“เทมเป้” ถั่วหมักรักสุขภาพ ครั้งแรกที่ได้ทำความรู้จักกับเจ้าของกินหน้าตาหมดจดที่มีชื่อเรียกว่า “เทมเป้” ก็คือในวันที่เปิดดู เฟซบุ๊กของเพื่อนสาวคนหนึ่งที่เธอได้ลงภาพอาหารที่มีลักษณะเป็นก้อนขาว ๆ มองดูคล้ายเต้าหู้แต่มีเมล็ดถั่วเหลืองแทรกอยู่ตามก้อนขาวนั้นทั่วทั้งก้อน ปกติเต้าหู้จะเป็นเนื้อขาวเนียนเพราะทำมาจากถั่วเหลืองที่กรองเอากากออกเหลือเพียงน้ำ จึงเกิดความสงสัยว่าก้อนสีขาวที่มีเมล็ดถั่วปนอยู่นี้มันคืออะไร หลังจากที่ได้ถามข้อมูลคร่าว ๆ จากเพื่อนผู้นำพาให้ได้พบกับสิ่งใหม่นี้จึงได้คำตอบว่า ก้อนขาวที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายเต้าหู้นี้เรียกว่า “เทมเป้” บางคนอาจออกเสียงว่าเตมเป้หรือเตมเป แต่ข้อมูลเพียงเท่านี้มิได้ช่วยให้ความอยากรู้จักอาหารชนิดนี้จางลงไป จึงได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมทำให้ได้รู้ว่าเทมเป้นี้เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากเลยทีเดียว และถ้าสังเกตจากชื่อก็จะทำให้ทราบแน่ชัดอยู่แล้วว่าไม่ใช่อาหารไทยแน่นอน แล้วเจ้าเทมเป้นี้มีสัญชาติใดกันแน่ ฟังจากการอออกเสียงชื่อเรียกหลายคนอาจจะเดาว่าเทมเป้นั้นมาจากแดนปลาดิบหรือเปล่า แต่ด้วยหน้าตาเหมือนกับเป็นญาติกับเจ้าเต้าหู้ บางคนจึงคาดคิดไปว่าเทมเป้นั้นเดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ก็เป็นได้ ทั้งหมดที่คาดเดาไว้นั้นเป็นคำตอบที่ผิด เพราะเจ้าอาหารผิวขาวนวลนี้เดินทางมาจากดินแดนอิเหนาหรือประเทศอินโดนีเซียทางตอนใต้ของไทยเรานั่นเอง เทมเป้เป็นอาหารสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวชวามาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ชาวอินโดเรียกขานอาหารนี้ว่า เตมเป ซึ่งเป็นอาหารที่เกิดจากการหมักถั่วกับเชื้อราชั้นดีที่มีชื่อออกเสียงค่อนข้างยากว่า เชื้อรา Rhizopus oilgosporus (โรไซปัส โอลิโกสปอรัส) ถึงแม้เชื้อรานี้ชื่อจะเรียกยากแต่การสร้างสรรค์เจ้าเทมเป้ขึ้นมานั้นไม่ยากเลย เราใช้เวลาเพียง 2-3 วัน เชื้อราชั้นดีที่ได้ผสมหมักลงไปกับถั่วเหลืองก็จะปฏิบัติหน้าที่ถักทอเส้นใยขาวนวลโอบล้อมเมล็ดถั่วให้เกาะตัวกันเป็นก้อนขึ้นมา ถึงแม้ว่าขั้นตอนการผลิตจะง่ายแสนง่าย ใช้วัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่างแต่ถ้าพูดถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้และคุณค่าจากอาหารชนิดนี้แล้วนับว่าสูงเกินคาด เพราะเทมเป้จัดเป็นอาหารประเภท Whole Food & Plant- based หรืออธิบายให้เข้าใจโดยง่ายว่าเป็นอาหารที่รับประมานจากพืชเต็มส่วน