สมุนไพรนั้นก็คือพืชชนิดหนึ่ง ที่มีสรรพคุณสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้ ซึ่งก็มีอยู่มากมายหลายชนิด ดังนั้นหากเรารู้ว่าพืชชนิดไหนมีสรรพคุณอะไรบ้างและมีลักษณะเป็นอย่างไร ก็จะทำให้เราสามารถนำเอาพืชสมุนไพรมาใช้ในการรักษาอาการต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้สมุนไพรต่าง ๆ เริ่มเป็นที่รู้จักน้อยลงและไม่ค่อยได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายเท่าไรนัก และสมุนไพรบางชนิดก็แทบไม่มีใครรู้เลยว่าเป็นพืชสมุนไพร คิดว่าเป็นเพียงต้นไม้ที่ปลูกไว้ให้ร่มเงาเท่านั้น ในบทความนี้ผู้เขียนจึงได้นำข้อมูลของสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดที่มีความน่าสนใจ และนิยมปลูกไว้ทั่วไปตามบ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ นั่นก็คือ “พิกุล” ที่หลายคนอาจไม่คิดว่าต้นไม้ชนิดนี้ก็เป็นสมุนไพรเช่นกันภาพถ่ายโดยผู้เขียนลักษณะของ “พิกุล” พืชชนิดนี้ถูกจัดอยู่ในประเภทไม้ยืนต้นชนาดกลาง ลักษณะของลำต้นจะเป็นต้นไม้ที่มีลำต้นตรง มีกิ่งที่แตกขยายออกมาเป็นพุ่มที่มีใบปกคลุมหนาทีบให้ร่มเงาเป็นอย่างดี กิ่งของต้นพิกุลที่เป็นกิ่งอ่อนนั้นจะมีขนสีน้ำตาลคลุมอยู่ ที่เปลือกของลำต้นจะมีน้ำยางที่เป็นสีน้ำตาลอมเทา ต้นไม้ชนิดนี้จริง ๆ แล้วมีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอินเดีย ศรีลังกา ตามตำราบอกไว้ว่าได้ค้นพบเมื่อหลายพันปีก่อน เป็นพืชที่ทนกับสภาพน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี ลักษณะใบของพิกุลนั้นจะเป็นแบบใบเดี่ยวอกกเรียบสลับกันตามก้านใบและกิ่งของลำต้น ใบจะมีรูปรี ๆ โคนใบจะมนสอบ ขอบใบชนานกัน ส่วนปลายใบจะแหลมมีหยักเล็กน้อย คล้ายใบหอก ลักษษระของใบจะมันวาวและมีสีเขียวเข้ม ดอกมีกลิ่นหรอกสีขาวนวลและมีขนาดเล็ก แม้ว่าดอกจะแห้งแล้วก็ยังคงมีกลิ่นหอม มักจะออกเป็นกระจุกันตามซอกใบปลายกิ่ง ซึ่งขั้วของดอกจะเปราะทำให้หลุดร่วงง่าย ผลจะเป็นรูปรี ๆ ปลายแหลมเมื่อสดจะมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะมีสีเหลืองแกมส้ม ผิวเกลี้ยงเรียบ ภายในผลและมีเม็ดใหญ่เพียงเม็ดเดียว ผลสุกแล้วเนื้อจะหยาบและสามารถทานเล่นได้ ภาพถ่ายโดยผู้เขียนสรรพคุณของ “พิกุล” ใช้เป็นยาบำรุงโลหิต แก้ร่างกายอ่อนเพลีย บำรุงหัวใจ แก้ไข้ แก้อาการร้อนใน แก้อาการเจ็บคอ แก้อาการฟันผุปวดฟัน ช่วยขับเสมหะสมัยเด็กนั้นปู่เคยใช้ “พิกุล” มารักษาอาการให้หลายครั้ง โดยเฉพาะดอกนั้น เมื่อนำมาต้มกับใบ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย แล้วนำมาดื่ม สามารถช่วยลดอาการเจ็บคอ แก้ร้อนใน และยังแก้อ่อนเพลียได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการนำดอกแห้งกับแก่นของรากมาต้มดื่มก็ยังเป็นยาบำรุงหัวใจ และยังใช้เป็นยาขับเสมหะได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ “พิกุล” ยังมีสรรพคุณอื่น ๆ ในการทำยารักษาได้อีกหลายอาการที่กล่าวมานั้นเป็นการบอกเล่าจากประสบการณ์ ที่ผู้เขียนถูกถ่ายทอดมาจากปู่ที่มีความรู้เรื่องของสมุนไพรเป็นอย่างดี ทำให้รู้ว่าการใช้สมุนไพรนั้นได้ผลจริง ๆ และยังนำมาใช้ง่ายไม่ยุ่งยาก ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะทำให้ทุกท่านหันมาให้ความสนใจในพืชสมุนไพรมากยิ่งขึ้น เพื่ออนุรักษ์พืชสมุนไพรและภูมิปัญญาพื้นบ้านที่มีมาแต่โบราณให้คงอยู่สืบต่อไปภาพถ่ายโดยผู้เขียน