โรคกลุ่ม NCDs ย่อมาจาก Non-communicable diseases คือโรคกลุ่มที่ไม่ติดต่อ เป็นโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค ไม่ติดต่อแม้มีการสัมผัส โรคกลุ่ม NCDs เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น การกินอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ การที่ไม่ออกกำลังกายการไม่พักผ่อนร่างกายอย่างเต็มที การสูบบุหรี่ดื่มสุราจัด ภาวะเครียดทางร่างกายและจิตใจในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรค NCDs ถึง14ล้านคน เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากกว่า73% ของคนไทย ในปี2552โรคกลุ่ม NCDs มีอะไรบ้าง1.โรคเบาหวาน คือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต แป้ง น้ำตาล ของหวานมากเกินไปทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติจนตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมน อินซูลิน (Insulin) มาจัดการกับน้ำตาลในเลือดได้ จึงส่งผลต่อร่างกายเช่น เบาหวานลงไตทำให้ไตเสื่อมสภาพและเบาหวานขึ้นตาทำให้ตาบอดในที่สุดและเบาหวานไม่ใช่โรคที่เกิดเฉพาะ ผู้สูงวัยหรือคนอ้วนเท่านั้นเครดิตภาพ https://pixabay.com/photos/chocolate-bar-snack-candy-chocolate-1636220/2.โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ คือภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจากหลอดเลือดตีบหรืออุดตันหรือหลอดเลือดแตกส่งผลให้เนื้อเยื่อสมองถูกทำลายและการทำงานของสมองเกือบทั้งหมดหรือทั้งหมดทำงานผิดปกติเสี่ยงต่อการเป็น อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหลอดเลือดสมองแบ่งออกเป็น 2 ประเภทประเภทที่1 หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน เกิดจากการสะสมไขมันในหลอดเลือดทำให้ประสิทธิภาพในการลำเรียงเลือดลดลง ส่วนหลอดเลือดสมองอุดตันเกิดจากลิ่มเลือดจากหัวใจไปอุดตันที่หลอดเลือดสมองประเภทที่2 หลอดเลือดสมองปริแตกหรือฉีกขาด เกิดจากหลอดเลือดมีความเปราะบาง ซึ่งเกิดจากภาวะความดันโลหิตสูงหรือหลอดเลือดเสียความยืดหยุ่นจากการสะสมไขมันในหลอดเลือดทำให้ปริแตกง่ายเครดิตภาพ https://pixabay.com/photos/wheelchair-disability-lame-handicap-2489427/3.โรคมะเร็ง คือโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการดื่มสุราและสูบบุหรี่เป็นประจำจนไปทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายทำการแบ่งตัวผิดปกติกล้ายเป็นเซลล์ร้ายแพร่กระจายไปทั่วร่างกายจนทำให้เสียชีวิตในที่สุดเครดิตภาพ https://pixabay.com/photos/smoking-cigarette-bad-air-ash-2529858/4.โรคอ้วนลงพุง เกิดจากการกินมากกว่าเผาผลาญ กินเยอะแล้วไม่มีการออกกำลังกาย ไม่ค่อยขยับร่างกายในแต่ละวัน จนทำให้เกิดส่วนเกินไขมันไปสะสมในส่วนต่างๆของร่างกาย ซึ่งเป็นอันตรายโดยเฉพาะไขมันในช่องท้อง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่างๆมากมาย เช่น หลอดเลือดสมองแตก ไตวาย เบาหวาน และทำให้ข้อเข่าเสื่อม 5.