หากจะพูดถึงผลไม้เพื่อสุขภาพที่แคลต่ำ น้ำตาลน้อย รสหวานอร่อยกำลังดี หลายๆ คนอาจจะนึกถึงชมพู่ ฝรั่ง หรือแก้วมังกรกันใช่ไหมคะ วันนี้เราอยากมาแนะนำพืชตระกูลหัว เนื้อกรอบ รสหวานฉ่ำกำลังดีที่น่าสนใจมากๆ อย่าง บัวหิมะ ที่ใช้กินแบบสดๆ ก็ได้ หรือจะไปปรุงเป็นเมนูอาหารก็ดี รับรองว่ามีคุณประโยชน์ที่น่าสนใจต่อร่างกายของเรามากมายเลยค่ะ บัวหิมะ เป็นพืชตระกูลหัว อยู่ในวงศ์เดียวกับดอกทานตะวันค่ะ ลักษณะของหัวบัวหิมะจะคล้ายกับมันเทศ และมันสำปะหลัง โดยบัวหิมะที่ถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ และต่อมาก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงทวีปเอเชีย อย่างประเทศจีน รวมถึงบ้านเราด้วยเช่นเดียวกันค่ะ ตัวเนื้อของบัวหิมะจะมีสีเหลืองทองไปทางส้ม สีสวย ตัวเนื้อมีความใสเล็กน้อย ลักษณะจะคล้ายกับมันแกวค่ะ รสสัมผัสก็จะคล้ายกันเลย แต่บัวหิมะเนื้อจะแน่นและออกหวานกว่า ก่อนรับประทานก็ล้างเศษดินด้านนอกให้สะอาดดี จากนั้นปอกเปลือกออกให้หมด จะเห็นได้เลยว่าสีด้านในสวยมากๆ และปริมาณแคลอรีก็น่าสนใจไม่แพ้กัน บัวหิมะสด 100 กรัม มีคุณค่าทางสารอาหารดังนี้ให้พลังงาน 44 kcalคาร์โบไฮเดรต 11 กรัมไขมัน 0 กรัมน้ำตาล 0 กรัมจะเห็นได้เลยค่ะว่าบัวหิมะเป็นพืชตระกูลหัวที่มีแคลอรีน้อยมาก ไม่มีน้ำตาล ไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอล จัดเป็นผลไม้ที่ตอบโจทย์สุขภาพสุดๆ ไปเลย นอกจากนี้ในบัวหิมะยังอุดมไปด้วยสารพัดวิตามิน ทั้งแคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี เหล็ก และอื่นๆ ยิ่งกินก็ยิ่งดีกับร่างกายของเรา ประโยชน์ที่น่าสนใจของบัวหิมะ ช่วยในการลดน้ำหนัก อย่างที่เราเห็นเลยค่ะว่าบัวหิมะให้แคลอรีต่ำมากๆ ไม่มีน้ำตาลและไขมัน ทั้งในเนื้อยังชุ่มไปด้วยน้ำ สามารถใช้กินเพื่อช่วยให้เราอิ่มท้องได้ไวขึ้นหลังมื้ออาหาร โดยเราจะกินประมาณ 5-10 ชิ้นหลังกินข้าว จะช่วยให้เราอิ่มมากขึ้น ทั้งยังมีรสหวานอ่อนๆ ช่วยล้างปากหลังอาหารได้ดีมากช่วยควบคุมระดับไขมันและคอเลสเตอรอลให้ปกติ ในบัวหิมะมีสารที่มีชื่อว่า ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructooligosaccharide) ที่มีส่วนช่วยควบคุมระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติได้แก้ท้องผูก ถ่ายยาก บัวหิมะมีเส้นใยอาหาร (Fiber) อยู่มาก ช่วยเพิ่มมวลในลำไส้ กระตุ้นระบบการขับถ่ายแก้อาการร้อนใน เติมความชุ่มชื้นให้ร่างกาย บัวหิมะมีฤทธิ์เย็นและอุดมไปด้วยน้ำ การกินบัวหิมะช่วยแก้อาการร้อนใน ลดอาการกระหายน้ำได้ดีมาก โดยเฉพาะเมื่อนำไปแช่เย็นๆ แล้วนำมากินระหว่างวันที่ร้อนๆ จะช่วยให้สดชื่นขึ้นได้เยอะเลยค่ะ บัวหิมะ กินแบบไหนได้บ้าง?สามารถกินบัวหิมะได้ทั้งแบบสด คือ ปอกเปลือก หั่นแล้วกินเลยหรือใส่ในสลัด หรือจะนำไปฝานเป็นเส้นบางๆ ผัดกับหมูสับ กุ้งแห้งเหมือนอย่างมันแกว นำไปต้มกับกระดูกหมู (แทนหัวไชเท้า) หรือจะเอาไปทำเมนูยำรสแซ่บก็ได้เหมือนกันค่ะ บัวหิมะกินปริมาณเท่าไหร่จึงจะดีต่อสุขภาพ?สำหรับเราจะกินบัวหิมะวันละ 100-200 กรัม เพื่อช่วยให้อิ่มท้อง เติมวิตามินและเกลือแร่ให้กับร่างกายของเราค่ะ กินมากไปก็อาจจะทำให้แน่นท้อง ท้องอืด ท้องเสียได้ ข้อควรระวังในการกินบัวหิมะอาจเกิดอาการแพ้ได้ในบางคน เพราะฉะนั้นใครที่ยังไม่เคยกิน ให้ลองกินจากปริมาณน้อยๆ ก่อนควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ หากกินมากเกินไปอาจทำให้จุก และไม่สบายท้อง ท้องเสียได้คุณแม่ที่อยู่ในช่วงในบุตร ไม่ควรกินหัวบัวหิมะสดๆ เพราะอาจจะทำให้ลูกที่ดื่มนมท้องเสียได้ แนะนำว่าควรกินแบบปรุงสุกจะเหมาะกว่าภาพหน้าปก : ภาพที่ 1 โดย sommail จาก canva แต่งด้วย canva ภาพในเนื้อหาทั้งหมด โดย ผู้เขียนแหล่งอ้างข้อมูล7 ประโยชน์ของบัวหิมะอยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้