เชื่อว่าใครหลายๆคนต้องตกเป็นทาสรักชานมไข่มุกกันอยู่ใช่มั้ยคะ? แหม ก็ใครมันจะไปอดใจไหว เพราะช่วงนี้กระแสชานมไข่มุกมาแรงเว่อร์ๆ แน่นอนว่าต้องมีคนที่พยายามตามชิมรสชาติให้ครบทุกร้าน แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าลืมกันนะคะ ว่าชานมไข่มุกที่เรากินกันอยู่มีแคลอรี่สูงมากๆ แถมยังเสี่ยงเป็นโรคร้ายอีกมากมาย แล้วเราจะทำยังไงกันดี? วันนี้เรามีเคล็บลับการกินชานมไข่มุกยังไง ไม่ให้เป็นโรคเบาหวานมาฝากค่ะ ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่า ชานมไข่มุก 1 แก้ว ให้พลังงานประมาณ 240-360 กิโลแคลอรี่ เทียบเท่าข้าวเปล่า 3-4 ทัพพี หรือ เย็นตาโฟ 1 ชาม แถมปริมาณน้ำตาลในชานมยังสูงถึง 8-11 ช้อนชา ซึ่งปริมาณน้ำตาลที่ร่างกายต้องการต่อวัน เพียงแค่ 6 ช้อนชาเท่านั้น ส่วนตัวไข่มุกนั้นทำมาจากแป้งมันสัมปะหลังผสมกับน้ำตาล ดังนั้นไข่มุก 30 กรัม ให้พลังงานถึง 100 กิโลแคลลอรี่ ที่สำคัญคือ นอกจากความหวานและอร่อยแล้ว ชานมไข่มุกก็ไม่ได้ให้คุณค่าอะไรแก่ร่างกายเราเลย เพราะว่าเมื่อเราดื่มชาคู่กับน้ำตาลจะทำให้สารต้านอนุมูลอิสระในชามีคุณสมบัติลดลง และถ้าเรายังดื่มชานมไข่มุกเยอะๆอยู่ละก็ เสี่ยงเป็นโรคอ้วน เบาหวาน ไขมันเกาะตับ โรคหัวใจและหลอดเลือดแน่นอน! เคล็ดลับการกินชาไข่มุก แบบไม่เกินแคล!1.ลดความหวานลง : ร้านชานมไข่มุกส่วนใหญ่จะใส่น้ำตาลลงในชานมปริมาณที่มากเกินไป โดยจะอยู่ที่ระดับความหวาน 100% ดังนั้นเมื่อเราสั่งชานมไข่มุก เราควรลดระดับความหวานลงให้เหลือที่ 50% และลดลงจนเหลือประมาณ 30% ตามลำดับ2.แก้วเล็กกำลังดี : ร้านชานมไข่มุกแต่ละร้านจะมีขนาดแก้วให้เลือกมากมาย บางร้านมีด้วยกันถึง3 ขนาด นั่นก็คือ เล็ก กลาง ใหญ่ หากใครที่ติดกินชานมแก้วใหญ่ ให้ลดลงเหลือเพียงแค่แก้วเล็ก เพราะเรากินแค่ให้หายอยาก จะได้ไม่เสี่ยงเป็นโรคร้ายนะคะ3.กินแค่ครึ่งแก้วพอ : ถ้าใครที่อ่าน 2ข้อแรกไปแล้วรู้สึกเริ่มท้อใจที่จะต้องลดความหวานและลดขนาดแก้ว ถ้าเกิดทำไม่ได้ให้เรากินแค่ครึ่งแก้วพอค่ะ ที่เหลือจะแชร์กับเพื่อนก็ได้ค่ะ ประหยัดเงินไปตั้งครึ่งนึง4.เมื่อกินชานมไข่มุกแล้ว ต้องลดอาหารอย่างอื่น : ใช่แล้วค่ะ วันไหนที่เรากินชานมไข่มุกไป วันนั้นเราควรลดอาหารบางอย่างลง เช่นอาหารจำพวกแป้งและอาหารที่มีน้ำตาลสูงๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับปริมาณน้ำตาลที่มากเกินความจำเป็น จะได้ไม่เป็นโรคอ้วนนะคะ5.กินแค่อาทิตย์ละ 1 แก้ว : พยายามบังคับตัวเองให้กินชานมไข่มุกแค่อาทิตย์ละ 1 แก้ว หรือพยายามกินให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้เสียสุขภาพนะคะเป็นยังไงบ้างคะ เคล็ดลับ 5 ข้อนี้ ไม่ยากเกินไปใช่มั้ยคะ? ถ้ารู้แล้วก็อย่าลืมนำไปใช้กันด้วยน้า จะได้กินชานมไข่มุกได้อย่างสบายใจมากขึ้นค่ะ แล้วที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดีกันด้วยนะคะ