โรคถุงลมโป่งพอง เกิดจากการพฤติกรรมการสูบบุหรี่ สารนิโคตินในบุหรี่จะเข้าไปทำลายปอดและหลอดเลือดจึงส่งผลเสียต่อร่างกายและมีความเสี่ยงต่อโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคปอด โรคมะเร็ง (สารนิโคติน คือ สารเคมีให้โทษชนิดหนึ่งที่พบในกลุ่มยาสูบ เช่น บุหรี่ ซิการ์ ไปป์ สารนิโคตินส่งผลต่อสมองและระบบประสาท มีฤทธิ์ในทางการเสพติด เนื่องจากนิโคตินที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายจะมีผลทำให้เกิดการหลั่งสารเอพิเนฟรีนที่ต่อมหมวกไต)เครดิตภาพ https://pixabay.com/photos/diagnosis-xray-chest-lungs-ribs-1476620/6.โรคความดันโลหิตสูง เกิดจากการกินอาหารที่ หวานจัด มันจัด เค็มจัด มากเกินไป ไม่ออกกำลังกาย ไม่มีกิจกรรมที่ใช้พลังงานทำให้ไขมันเกาะตามหลอดเลือดต่างๆ ทำให้หลอดเลือดตีบตัน หัวใจทำงานหนักเพื่อที่จะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย มีความเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดในสมองแตก อาจจะเป็น อัมพฤกษ์ อัมพาต ถึงขั้นเสียชีวิตได้เครดิตภาพ https://pixabay.com/photos/hypertension-high-blood-pressure-867855/กลุ่มคนที่เสี่ยงต่อโรค NCDs มากที่สุด คือ วัยทำงาน กิจกรรมส่วนของคนวัยทำก็ คือ การนั่งทำงานทั้งวัน ไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เหนื่อยจากการทำงานก็หาของหวานอาหาร Fast Food มารับประทานเพื่อประหยัดเวลา รีบกินรีบนอนก่อนนอนก็เล่นโซเซียล บางคนเสพแต่ข่าวเครียดๆ บางคนเล่นเกมมือถือนานเกินจนเวลานอนเหลือน้อยทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่เต็มที่ พฤติกรรมการใช้ชีวิตของวัยทำงานเต็มไปด้วยความเครียดและการสังกรรค์พบปะเพื่อนฝูงเป็นประจำ บางคนสูบบุหรี่เพียงเพราะเพื่อนๆสูบ กลุ่มโรค NCDs คือ โรคที่เกิดพฤติกรรมการใช้ชีวิต ฉะนั้นการจะแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดก็ต้องแก้กันที่พฤติกรรมและการบริหารเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด เสียเงินให้โรงพยาบไม่คุ้มเท่าค่าอาหารดีๆกับค่าฟิตเนสนะครับเครดิตภาพ https://pixabay.com/illustrations/obese-weight-loss-man-nutritionist-3011213/แนวทางการแก้ปัญหากลุ่มโรค NCDs1.เริ่มจัดการบริหารเวลาของตัวเอง2.ออกกำลังกายในเวลาที่คุณมีให้ได้สม่ำเสมอ ไม่หนักและไม่ง่ายจนเกินไป3.ดูแลเรื่องโภชนาการ หากมื้ออาหารไหนที่คุณสามารถเลือกได้ ควรเลือกอาหารที่ดีมีประโยชน์ อาหารที่ไม่ไม่ผ่านการแปลรูป ไม่ทอดอมน้ำมัน งดของหวานจัดมันจัดและเค็มจัด4.ฝึกควบคุมอารมณ์จัดการความคิดความเครียดให้ได้ เรื่องนี้ต้องฝึกฝน อย่ายึดติดกับความคิดมากเกิน 5.พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับชั่วโมง แต่ขึ้นอยู่ที่คุณภาพในการนอน หากคุณตื่นมาแล้วไม่เพลีย ไม่งัวเงีย นั่นถือว่าดีหวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์จากบทความนี้และนำไปปรับประยุกต์ใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวันของทุกๆคนได้ ขอบคุณครับเครดิตภาพ https://pixabay.com/photos/people-man-exercise-fitness-health-2604149/อ้างอิงเนื้อหาจาก https://www.thaihealth.or.th/microsite/categories/5/ncds/2/173/176-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84+NCDs.htmlเครดิตภาพปก https://pixabay.com/photos/cup-of-coffee-laptop-office-macbook-1280537/