ความดันโลหิตต่ำ...ภาวะเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม ภาวะความดันโลหิตต่ำเกิดจากการที่เลือดไหลเวียนกลับเข้าสู่หัวใจน้อย ส่วนสาเหตุนั้นได้แก่ โรคหัวใจเสียจังหวะเพราะหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดเข้าหลอดเลือดได้ตามปกติ ส่วนสาเหตุอื่น ๆ ก็คือ โรคต่อมใต้สมอง โรคเนื้องอกหรือโรคมะเร็งบางชนิด เสียเลือดจากอุบัติเหตุ โรคโลหิตจาง รับประทานยาขับปัสสาวะ น้ำตาลในเลือดต่ำ อาการของโรคความดันโลหิตต่ำ คือ วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น รู้สึกเหมือนจะเป็นลม เหนื่อยและอ่อนเพลียง่าย ตาพร่ามัวมองไม่ชัด บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ซึ่งผลข้างเคียงจากโรคความดันโลหิตต่ำนั้นอาจทำให้อวัยวะต่าง ๆ ขาดเลือด เป็นเหตุให้เกิดอาการชัก โคม่า และเสียชีวิตได้ ภาพโดย https://www.freepik.com/free-photo/close-up-measuring-blood-pressure-device_5048429.htm#page=1&query=Blood%20pressure&position=40 วิธีการดูแลตัวเอง 1. พยายามระมัดระวังไม่ให้ล้มเมื่อมีอาการเวียนศีรษะ ควรหาที่จับ นั่ง หรือควรนอนพักจนกว่ารู้สึกดีขึ้นถึงค่อย ๆ ลุกขึ้นมาอย่างช้า ๆ 2. พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ทำให้เมื่อตื่นขึ้นมาร่างกายจะรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเป๋า 3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรหักโหมจนเกินไปเพราะอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำจนช็อคได้ หลังออกกําลังกายควรดื่มน้ำดื่มเกลือแร่เสริม ดีขึ้นถึงค่อย ๆ ลุกขึ้นมาอย่างช้า ๆ 2. พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ทำให้เมื่อตื่นขึ้นมาร่างกายจะรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเป๋า 3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรหักโหมจนเกินไปเพราะอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำจนช็อคได้ หลังออกกําลังกายควรดื่มน้ำดื่มเกลือแร่เสริม ภาพโดย https://www.freepik.com/free-photo/crop-doctor-measuring-blood-pressure-patient_3019453.htm#page=1&query=Blood%20pressure&position=17 4. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยชะล้างสารพิษ 5. รับประทานผักผลไม้ที่มีเกลือโซเดียมสูง เช่น กล้วย ส้ม สับปะรด น้ำมะเขือเทศ ธัญพืชเต็มเมล็ด และอาหารทะเล ภาพโดย https://www.freepik.com/premium-photo/heart-with-stethoscope-heart-health-health-insurance-concept_5704248.htm โรคความดันโลหิตต่ำอยู่ในภาวะเสี่ยงที่อันตรายและส่งผลต่อระบบหัวใจ เป็นโรคที่เสียชีวิตหากปล่อยไว้ไม่รักษาเลยดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี อย่างไรก็ตามหากรู้สึกว่ามีอาการดังที่กล่าวมาควรรีบไปพบแพทย์ทันที แต่หากยังไม่มีอาการก็ควรดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ และมันตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ เครดิตภาพปก : https://www.freepik.com/free-photo/medical-equipment_4160924.htm#page=1&query=Blood%20pressure&position=1