สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ ที่ได้ปรับพฤติกรรมแล้วหายจากกรดไหลย้อน จากประสบการณ์ของคนที่เคยเป็นกรดไหลย้อนซึ่งทรมานมาก โดยเรามีทั้งอาการปวดท้อง แสบท้อง แสบร้อนกลางอก ตอนกลางคืนนี้แทบจะนอนไม่ได้เลย พอไปพบแพทย์สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เราจึงเริ่มปรับมาเรื่อยๆ จนตอนนี้อาการเหล่านั้นแทบจะไม่มีเลย อาจจะใช้เวลาหน่อย แต่อาการก็ค่อยๆดีขึ้น วันนี้เลยจะมาแนะนำการปรับพฤติกรรมเพื่อให้หายจากกรดไหลย้อนให้เพื่อนได้รู้จะได้หลีกเลี่ยงและปฏิบัติตัวได้ถูกต้อง1. ออกกำลังกาย ลดน้ำหนักเราออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-4 วัน วันละประมาณ 30 นาที อาการก็ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ คนที่มีน้ำหนักตัวมากความดันในช่องท้องจะสูง ส่งผลให้กระเพาะอาหารเหลือพื้นที่น้อยลง กรดจึงล้นและไหลย้อนขึ้นไปยังหลอดอาหาร เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่เป็นกรดไหลย้อนแล้วคำแนะนำแรกที่จะได้จากแพทย์หรือเภสัชกรก็คือ การออกกำลังกายและการลดน้ำหนัก2. หลีกเลี่ยงการทานอาหารมื้อปริมาณมาก อาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสจัดเราเป็นคนชอบทานอาหารรสจัดมาก เราก็เลยค่อยๆปรับลดระดับความเผ็ดลงมากเรื่อยๆ พวกของทอดก็จะกินนานๆ ที การทานอาหารในปริมาณมากต่อมื้อส่งผลให้ผลิตกรดในปริมาณที่มากตามมีโอกาสที่กรดจะล้นและไหลย้อนขึ้น และการทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นอาหารที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะเป็นเวลานาน ย่อยยาก อาหารที่เราหลีกเลี่ยงก็จะเป็นพวกอาหารหมักดอง ของทอด อาหารรสเผ็ด ผลไม้ที่มีกรดมาก เช่น มะนาว สับปะรด ผักที่มีกรดแก๊สมาก เช่น กระเทียม พริก พริกไทย หอมแดง เป็นต้น ช่วงแรกๆ ถ้าทำยากก็อาจจะลองปรับลดปริมาณก่อนก็ได้3.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับคนที่ติดมากๆเราแนะนำให้ค่อยๆลดปริมาณลง การดื่มแอลกอฮอล์ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดของกระเพาะอาหารคลายตัว ส่งผลให้กรดที่อยู่ภายในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมายังหลอดอาหาร นอกจากจากนี้แอลกอฮอล์ยังมีฤทธิ์ทำให้กระเพาะอาหารอักเสบโดยตรง4. สวมเสื้อผ้ารัดเกินไปการสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นบริเวณหน้าท้อง ส่งผลให้กระเพาะอาหารถูกบีบจากภายนอกและดันกรดให้ไหลย้อนเข้าสู่หลอดอาหาร ให้เน้นใส่เสื้อผ้าสบายๆ 5. หลีกเลี่ยงการนอนทันทีหลังจากรับประทานอาหารเสร็จสำหรับเราจะกินมื้อเย็นภายใน 18.00 น. แล้วนอนประมาณ 22.30 น. ก็จะประมาณ 4 ชั่วโมงหลังทานอาหาร และช่วงแรกเราก็จะนอนหมอนยกสูงช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นจริงๆการนอนหลังจากทานอาหารทันที (1-3 ชั่วโมงหลังจากการทานอาหาร) เป็นเวลาที่น้ำย่อยกำลังย่อยอาหาร จึงโอกาสสูงที่กรดจะไหลย้อนกลับไปยังหลอดอาหาร ควรนอนหลังจากรับประทานอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อให้กระเพาะอาหารได้ย่อยอาหารก่อน สำหรับคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อนแล้วแนะนำให้นอนยกศีรษะสูงขึ้นโดยใช้หมอนที่เอียงสูงขึ้น 45-60 องศา เพื่อป้องกันกรดไหลย้อนในขณะนอน6. เครียดบ่อยความเครียดทำให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดมากขึ้น มีโอกาสเกิดกรดไหลย้อนได้ง่าย ให้ลองหาเวลาไปพักผ่อน ผ่อนคลายบ้าง7. สูบบุหรี่เป็นประจำ (อันนี้เพิ่มเติมให้ เพราะบางคนอาจยังไม่ทราบว่าการสูบบุหรี่ก็อาจทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้เช่นกัน)สารนิโคตินในบุหรี่จะกระตุ้นทำให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดมากกว่าปกติ ทำให้มีอาการแสบร้อนกลางอกเพื่อนๆจะเห็นว่าพฤติกรรมที่เราได้บอกไป ล้วนเป็นพฤติกรรมที่ปรับได้ทั้งนั้น สำหรับคนที่เป็นกรดไหลย้อนอยู่หรือเพิ่งมีอาการ เพื่อนๆ ลองปรับพฤติกรรมเหล่านี้ดูก่อนก็ได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทรมานกับอาการต่างๆ หรือไม่ต้องทานยา เพราะจากประสบการณ์ที่เราได้ลองปรับพฤติกรรมเหล่านี้แล้วอาการต่างๆของกรดไหลย้อนก็ค่อยๆ บรรเทาลงจนตอนนี้เราไม่มีอาการเหล่านั้นแล้วเครดิตภาพประกอบและภาพปกออกแบบโดย Canva by ผู้เขียนอยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้