9 ประโยชน์ของฟักทอง ผักสีเหลือง ที่มีผลดีต่อสุขภาพแบบจัดเต็มฟักทองเป็นผักที่หลายคนชื่นชอบด้วยสีสันที่มีสีเหลืองเฉพาะตัว กับเนื้อของฟักทองที่อ่อนนุ่มหลังจากปรุงสุกแล้ว รวมไปถึงฟักทองเป็นผักที่สามารถนำมาประกอบอาหาร ขนมและอื่นๆ ได้หลากหลายเมนูค่ะ โดยส่วนตัวผู้เขียนเองก็ชอบฟักทองนะคะ ส่วนมากจะนำฟักทองมาประกอบอาหารมากกว่า แต่ก็มีบ้างเป็นบางครั้งที่นำฟักทองมาทำขนมหรือเบเกอรีชนิดต่างๆ ค่ะ ฟักทองบ้านเราหาซื้อได้ง่ายและราคาหลักสิบ จะซื้อทั้งลูกก็ได้หรือจะซื้อแบบตัดแบ่งขายก็ยังได้อีก จนทำให้หลายคนหันมาชอบฟักทองเพราะหาได้ง่ายๆ กับประโยชน์ที่ฟักทองสามารถให้กับเราได้ค่ะ และผู้เขียนเชื่อว่าในคนที่รู้ว่าสรรพคุณของฟักทองมีอะไรบ้างนั้นต้องมีจำนวนไม่น้อยที่อาจจะยังรู้ไม่หมดว่าฟักทองมีอะไรดีๆ อีกบ้างแน่นอน ดังนั้นบทความนี้ขอนำเสนอ 9 ประโยชน์ที่มีอยู่ในฟักทองที่คุณอาจยังรู้ไม่หมดค่ะ ดังนั้นเรามารู้กันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้างที่น่าสนใจในฟักทอง1. มีคุณค่าทางอาหารสูง ฟักทองมีสารอาหารที่หลากหลายค่ะ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี เบต้าแคโรทีนและคาร์โบไฮเดรต โดยวิตามินซีมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา ส่วนคาร์โบโฮเดรตก็คือแหล่งที่ให้พลังงานกับร่างกายดีๆ นี่เองค่ะ นอกจากนี้สีเหลืองของฟักทองคือเบต้าแคโรทีนที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานปกติของระบบภูมิคุ้มกันโรคในร่างกาย และในเวลาเดียวกันเบต้าแคโรทีนในฟักทองนี้ยังถูกระบุว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วยค่ะ ที่พูดมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงคุณค่าทางโภชนาการบางส่วนที่พบในฟักทองเท่านั้นนะคะ เห็นไหมคะว่าฟักทองมีคุณค่าทางอาหารสูงจริงๆ2. ฟักทองช่วยลดน้ำหนัก เนื่องจากว่าฟักทองมีปริมาณแคลอรีต่ำและมีกากใยอาหารสูง พอกินฟักทองเข้าไปแล้วจึงทำให้รู้สึกอิ่มนานมากขึ้นค่ะ และการที่ฟักทองให้พลังงานต่ำนี้จึงไม่ได้ทำให้เป็นปัญหาสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยการควบคุมปริมาณแคลอรีในแต่ละวันค่ะ และจากที่สังเกตมาด้วยตัวเองนะคะฟักทองมีกากใยอาหารสูงจริงค่ะ เพราะสามารถขับถ่ายได้คล่องและไม่หิวบ่อยค่ะ ปกติผู้เขียนชอบนำฟักทองมานึ่งค่ะ เพราะชอบการกินฟักทองที่ให้รสชาติตามธรรมชาติของฟักทองจริงๆ ค่ะ ฟักทองสามารถนำมานึ่งไปพร้อมๆ กับการทำปลานึ่งแจ่วได้ด้วย การต้มฟักทองก็สามารถทำได้ค่ะแต่ต้องระวังอย่าให้เละ‼️ จนเกินไป3. มีส่วนช่วยบำรุงสมอง จากที่ฟักทองมีเบต้าแคโรทีนสูงและจากที่เบต้าแคโรทีนมีความสามารถเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้นั้น จึงทำให้ฟักทองมีส่วนช่วยบำรุงสมองค่ะ เพราะสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องเยื่อสมองจากอนุมูลอิสระที่ไปมีส่วนทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม และมีส่วนช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ตามมานั่นเองค่ะ 4. ช่วยส่งเสริมกระบวนการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ฟักทองมีธาตุเหล็กและแคลเซียม จึงทำให้การกินฟักทองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างกระดูกและฟันค่ะ โดยการกินฟักทองสามารถช่วยให้กระดูกและฟันมีสุขภาพดีขึ้นได้ ซึ่งอาจเห็นได้ชัดเจนในวัยเด็กเพราะอยู่ในช่วงที่มีการพัฒนาของกระดูกและฟัน สำหรับวัยอื่นๆ นั้น การกินฟักทองมีส่วนช่วยป้องกันการเสื่อมตามธรรมชาติของกระดูกและฟันค่ะ หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือใครกินฟักทองก็ได้ประโยชน์กันถ้วนหน้าค่ะ5. ฟักทองช่วยในเรื่องบำรุงผิวพรรณ นอกจากฟักทองมีคุณค่าทางอาหารจากที่ได้พูดมาข้างต้นแล้วนะคะ ฟักทองยังมีวิตามินซีที่มีส่วนช่วยในการส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน และคอลลาเจนคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ผิวพรรณดูดีขึ้นและแลดูสวยงามตามธรรมชาติค่ะ6. ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน การกินฟักทองทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลกลูโคสในระดับต่ำ จึงอาจพูดได้ว่าฟักทองช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ในคนที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงค่ะ จึงช่วยลดความเสี่ยงหรือภาวะแทรกซ้อนจากการเป็นโรคเบาหวานได้7. ฟักทองมีส่วนช่วยส่งเสริมการย่อยอาหาร จากที่ฟักทองมีกากใยอาหารที่มากจึงเป็นผลดีต่อระบบย่อยอาหารค่ะ โดยฟักทองสามารถช่วยกระตุ้นกระบวนการย่อยอาหารและช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น การขับถ่ายก็คล่องขึ้นค่ะ8. ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ฟักทองมีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีตามธรรมชาติค่ะ จึงมีส่วนอย่างมากที่ไปทำให้ลดการอักเสบภายในร่างกาย และในกรณีที่มีบาดแผลตามร่างกาย การกินฟักทองมีส่วนช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้นค่ะ เพราะเมื่อการอักเสบลดลงกระบวนการหายของแผลก็เกิดขึ้นได้ตามปกติที่ควรจะเป็นแผลจึงหายได้เร็วขึ้นค่ะ9. ส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น ตามที่เราได้รู้มาแล้วว่าฟักทองมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระนั้น จึงสามารถพูดได้ต่อว่าฟักทองมีส่วนช่วยส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ จึงทำให้ร่างกายมีความสามารถต้านทานเชื้อโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น การเจ็บป่วยก็เกิดขึ้นน้อยนั่นเองค่ะและทั้งหมดคือประโยชน์ดีๆ ที่มีอยู่ในฟักทองค่ะ จึงอยากเชิญชวนให้คุณผู้อ่านหันมากินฟักทองกันมากขึ้นค่ะ เพราะหลายบ้านอาจเจอปัญหาว่าคนในบ้านกินผักน้อยหรือไม่ค่อยกินผัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกลิ่นและรสชาติของผักค่ะ แต่ถ้าลองกินฟักทองนะคะจะพบว่าเป็นผักที่กินได้ง่าย ไม่มีรสชาติที่ไม่พึงประสงค์กวนใจ แถมด้วยประโยชน์แบบจัดเต็มจากทั้ง 9 ข้อที่ได้พูดมาค่ะ ให้ลองเริ่มจากการกินฟักทองที่ทำเป็นขนมก่อนก็ได้ค่ะ หรือน้ำฟักทองก็น่าสนใจไปอีกแบบนะคะ โดยส่วนตัวผู้เขียนเคยกินฟักทองมาแทบจะหมดทุกรูปแบบแล้วค่ะ ก็พบว่าชอบแบบนึ่งที่สุดค่ะ ผัดฟักทองใส่ไข่ก็ทำได้นะคะ จะว่าไปเมนูนี้จะดีหากเราอยากได้วิตามินซีในฟักทอง เพราะการนำฟักทองไปทำเมนูที่ใช้ความร้อนสูงเป็นเวลานาน มีส่วนทำให้วิตามินซีตามธรรมชาติถูกทำลายด้วยความร้อนค่ะ ดังนั้นดีที่สุดคือการนำฟักทองมาทำอาหารให้หลากหลายหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปค่ะ ก็ฝากไว้เพียงเท่านี้และขอจบเนื้อหาดีๆ เกี่ยวกับฟักทองค่ะและหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านนะคะเครดิตภาพประกอบบทความภาพหน้าปก โดย TapisRouge จาก Pixabayภาพประกอบเนื้อหาโดย ผู้เขียนออกแบบหน้าปกใน Canvaบทความอื่นที่น่าสนใจมะขามเทศ คนเป็นเบาหวานกินได้แค่ไหนตามคำแนะนำของกรมอนามัย พุทราจีน คนเป็นเบาหวานกินได้แค่ไหนตามคำแนะนำของกรมอนามัย ปริมาณน้ำตาลในน้ำอัดลม กับข้อมูลด้านสุขภาพที่จำเป็นต้องรู้ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !