"โรคเบาหวาน" ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวคุณอีกต่อไป เพราะทุกคนสามารถเป็นโรคนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยกลางคน และวัยผู้สูงอายุ หรือแม้แต่ภาวะต่างๆ ที่เป็นตัวกระตุ้นก็สามารถทำให้เกิดโรคเหล่านี้ได้ เรามาดูสิ่งต้องห้าม ของคนเป็นโรคเบาหวาน ทำอย่างไรได้บ้างที่จะห่างไกลสิ่งเหล่านี้หรือลดสักนิดเพื่อสุขภาพของตัวคุณเอง1. น้ำตาล อาหารหรือขนมที่มีรสหวานจัด ไม่ว่าจะเป็นเค้ก คุกกี้ ช็อกโกแลต น้ำผึ้ง แยม ขนมผสมกะทิต่างๆ ตลอดจน "น้ำตาล" ที่ใช้ปรุงในอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งน้ำตาลทราย น้ำตาลอ้อย น้ำตาลปี๊ป ก็เข้าข่ายต้องห้ามทั้งสิ้น ถ้าจะเปรียบให้ชัดเจนก็คือ "น้ำตาลคือยาพิษ" สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน และอีกหลายๆ โรค การกินน้ำตาลเป็นประจำจะทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น เป็นสิว ปวดศีรษะเรื้อรัง ปอดบวม ตับอักเสบ และเพลียง่าย ลองกำจัดน้ำตาลออกไปจากครัวคุณ และเลิกปรุงน้ำตาลในอาหารดูสักระยะหนึ่ง แล้วคุณจะพบว่าร่างกายสดชื่นขึ้น สมองสดใส น้ำหนักตัวลดลงอย่างแน่นอน ที่สำคัญคือ โรคเบาหวานก็จะหายได้เร็วอีกด้วย 2. บุหรี่ พิษของบุหรี่นั้นมีมากมายหลายประการ แต่ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานยิ่งต้องให้ความสำคัญกับเรื่องบุหรี่มากเป็นพิเศษ ถ้าคุณไม่สูบบุหรีก็น่ายินดี แต่ถ้าเป็นคนสูบอยู่ละก็ "เลิกสะเถอะ" เลิกให้เด็ดขาด เนื่องจากการสูบบุหรีจะทำให้เส้นเลือดแข็งตัว เยื่อหุ้มปอดพองและเมื่อเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดแล้ว โรคแทรกซ้อนต่างๆ ก็จะตามมา เช่น โรคมะเร็งที่คอ โรคมะเร็งที่ช่องปาก โรคมะเร็งที่ช่องปาก โรคมะเร็งที่ปอด โรคมะเร็งที่กล่องเสียง โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่อย่างยาวนานก็จะยิ่งทำให้เบื่ออาหาร ท้องอืด ใจสั่น สมองมึนงง ไม่สดชื่น กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง ร่างกายขาดออกซิเจนและมีแผลในกระเพาะอาหาร ประเด็นสำคัญก็คือ บุหรี่ทำให้ปริมาณน้ำตาลเพิ่มขึ้น เพราะการสูบบุหรี่เป็นการกระตุ้นต่อมอะดรีนาลินทำงาน และการสูบเอาสารพิษต่างๆ เข้าสู่ร่างกายก็จะทำให้วิตามิน C ในร่างกายลดลงประมาณ 25 กรัม ต่อการสูบบุหรี่ 1 มวน และใน 10 นาที ก็จะทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มถึงร้อยละ 36 ทีเดียว 3. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยง เหล้า เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด และถ้าจะดื่มควรดื่มในปริมาณเล็กน้อยเพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากๆ ทำให้ร่างกายได้รับแคลอรี่เกินความต้องการของร่างกาย และอวัยวะต่างๆ ในร่างกายก็จะเป็นอันตรายได้ การดื่มยังส่งผลโดยตรงต่อตับอีกด้วย ทำให้เป็นโรคตับแข็งและตับอักเสบได้ ที่สำคัญคือ ผู้ที่เริ่มมีอาการของโรคเบาหวานหรืออยู่ในระยะเริ่มแรก