กลับมาต่อกันที่ EP.2 ในบทความนี้จะเน้นรีวิวไปที่ Bodycare ถ้าใครที่เพิ่งเข้ามาอ่านที่นี่เป็นครั้งแรกแล้วอยากได้ไอเดียเลือกใช้ Facial Skincare สามารถเข้าไปอ่านที่บทความนี้ได้เลยค่ะ: https://creators.trueid.net/node/393653/preview MERREZ'CA - SKIN UP Liquid Foundation ตัวนี้เป็น Liquid Foundation ที่เซอไพรส์เรามาก เคยใช้ของหลายแบรนด์ที่ราคาแรงกว่านี้ แต่ก็ยังไม่ถูกใจเท่าตัวนี้ค่ะ สำหรับเรา Foundation ตัวนี้ปกปิดได้ค่อนข้างดี เนื้อบาง ไม่ฝืดไม่หนืด พอลงไปแล้วหน้าไม่เยิ้ม แถมติดทนได้ทั้งวัน จัดให้เป็นครีมรองพื้นตัวหลักไปแล้ว แถมค่าตัวหนึ่งแบงค์เทา มีทอนแบบเหลือ ๆ เลยค่ะYVES SAINT LAURENT - All Hours CUSHION FOUNDATIONในรูปคือผิวหน้าหลังจากที่ลงเฉพาะ cushion ตัวนี้ โดยที่ยังไม่ได้ลงแป้งใด ๆ ค่ะ ความวาวของผิวฉ่ำโกลว์ถูกใจเราแบบ 10/10 สลับมาที่ Body Skincare กันบ้าง รอบนี้ขอแนะนำ 2 ตัวหลักที่ใช้อยู่เป็นประจำค่ะLA MER - The Reparative Body Lotionแทบไม่ต้องบรรยายมากเลยตัวนี้ ไอเทมขึ้นหิ้งของ La Mer ใช้แล้วผิวนุ่มขึ้นมาก ๆ มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ค่ะCHANEL - COCO MADEMOISELLE Moisturizing Body Lotionหอมมาแต่ไกล แต่ไม่ตะโกน หอมแบบดึงดูด ถ้าอยากได้ผิวเนียนนุ่มน่ากอดตัวนี้ตอบโจทย์เลยค่ะ เหมาะสำหรับวันสบาย ๆ ที่รู้สึกว่าไม่อยากฉีดน้ำหอม เอกลักษณ์สำคัญก็คือกลิ่นของ Coco Mademoiselle ที่ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ไปทั่วตัวทุกครั้งที่ทา (ถ้าใช้แล้วขอแอบกระซิบว่าระวังจะโดนกอดไม่รู้ตัวเอาน้าา) สำหรับสาว ๆ แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือน้ำหอม ฉีดเพื่อเพิ่มความมั่นใจ เพราะด้วยอากาศเมืองไทยอย่างที่เราทราบกัน เหงื่อไคลไหลมาแบบไม่ต้องสงสัย นอกจากการรักษาความสะอาดร่างกายแล้ว กลิ่นกายก็ไม่ควรละเลยเช่นกันค่ะทั้งนี้น้ำหอมยังสื่อถึงเอกลักษณ์บ่งบอกตัวตน shine bright ความเป็นตัวเองออกมาได้มากสุดก็ดูได้จากกลิ่นน้ำหอมที่เราใช้นี่แหละค่ะ YVES SAINT LAURENT - LIBRE Eau de Parfumหอม หวาน ละมุนคุณหนู หรือจะไปสายเรียบหรูออกงานกลางคืน ตัวนี้เอาอยู่ค่ะ ใช้กลางวันก็ได้ แต่ถ้าใช้กลางคืนระวังจะเผลอหว่านเสน่ห์ไปโดนใจหนุ่มคนไหนเข้าโดยไม่รู้ตัวนะคะChristian Dior - J'adore Parfum D'Eauหอมสดชื่นละมุนแบบบางเบา เพราะตัวนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นน้ำหอมปราศจากแอลกอฮอล์ หอมกลิ่นดอกไม้แบบสดชื่นทั้งวัน เหมาะกับวันเบา ๆ สบาย ๆ เดินเล่นเพลิน ๆ ค่ะ ตัวนี้เราจัดเป็นลูกรักไปแล้ว อารมณ์แบบนึกไม่ออกก็ฉีดกลิ่นนี้ไว้ก่อน เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายแบบ 10/10 แถมท้ายให้ด้วย Lipstick ดีกว่า รับรองว่าทาแล้วสีปากดูฉ่ำวาวแบบตะโกน YVES SAINT LAURENT - Volupté Plump In Colourเป็นลิปสติกรุ่นพิเศษที่มีกลิ่นหอมเย็น มีความคูลลิ่งเวลาทา เอาจริง ๆ ถ้าดีลงานแล้วเวียนหัวคว้ายาดมไม่เจอ เราจะทาปากด้วยแท่งนี้ค่ะ(LoL) สาว ๆ ต้องลองค่ะ แถมมีรูปหัวใจตรงกลางด้านในแท่งลิปสติกน่ารัก ๆ ด้วย ต้องขออภัยที่น้องอาจจะดูบู้บี้ไปบ้าง เพราะทาจริง หมดจริงไปสองแท่งแล้วค่ะCHANEL - ROUGE COCO BLOOMสีที่ใช้เป็นสี Sunlight มีความแมทบางเบา แต่ไม่ถึงกับแห้ง เวลาทาปากไปแล้วยังคงรู้สึกถึงความชุ่มชื่นระหว่างวันได้ค่ะ เวลาไปติดต่องานเราจะพกแท่งนี้ติดตัวไว้เลย รับรองว่าสีนี้เอาอยู่ทุก mission ค่ะ ถ้าอยากได้ฟีลสาวเกาหลีขึ้นมานิด ให้ทาปากหนึ่งรอบแล้วซับปากหลังจากทาด้วย napkin ไปหนึ่งที สีที่ได้จะละมุนขึ้นมาเลย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย เอาไว้เป็นตัวเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสาว ๆ แต่ละคนนะคะ * อย่าลืมทดสอบว่าผิวแพ้หรือไม่ ให้ทาครีมบริเวณข้อพับหรือหลังใบหู ทิ้งระยะเวลาไว้สัก 2-3 ชั่วโมง ระหว่างนี้ไปเดินเล่นรอ หากไม่มีอาการแพ้ ไม่มีอาการคัน และไม่มีผื่นแดง แสดงว่าครีมนั้นปลอดภัยกับใบหน้าและผิวกายเราค่ะที่สำคัญมาก ๆ คือการรักษาความสะอาดผิวหน้าและร่างกาย ไว้มีโอกาสจะมารีวิวคลีนซิ่งและเมคอัพคลีนเนอร์ต่าง ๆ ที่ดีต่อผิว เพื่อเป็นตัวเลือกให้สาว ๆ ยุคใหม่กันค่ะ ภาพถ่ายโดย: Nunniti7895เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !