สวัสดีปีใหม่ทุกคนนะคะ วันนี้ณรัก. ได้นำเอา 5 สกินแคร์ใช้ดีที่สุดปี 2022 ที่ตั้งใจจะซื้อใช้ต่อในปี 2023 มารีวิวฝากเพื่อน ๆ เป็น 5 สกินแคร์ที่ช่วยให้หน้าเนียนใส ไร้สิว แต่งหน้าสวย Makeup ติดทน ส่วนตัวเราเป็นคนที่ผิวแพ้ง่ายด้วย เพราะงั้นสกินแคร์ที่นำมารีวิวในวันนี้ก็ล้วนแต่เป็นสูตรอ่อนโยนต่อผิวทั้งนั้น ว่าแต่จะมีแบรนด์อะไรบ้าง เราไปส่องกันเลยกับ 5 สกินแคร์ใช้ดีที่สุดปี 2022 ต้องซื้อต่อปี 2023! 1. โทนเนอร์งานผิวแห่งปีผลิตภัณฑ์ : SKIN1004 Madagascar Centella Toning Toneคุณสมบัติ : สารสกัด Centella Asiatica จากมาดากัสการ์ ค่า pH 5.5 เป็นกรดอ่อน ๆ ใกล้เคียงกับผิวปราศจากพาราเบน / มิเนอรัล ออย / แอลกอฮอล์ / ซิลิโคน / สีสังเคราะห์ขนาด : 30 mlใช้ตอนไหน : หลังทำความสะอาดผิวหน้า (เช้า-เย็น)โทนเนอร์งานผิวแห่งปีของเราก็คือ SKIN1004 Madagascar Centella Toning Tone หรือแอมพูลใบบัวบกยอดนิยมของเกาหลีนั่นเอง ขวดนี้เราซื้อมาในชุดทดลองใช้พร้อมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ SKIN1004 เพราะติดใจแอมพูลของเขา พอได้ลองใช้โทนเนอร์ไปก็ปรากฏว่าชอบอีก คุณสมบัติเด่นของเขาก็คือสารสกัด Centella Asiatica จากมาดากัสการ์ที่ช่วยปรับสภาพผิวให้สมดุล และ Polyhydroxy acid ที่ช่วยลดความหมองคล้ำด้วยการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน หลังจากใช้ไปแล้วรู้สึกได้เลยว่าช่วยให้ผิวของเราสะอาดมากขึ้น การบำรุงผิวขั้นต่อไปซึมซับได้ดี ผิวหน้าของเราเนียนขึ้นมากเลยค่ะ ส่วนตัวเราผิวมันขาดน้ำ ใช้แล้วหน้าไม่ลอกไม่มัน ลงรองพื้นแล้วเนียนสวย แต่งหน้าติดทนมากขึ้นด้วยค่ะ วันไหนอยากเน้นงานผิว เอาสำลีชุบมาส์กไว้บนหน้าในตอนเย็น พอแต่งหน้าตอนเช้ามันให้งานผิวที่ดีมาก ๆ เป็นสกินแคร์เตรียมผิวใช้ดีที่สุดในปี 2022 ที่เราจะซื้อต่อในปี 2023 แน่นอน! 2. แอมพูลใช้ดี สุดยอดไอเทมแห่งปีผลิตภัณฑ์ : SKIN1004 Madagascar Centella Ampouleคุณสมบัติ : Centella Asiatica จากมาดากัสการ์ 100% ค่า pH 5.5 เป็นกรดอ่อน ๆ ใกล้เคียงกับผิว ปราศจากพาราเบน / มิเนอรัล ออย / แอลกอฮอล์ / ซิลิโคน / สีสังเคราะห์ขนาด : 30 mlราคา : 390 บาทใช้ตอนไหน : หลังทำความสะอาดผิวหน้าหรือหลังลงโทนเนอร์ (เช้า-เย็น)สำหรับสกินแคร์ที่เป็นสุดยอดไอเทมแห่งปี 2022 เรายกให้ SKIN1004 Madagascar Centella Ampoule ไปเลย หลังจากลงโทนเนอร์ หยดแอมพูลลงบนผิวหน้า 3 จุด บริเวณหน้าผากและแก้มทั้งสองข้าง จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยและตบเบา ๆ เพื่อให้สกินแคร์ซึมเข้าผิว เนื้อสัมผัสของเขาจะคล้ายกับเซรั่ม แต่มีความเหลวใสใกล้เคียงกับน้ำมากกว่า ตอนเกลี่ยก็เลยง่ายมาก ซึมเข้าผิวเร็ว ไม่เหนอะหน้าเลยค่ะ ใช้แล้วรอยดำจากสิวจางลงอย่างเห็นผลชัดเจน ไม่เป็นสิวอุดตัน ผิวหน้าชุ่มชื้น ดูอวบอิ่ม หน้าเนียนใสขึ้น รู้สึกได้เลยว่าผิวแข็งแรงขึ้นมาก แต่งหน้าแล้วไม่มันเยิ้ม ส่วนตัวเราลดขั้นตอนการลงเอสเซนส์กับเซรั่มด้วยแอมพูลขวดนี้เลยค่ะ ประหยัดเวลาลงมาก แต่ยังเพิ่มการบำรุงแบบล้ำลึก เพราะแอมพูลจะใช้สารสกัดเข้มข้นกว่า มีเนื้อที่บางเบาและซึมได้เร็วกว่า ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาผิวก็เห็นผลเร็วกว่าด้วยค่ะ (หรือหากเพื่อน ๆ จะใช้ควบคู่กันก็ได้น๊า) ดีขนาดนี้ไม่มีไม่ได้แล้ว 3. เจลเยียวยาผิวแห่งปีผลิตภัณฑ์ : Smooto Aloe-E Snail Bright Gelคุณสมบัติ : ว่านหางจระเข้ เข้มข้น 99.5% ผสมวิตามินอีและสารสกัดเมือกหอยทากจากธรรมชาติ ไฮยาลูรอลิค แอซิด ฟื้นบำรุงผิวขาดน้ำ ปราศจากแอลกอฮอล์ขนาด : 50 กรัมราคา : 49 บาทใช้ตอนไหน : หลังลงแอมพูลหรือเซรั่ม (เช้า - เย็น)Smooto Aloe-E Snail Bright Gel เป็นเจลเยียวยาผิวหน้าตัวโปรดของเราเลยค่ะ ใช้มานานแล้วไม่เปลี่ยนใจ ขึ้นชื่อว่าสารสกัดจากว่านหางจระเข้ สรรพคุณเขาแน่มาตลอดอยู่แล้ว สำหรับเจล Smooto ซองนี้ ตอบโจทย์ผิวแบบเรามาก ๆ หน้าร้อนช่วยให้รู้สึกสดชื่น หน้าหนาวก็ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ตอนเช้าเราจะทาบาง ๆ ก่อนใช้เครื่องสำอาง แต่งหน้าไปผิวจะมีความวาวนิด ๆ แถมช่วยให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น แล้วก็ทาบำรุงอีกทีตอนเย็นแบบหนัก ๆ รู้สึกเหมือนได้เยียวยาผิวจากมลภาวะที่เจอมาทั้งวันเลยค่ะ หรือถ้าวันไหนว่าง ๆ ใช้สำลีแปะถุงใต้ตาพักไว้สักหน่อย เช้ามาหน้าดูสดใสขึ้นเยอะเลย ตาไม่แพนด้าหน้าก็ยิ่งแต่งสวย อิอิ แถมใช้แล้วมือสวยเล็บสวย เงาวาวด้วยล่ะ ปี 2023 นี้ยังไงก็ไม่เทอยู่แล้ว 4. ครีมบำรุงหน้านุ่มฟูแห่งปีผลิตภัณฑ์ : SKIN1004 Madagascar Centella Soothing Creamคุณสมบัติ : Centella Asiatica จากมาดากัสการ์ 100%Ceramides 4 ชนิดParaben Free / Mineral Oil Free / Alcohol Free / SLS Free / Artificial Color Freeขนาด : 30 mlใช้ตอนไหน : หลังลงแอมพลูหรือเซรั่ม และแล้วก็มาถึงครีมบำรุงแห่งปีของเรา SKIN1004 Madagascar Centella Soothing Cream เป็นสกินแคร์ที่ทำให้รู้ว่าการลงทุนซื้อครีมดี ๆ สักตัวมันดีอย่างนี้นี่เอง ปกติเราไม่ค่อยทาครีม เพราะเวลาทาแล้วหน้ามัน ตามมาด้วยสิวอุดตัน เลยเลือกใช้อย่างอื่นบำรุงเอาค่ะ 😅 แต่พอมาเจอครีมของแบรนด์นี้ จากการซื้อชุดทดลองใช้พร้อมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ SKIN1004 รู้สึกโชคดีมาก ความรู้สึกแบบว่า 'ในที่สุดฉันก็มีครีมใช้ดีกับเขาสักที! 555' โดยหลอดนี้จะเป็นครีมเนื้อเจล สีน้ำตาลคล้ายน้ำผึ้ง เนื้อบางเบา มีสารสกัดของใบบัวบก และเซราไมด์ที่ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้น และปกป้องผิวของเราจากมลภาวะต่าง ๆ เนื้อครีมของเขาซึมเร็วไม่เหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ ทาแล้วรู้สึกสบายผิวมาก ๆ ไม่มันเยิ้ม ที่สำคัญไม่เป็นสิวอุดตันด้วย ถูกใจมาก ส่วนตัวเราใช้ทาเฉพาะตอนเย็นเป็นประจำทุกวัน ใช้แล้วหน้านุ่มฟูมาก ๆ พอแต่งหน้าก็ดูอิ่มสดใส แต่งอ่อน ๆ ก็สวยเอาอยู่แล้วค่ะ เป็นอีกหนึ่งสกินแคร์ใช้ดีที่เราเพิ่งค้นพบ และเล็งไว้ว่าต้องซื้ออีกในปี 2023 แน่ ๆ 5. สเปรย์ผิวฉ่ำแห่งปีผลิตภัณฑ์ : Smooth E Facial Spray Cooling mistคุณสมบัติ : สเปรย์น้ำแร่ 100% จากฝรั่งเศสปราศจากน้ำหอม / Alcoholขนาด : 60 mlราคา : 200 บาทใช้ตอนไหน : ก่อนหรือหลังแต่งหน้า ปิดท้ายกับสเปรย์น้ำแร่ผิวฉ่ำแห่งปี Smooth E Facial Spray Cooling mist แพ็กเกจมีความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Smooth E มาก ๆ ขวดนี้เราซื้อมาในราคาโปรโมชั่นคู่กับเจลล้างหน้า คุ้มมากเลยค่ะ ส่วนตัวเราเป็นทาสเจลล้างหน้าของเขาอยู่แล้ว สเปรย์ขวดนี้ก็กลายเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์จาก Smooth E ที่เราชอบมากที่สุด โดยเขาบอกว่าเป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ 100% จากฝรั่งเศส ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน เตรียมผิวสำหรับแต่งหน้า ช่วยให้เครื่องสำอางติดทน และช่วยผ่อนคลายผิวจากความเหนื่อยล้า ส่วนตัวเราฉีดก่อนลงสกินแคร์ และฉีดพรมฟองน้ำสำหรับลงรองพื้น ช่วยให้ลงได้เนียนขึ้น แต่งหน้าแล้วดูมีมิติมากขึ้น ที่สำคัญใช้แล้วหน้าไม่เป็นสิวด้วย ถ้าวันไหนอยากให้ลุคดูฉ่ำ ๆ อิ่มน้ำ เราก็จะฉีดหลังแต่งหน้าอีกครั้ง หัวฉีดของเขากดง่าย ละอองน้ำแร่กระจายตัวได้ดีมาก ฉีดแล้วไม่เป็นหยดน้ำค้างเลย ชอบที่สุดตรงที่เขาช่วยควบคุมความมันได้ดี ใช้แล้วหน้าดูสดใส และรู้สึกสดชื่นผิวสุด ๆ เป็นหนึ่งใน 5 สกินแคร์ใช้ดีที่สุดที่เราจะซื้อต่อในปี 2023 อีกแน่นอนค่ะ! เราก็ได้รีวิว สกินแคร์ใช้ดีแห่งปี 2022 ที่จะต้องซื้อต่อในปี 2023 กันไปแล้ว หวังว่าบทความของเราจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาสกินแคร์ดี ๆ ไว้ใช้ในปี 2023 กันนะคะ ขอให้ทุกคนเจอสกินแคร์ที่ใช่สำหรับตัวเอง และมีผิวหน้าสวยสดใสกันทุกคนเลยน๊า ณรัก.ภาพปกและภาพประกอบทั้งหมดโดย ณรัก. 💈💅 รีวิวบิวตี้ไอเทมเทรนด์แฟชั่นแบบอันลิมิเต็ดแวะมาแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “TrueID Women”