หากดื่มหนักๆ จะทำให้โรคเบาหวานกำเริบได้ง่าย 4. ชา กาแฟ คุณอาจแย้งว่า คุณเพียงแค่ดื่มกาแฟดำที่ไม่ใส่นม หรือน้ำตาลซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่อันตรายที่ผู้เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงนั้น แท้จริงก็คือ สาร "กาเฟอีน" เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว การดูดซึมที่กระเพาะอาหารและลำไส้จะเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก และสารกาเฟอีนจะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น นอกจากจะทำให้โรคเบาหวานกำเริบแล้ว ยังทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนจากโรคอื่นๆ ได้อีกด้วย กาเฟอีนจะกระตุ้นอะดรีนาลินทำงาน เท่ากับเป้นการเพิ่มน้ำตาลในเส้นเลือด และกาเฟอีนยังทำลายวิตามิน B1 ในร่างกายของคนเรา ซึ่งผู้ที่เป็นโรคเบาหวานต้องการวิตามิน B1 เป็นอย่างยิ่ง 5. ความเครียด นอกจากเรื่องอาการการกินแล้ว ความเครียดก็เป็นสิ่งต้องห้ามอย่างหนึ่งที่ผู้เป็นโรคเบาหวานต้องระมัดระวังที่สุด ขณะที่คุณเครียด ระบบประสาทจะสั่งให้ต่อมใต้สมองและต่อมหมวกไตปล่อยฮอร์โมนสู่กระแสเลือด ซึ่งฮอร์โมนนี้จะทำให้หัวใจเต้นถี่และหายใจเร็วขึ้น เพื่อให้มีออกซิเจนเข้าสู่ปอดมากขึ้น ทำให้เลือดไหลเวียนสู่สมอง และมีพลังพร้อมรับมือกับสิ่งที่คุณเครียด 6. ไขมัน การปล่อยให้ไขมันสะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไปอาจทำให้คุณมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานได้ ตับของคนเรานั้นทำหน้าที่เผาผลาญคอเลสเตอรอลให้เป็นกรดน้ำดี ซึ่งจะทำหน้าที่ดูดซึมไขมัน ย่อยไขมันในลำไส้ เมื่อคอเลสเตอรอลอยู่ในกระแสเลือดมากขึ้นก็จะทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัว จนกระทั้งเกิดการอุดตันได้ง่ายๆ และเมื่อเครียดนานขึ้นจากชั่วโมงเป็นวันๆ อวัยวะภายในร่างกายจะเกร็งและปรวนแปร จนการควบคุมอาการเบาหวานทำให้ลำบากมาก 7. เกลือ อาหารที่ขาดรสเค็มจากเกลือและน้ำทะเล ก็ย่อมจะขาดรสธรรมชาติชวนชิมมากเลยทีเดียว เพื่อเป็นการเยียวยารักษาโรคเบาหวาน คุณก็ควรลดปริมาณลงบ้าง หรือเลือกใช้เกลือที่มีปริมาณโซเดียมต่ำก็ได้ เพราะจะไม่เป็นอันตรายสำหรับผู้ทีเป็นโรคเบาหวานมากนัก 8. ของหมักดองแม้ไม่มีข้อห้ามอย่างเด็ดขาด แต่ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานก็ไม่ควรจะกินของหมักดองมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็น หอมดอง หอยดอง ขิงดอง มัสตาร์ด หรือของหมักดองอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้เพราะของหมักดองส่วนใหญ่ล้วนอุดมไปด้วยเกลือและน้ำตาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรงดเว้นสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานCr : เครดิตรูปภาพประกอบจาก HONESTDOCS , mgronline , mthai , True Careers,แนวหน้า , ไทยทรีบูน , pingfai และ chevronthinkswerestupid.org