ใกล้เข้ามาแล้วนะคะสำหรับหน้าร้อนปี 2566 หากจะพูดถึงหน้าร้อน สิ่งที่อดนึกถึงไม่ได้เลยก็คงจะเป็น มะม่วงสุก เนื่องจากเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน แถมยังมีราคาถูก ทานเปล่า ๆ ก็ชื่นใจ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปทำเมนูขนมหวานอีกได้มากมาย แต่มีใครบ้างที่จะรู้ว่ามะม่วงสุกนั้นมีประโยชน์อย่างไร วันนี้เราจึงจะนำประโยชน์ของมะม่วงสุกมาบอกเพื่อน ๆ กันค่ะ หากพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะโดยปกติแล้วมะม่วงแต่ละชนิดจะทานอร่อยก็ตามชนิด ว่ากินแบบไหน หากต้องการทานมะม่วงสุกนั้นจะนิยมทานกันในพันธุ์น้ำดอกไม้ พันธุ์อกร่อง และพิมเสน เนื่องจากจะมีกลิ่นหอม และหวาน โดยประโยชน์ของมะม่วงสุกมีดังนี้1. บำรุงสายตาเนื่องจากในมะม่วงสุกมีวิตามินเอ สารลูทีนและแอนตี้ออกซิแดนท์ ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องของการบำรุงสายตา ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงแดด และแสงสีน้ำเงินจากหน้าจอโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และในทีวีที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน 2. สร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายในมะม่วงมีวิตามินที่ช่วยสร้างภูมิต้านทาน ดังนี้วิตามินซี ช่วยเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง โดยทำให้ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวในการกำจัดเชื้อโรค และยังช่วยป้องกันหวัดอีกด้วยโฟเลต ช่วยลดอาการเกี่ยวกับโรคหัวใจและลดระดับความดันโลหิตได้วิตามินบี มีส่วนช่วยในเรื่องของระบบประสาท ช่วยในการสร้างฮอร์โมนลดอาการเครียด และยังช่วยบำรุงเล็บและผมวิตามินอี ช่วยในการป้องกันการเกิดลิ่มเลือดและการอุดตันของเส้นเลือด ลดการอักเสบของแผลในร่างกาย 3. มีสารต้านอนุมูลอิสระหากใครที่กลัวแก่นั้น มะม่วงมีสารอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการชะลอการแก่ชรา, ป้องกันอาการอัลไซเมอร์, ลดความเสี่ยงในการเกิดดรคมะเร็ง และป้องกันอาการเส้นเลือดในสมองตีบอีกด้วยค่ะ 4. ช่วยในการขับถ่ายใครที่มีปัญหาในเรื่องของการขับถ่าย มะม่วงสุกเป็นตัวช่วยที่ดีมากเลยค่ะ เนื่องจากในมะม่วงสุกนั้นมีกากใยและน้ำสูง หากทานไปจะช่วยในเรื่องอาการของท้องผูกได้ดีเลยทีเดียวค่ะ 5. ต้านมะเร็งในมะม่วงมีสารโพลีฟีนอล ซึ่งสามารถช่วยต้านมะเร็งบางชนิดได้ และนอกจากนี้ยังหยุดการเจริญเติบโตหรือทำลายเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย เช่น ในลำไส้ใหญ่ เม็ดเลือดขาว ต่อมลูกหมาก ปอด เป็นอย่างไรบ้างละคะสำหรับประโยชน์ของมะม่วงสุก หากจะทานเปล่า ๆ ก็อร่อย หรือหากเพื่อน ๆ เบื่อ ยังสามารถนำไปทำเป็นของหวานได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวเหนียวมะม่วง, ไอศกรีม, สมูตตี้ หรือ อื่น ๆ อีกมายมาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ควรทานไม่มากจนเกินไปนะคะ เนื่องจากมะม่วงสุกมีน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง จึงไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวาน แต่คนทั่วไปสามารถทานได้ในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไป โดยไม่ควรรับประทานเกินวันละ 2 หน่วย หรือประมาณ 160 กรัมค่ะ สำหรับวันนี้เราหวังว่าบทความที่เรานำมาฝากในวันนี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ แล้วอย่าลืมหน้าร้อนนี้หามะม่วงสุกมาทานกันนะคะ ได้ทั้งอร่อย ประโยชน์ และยังช่วยเหลือเกษตรกรไทยอีกด้วยค่ะ สำหรับวันนี้เราขอตัวลาไปก่อน สวัสดีค่ะเครดิตภาพภาพหน้าปก ออกแบบโดยผู้เขียนใน Canva โดยใช้รูปจาก Timur Weber ใน pexelsภาพที่ 1 โดย julie aagaard ใน pexelsภาพที่ 2 โดย Pixabay ใน pexelsภาพที่ 3 ออกแบบโดยผู้เขียน ใน Canvaภาพที่ 4 โดย rattanakun ใน Canvaภาพที่ 5 โดย Augustinus Martinus Noppé ใน pexelsอยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้