เป็นธรรมชาติและผ่านกระบวนการปรุงแต่งน้อยจึงเก็บเกี่ยวสารอาหารไว้ได้มาก ในส่วนของเทมเป้นั้นจะผ่านเพียงกระบวนการต้มสุกและนำมาหมักในเชื้อเท่านั้น เทมเป้เป็นอาหารที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่เป็นมังสวิรัติหรือคนที่ต้องการลดปริมาณเนื้อสัตว์ในมื้ออาหาร เพราะถึงแม้ว่าเทมเป้จะทำมาจากพืชล้วนแต่ว่ามีโปรตีนที่ใช้แทนเนื้อสัตว์ได้ อีกทั้งในกระบวนการหมักถั่วนี้ก็ยังมีเชื้อแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายนั่นคือ Lactic Acid Bacteria ซึ่งเป็นเชื้อโพรไบโอติกส์ สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้เราปลอดภัยจากเชื้อโรคต่าง ๆ นอกจากนี้ในระหว่างที่เชื้อหมักกำลังเดินเส้นใยล้อมรอบเมล็ดถั่ว ขณะนั้นก็ได้เกิดวิตามินบีหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ซึ่งพบมากในเนื้อสัตว์แต่ไม่คอยพบในผักและผลไม้ จึงไม่แปลกที่ชาวมังสวิรัติจะถูกใจสิ่งนี้ ข้อดีของเทมเป้นั้นมีมากมายไม่ว่าจะเป็นสารอาหารตามที่ได้กล่าวไปแล้ว เทมเป้ยังเป็นอาหารที่ย่อยง่าย มีเส้นใยสูง อิ่มท้อง ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายเป็นอย่างดี ในส่วนของรสชาตินั้นนับว่าเป็นอาหารที่รับประทานง่ายเพราะมีรสชาติค่อนข้างจืด กลิ่นหอมอ่อน ๆ คล้ายกลิ่นเห็ด หรืออาจมีกลิ่นหอมใบตองถ้าใช้ใบตองห่อตอนหมักบ่มถั่ว เมื่อนำไปประกอบอาหารก็จะได้รสชาติอาหารต่าง ๆ ตามที่เราปรุง เมนูที่ทำจากเทมเป้นั้นมีทั้งผัด ทอด ต้ม อบ แล้วแต่แม่บ้านจะสร้างสรรค์ขึ้นมา จากที่ได้ลองลงมือทำเทมเป้ด้วยตนเองทำให้เราได้พบกับขุมทรัพย์อาหารเหมือนขุดถ้ำลงไปแค่ฝ่ามือก็ได้พบกับแร่ทองคำเพราะว่าวิธีทำนั้นแสนง่ายแต่กลับได้ของกินที่มากไปด้วยประโยชน์ ส่วนผสมและอุปกรณ์ก็มีไม่มาก ถ้าย้อนกลับไปหลายปีก่อน การทำเทมเป้อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องจากยังไม่เป็นที่รู้จักและเชื้อราชั้นดีของเรายังหายาก แต่ตอนนี้ใครที่สนใจจะทำเทมเป้ไว้รับประมานเองสามารถสั่งซื้อเชื้อหมักนี้ได้จากร้านค้าออนไลน์ เมื่อได้วัตถุดิบมาแล้วก็ลงมือทำได้เลย ขั้นตอนและคำแนะนำสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ ส่วนตัวนั้นศึกษาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ถามจากผู้รู้และอ่านเอกสารที่ได้มาจากร้านขายเชื้อหมัก เห็นหรือยังว่าอาหารที่ดีมีประโยชน์ไม่ได้ไกลเกินไปจากห้องครัวของเรานัก ลองทำดูแล้วจะรู้ว่าความสุขจากการทำอาหารและความสุขจากการที่มีสุขภาพที่ดีมันเป็นอย่างไรภาพประกอบทั้งหมดโดยนักเขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
