7 โรคฮิตที่มักเกิดขึ้นได้ในช่วงหน้าร้อนที่เราต้องระวังกันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนๆการใช้ชีวิตที่แสนจะง่ายก็กลับยุ่งยากด้วยสภาพแวดล้อม สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย อาหารการกิน อารมณ์แปรปรวนได้ง่าย อากาศร้อนๆแบบนี้ใช่ว่าเชื้อโรคจะกลัวไปซะหมดแต่ก็มีเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่มักเจอและเกิดขึ้นได้บ่อยกับทุกๆคนได้ โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียที่ที่ทำให้เกิดโรคทางเดินอาหาร จนนำไปสู้อาการเจ็บป่วยได้7 โรคฮิตที่มักเกิดขึ้นได้ในช่วงหน้าร้อน1.โรคลมแดดหรือฮีทสโตรก สาเหตุเกิดจากอุณหภูมิในร่างกายสูงจนเกินไป อาจพบได้บ่อยสำหรับคนที่ทำงานกลางแจ้งนานๆหรือนักกีฬาที่เล่นกีฬากลางแจ้งเป็นเวลานานๆ ผู้ที่ชอบออกกำลังกายและใช้กำลังมากๆ จนเกิดความร้อนในร่างกายสูงเกินจนเกิดอาการเหงื่อออกมาก นำไปสู่อาการซึม ผิวหนังเริ่มแดง ชัก หน้ามืด ปวดหัว อาเจียน หัวใจเต้นถี่หรือเต้นเร็ว อ่อนแรง หมดสติไป การรักษาพยาบาลเบื้องต้นควรนำผู้ป่วยเข้าร่ม อยู่ในที่ๆมีอากาศถ่ายเท แล้วให้ทำการถอดเสื้อ คลายเครื่องแบบออกแล้วนำผ้าชุบน้ำมาเช็คตั้งแต่ศีรษะและซอกหนีบต่างๆ เช่น รักแร้ ขาหนีบ ลำคอ หรือถ้ามีโอ่งน้ำหรืออ่างน้ำเย็นก็นำลงไปแช่เพื่อให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง ก่อนจะนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล วิธีป้องกันควรใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว อยู่ในที่ๆมีอากาศถ่ายเท ถ้าจำเป็นต้องตากแดดควรสวมหมวกและแว่นกันแดด2.โรคพิษสุนัขบ้าหรือโรคกลัวน้ำ สำหรับคนที่ชอบเลี้ยงสัตว์ควรระมัดระวังโรคที่เกิดจากการที่โดนสุนัข แมว กระต่าย ลิง หนู วัว เป็นต้นกัด ถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงของคนอื่นควรหาเจ้าของเพื่อขอทราบรายละเอียดว่าสัตว์เลี้ยงได้ฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้างหรือเปล่า? บาดแผลที่โดนกัดในน้ำลายของสุนัขและแมวจะมีเชื้อไวรัสนี้อยู่ ให้เราทำความสะอาดแผลที่โดนกัดทันทีด้วยน้ำสะอาดและสบู่หลายๆรอบ ล้างให้ถึงก้นแผลยิ่งดี จากนั้นให้ใส่ยาโพวิโดนไอโอดีนบริเวณบาดแผล ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาต่อไปและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า วิธีป้องกันควรพาสัตว์ไปฉีดยาโรคพิษสุนัข ไม่ควรเล่นกันสุนัขจนเสี่ยงถูกกัด เช่น ตี แหย่ ทำให้สัตว์ตกใจ เป็นต้น ควรระวังเมื่อให้อาหารสุนัขจรจัด3.อาหารเป็นพิษ เนื่องจากอากาศร้อนๆแบบนี้เรื่องการกินอาหารในแต่ละมื้อก็สำคัญ มักจะเกิดจากการปนเปื้อนของแบคทีเรียในอาหารและน้ำที่เราดื่มเข้าดื่มเข้าไป รวมทั้งการกินอาหารสุกๆดิบๆ จะทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ปวดศีรษะ ไข้ ถ้าเสียน้ำในร่างกายมากก็จะทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย กระหายน้ำบ่อยๆ วิธีป้องกันถ้าเกิดอาการดังกล่าวแล้ว อาการก็มักจะหายได้เอง 1-2 วัน ดังนั้นควรงดอาหารที่เปรี้ยวจัด เผ็ดจัด ของหมักดองทุกประเภท อาหารสุกๆดิบๆ แกงที่ใส่กะทิ ขนมหวาน ส้มตำ อาหารทะเล ผักสด รวมถึงน้ำแข็ง ควรกินอาหารปรุงเสร็จใหม่ๆ สุก สะอาด ดื่มน้ำสะอาดให้มากหรือเกลือแร่ อย่าลืมล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง ถ้ามีอาหารคลื่นไส้ร่วมด้วยก็ให้กินยาแก้คลื่นไส้ งดออกกำลังกายหรือทำงานหนักๆ ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบพบแพทย์ทันทีนะคะ4.โรคอุจจาระร่วง เกิดจากการถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำหรือมีมูกผิดปกติ ตั้งแต่ 3 ครั้งติดต่อกันมากกว่า 1 วัน อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ อ่อนเพลีย สาเหตุเกิดจากเรากินน้ำ เครื่องดื่มหรืออาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย จนทำให้เกิดอาการดังกล่าวอุจจาระร่วงอาจมีแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง โดยแบบเฉียบพลันคือการที่กระอาหารและลำไส้เกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรียมีอาการตั้งแต่ 1-7 วัน แบบเรื้อรังจะมีอาการท้องไส้แปรปรวนท้องเสีย เป็นเวลาติดต่อกัน 14 วัน จนทำให้ ลำไส้อักเสบ เป็นต้น วิธีป้องกันเมื่อเกิดอาการแล้ว ควรกินอาหารอ่อน เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ดื่มเกลือแร่และน้ำเปล่าที่สะอาดให้มากๆ งดกิจกรรมที่ใช้กำลังหนักๆและพักผ่อนให้เพียงพอ ควรทานอาหารที่ปรุงสุก สะอาด ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนหยิบจับอาหารเข้าปาก ไม่ควรวางของกินไว้ในห้องเมื่อไม้ได้กิน ควรเก็บแช่ในตู้เย็นและทำความสะอาดภาชนะที่ใส่ทุกครั้ง 5.อหิวาตกโรค เกิดจากอาหารและน้ำดื่มปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียเป็นโรคที่ระบาดและติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย มักเกิดในชุมชนที่แออัดมากๆ ผู้ป่วยมักจะมีอาการอุจจาระเป็นครั้งเป็นคราเป็นน้ำทีละมากๆ ทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่อย่างรวดเร็ว อาจส่งผลทำให้ช็อก หมดสติหรือเสียชีวิตได้ วิธีป้องกันควรดื่มน้ำและอาหารที่สะอาด ไม่กินอาหารสุกๆดิบๆและไม่กินอาหารที่มีแมลงวันตอม ดื่มน้ำให้เพียงพอให้แต่ละวัน อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว มั่นทำความสะอาดภาชนะที่ใส่อาหาร ออกำลังอย่างสม่ำเสมอ6.โรคบิด เกิดจากการกินอาหาร ผักดิบที่มีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน ทำให้อุจจาระบ่อย อุจจาระมักจะปนเลือดหรือเป็นมูกและมักจะถ่ายบ่อยมีวความรู้สึกว่าถ่ายไม่สุดสักที ผู้ป่วยมักจะมีอาการไข้ร่วมด้วย วิธีป้องกัน กินอาหารที่ปรุงสุกเท่านั้น ดื่มน้ำที่สะอาด การถ่ายอุจจาระควรถ่ายลงส้วมเท่านั้น พื้นที่รอบบ้านก็ควรจะสะอาด ขยะก็ควรเก็บใส่ถังแล้วปิดฝาให้เรียบร้อย ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เพื่อป้องกันหากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ 7.ไวรัสตับอักเสบA เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอย่างหนึ่งที่มีชื่อว่า Salmonella Typhi มีปนเปื้อนมากับอาหารหรือน้ำดื่ม จนทำให้เกิดอาการไข้ ท้องเสีย ปวดท้อง ปวดหัว อาเจียน อ่อนเพลีย วิธีป้องกันก็ง่ายๆ กินอาหารที่ปรุงสุก ใหม่ สะอาด ควรใช้ช้อนกลางเมื่อร่วมรับประทานกับผู้อื่น ล้างมือทุกครั้งก่อนกินอาหารหรือสัมผัสกับสิ่งของต่างๆ หมั่นออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ควรดูแลตัวเองในช่วงหน้าร้อนอย่างไรบ้าง? อารมณ์ก็ร้อน อุณหภูมิในร่างกายก็ร้อนก็อาจส่งผลทำให้สุขภาพแย่ลงและเกิดอาการเจ็บป่วยตามมา จึงควรใส่ใจดูแลตัวเองอย่างเป็นพิเศษเหมือนทุกๆฤดู ผู้เขียนมีวิธีดูแลสุขภาพง่ายๆที่ผู้เขียนทำเป็นประจำอยู่แล้วมาฝากเพื่อนๆและทุกๆคนทุกเพศทุกวัยก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ถ้าเราปฏิบัติอย่างถูกวิธีโรคภัยไข้เจ็บก็ไม่เข้ามาเบียดเบียนเราได้ มีวิธีดังนี้ดื่มน้ำเปล่า อย่างน้อยวันละ 8 แก้วหรือมากกว่านั้นก็ได้ และควรจิบบ่อยๆไม่ต้องรอให้ตัวเองมีอาการคอแห้งมากเกินไป แต่ก็ไม่ควรดื่มดื่มทีละมากๆ จิบระหว่างวันหรือ 1 ชั่วโมงต่อน้ำ 1 แก้ว และไม่ควรดื่มน้ำใส่น้ำแข็งทีละมากๆหรือเย็นจัด ควรเป็นน้ำเปล่าไม่เย็นธรรมดาจะดีกว่าไม่ตากแดดในเวลานานๆหรือใครที่มีกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน ควรพักเข้าร่วมบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ หรือหมดสติไป มั่นจิบน้ำบ่อยๆหรือดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ควรใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี เสื้อผ้าไม่หนาและซับเหงื่อได้ง่าย ใส่สบาย โล่ง และเน้นเป็นโทนสีอ่อนๆไม่ควรทานอาหารที่สุกๆดิบๆ เพราะอาจทำให้ท้องเสียหรือมีพยาธิต่างๆตามมา ควรทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่เท่านั้นไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป เพราะอากาศร้อนจะทำให้แอลกอฮอล์ดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้เป็นอย่างดีและเร็วกว่าปกติ อาจทำให้เกิดอาการช็อคหมดสติ หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง แต่ไม่ควรออกกำลังกายกลางแจ้งที่มีแสงแดดจัดๆ เพราะอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและหมดสติได้7 โรคฮิตที่มักเกิดขึ้นได้ในช่วงหน้าร้อนที่มักเกิดขึ้นได้กับทุกคน มีวิธีป้องกันง่ายๆเมื่อเราหมั่นทำตามที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้ โรคและเชื้อโรคเหล่านี้ก็ไม่กล้าเข้าใกล้เราแล้ว ที่สำคัญควรทำอารมณ์ให้แจ่มใส่อยู่เสมอและออกกำลังกายเป็นประจำด้วย คงไม่มีใครอยากเจ็บหรอกนะไม่ว่าจะฤดูไหนๆเราก็ควรใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเพราะไม่มีโรคภัย ก็เป็นเรื่องที่ประเสริฐที่สุดในชีวิตแล้ว สุดท้ายนี้ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนอย่างสูงสุดนะคะ ภาพประกอบเครดิตจากpexels ภาพที่1โดยAndrea Piacquadio,ภาพที่2โดยSyed Qaarif Andrabi,ภาพที่3โดยicon0.com,ภาพที่4โดยSora Shimazaki,ภาพที่5โดยAndrea Piacquadioภาพปก ออกแบบจากcanvaโดยผู้เขียนบทความ ภาพปกจากpexels โดย Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !