่องประดับ Valentino Garavani ถูกนำเสนอผ่านการตกแต่งที่ถูกไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีและเสริมด้วยงานดีไซน์ที่คาดไม่ถึง

แต่ละสาขามอบประสบการณ์ที่แตกต่างกันอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยการออกแบบที่สวยงามและเชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อมของพื้นที่แต่ละแห่ง

พื้นที่พิเศษซึ่งถูกตกแต่งมาเป็นอย่างดีจะถูกสงวนไว้สำหรับลูกค้าที่ทำการนัดหมายแบบส่วนตัวเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและประสบการณ์อันแสนพิเศษ

DESIGN INSPIRATION AND ARTISIAN COLLABORATIONS

การออกแบบภายในนำเสนอลวดลายในสไตล์ Art Déco ช่วงปี 1930s โดยผสมผสานกับสไตล์ยุค 1970s อันโดดเด่น ถ่ายทอดความร่วมสมัยผ่านโทนสีและรายละเอียดอันประณีตที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมโรมัน 

เฉดสีของผนังที่ถูกทอขึ้นเป็นการแสดงออกถึงสัญลักษณ์แห่งงานตัดเย็บชั้นสูงในโลกของกูตูร์

คอนเซ็ปต์ใหม่นี้ได้ปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ของบูติก ตั้งแต่กระเบื้องเซรามิกด้านหน้าของตึกตลอดจนพื้นหินอ่อน Botticino และ Sahara Noir  ในลวดลายเรขาคณิต องค์ประกอบของนิลดำและไม้สร้างความอบอุ่น สวยงามและหรูหรา 

Maison Valentino ยังร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ไอเท็มต่างๆ สำหรับการตกแต่งพื้นที่: Massimiliano Pipolo สร้างที่จับประตูเซรามิกแบบแฮนด์เมดที่มีความโดดเด่นด้วยรูปทรงธรรมชาติที่เหมาะกับการใช้งานและมีลักษณะเป็นนามธรรมนาม ในขณะที่ Fabio Cinti รับผิดชอบเรื่องชิ้นส่วนเรขาคณิตสำหรับงานตกแต่งที่ผลิตขึ้นจากทองเหลืองโดยผสมผสานความร่วมสมัยเข้ากับงานฝีมือโบราณ ส่วน Alexandre Logé ได้สร้างโคมไฟแชนเดอเลียร์ด้วยเทคนิคการแกะสลักปูนปลาสเตอร์สีขาว สำหรับห้อยลงมาเพื่อมอบแสงแสว่างให้กับพื้นที่

นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าแต่ละบูติกด้วยการคัดสรรเฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟา Camaleonda สุดไอคอนิกที่ออกแบบโดย Mario Bellini สำหรับ B&B Italia ในโทนสีแห่งอัญมณีที่ และพรมลวดลายกราฟิคจากช่างฝีมือที่ทันสมัยอย่าง Golran