7 ผลไม้ที่คนเป็นเบาหวานกินได้ ตามคำแนะนำของกรมอนามัยคนเป็นเบาหวานปัญหาหลักเป็นเรื่องการที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ระดับน้ำตาลในเลือดที่ว่านี้คือระดับของน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือด น้ำตาลกลูโคสมาจากหลายแหล่งแต่แหล่งที่คนเป็นเบาหวานยังต้องได้เกี่ยวข้องมากที่สุดคงหนีไม่พ้นน้ำตาลตามธรรมชาติจากในผลไม้ น้ำตาลกลูโกสในผลไม้มีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้ต่อให้บางคนอาจจะบอกว่าเดี๋ยวกินผลไม้ที่ชอบต้นเดือนเยอะๆ แล้วปลายเดือนจะไปตรวจไม่ต้องแค่นี้ก็ไม่เจอระดับน้ำตาลแล้ว แต่ในความเป็นจริงคือยังมีค่าอื่นอีกที่สามารถตรวจได้และสามารถใช้วิเคราะห์ได้ว่าเรากินผลไม้มากเกินไป ที่นอกเหนือจากการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดที่ปลายนิ้วมือดังนั้นการหันมาควบคุมการกินผลไม้ให้เหมาะสมในขณะที่เป็นเบาหวานคือแนวทางที่ดีที่สุดค่ะ โดยผลไม้แต่ละชนิดมีปริมาณของน้ำตาลในผลไม้แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการรู้ว่าชนิดไหนกินได้แค่ไหนจะทำให้ง่ายมากในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดค่ะ ปกติตอนยังไม่เป็นเบาหวานเราจะกินผลไม้ยังไงก็ได้แต่พอเป็นเบาหวานแล้วจะทำแบบนั้นไม่ได้อีก!! กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักโภชนาการจึงได้ทำการศึกษาปริมาณของน้ำตาลตามธรรมชาติในผลไม้ เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนเป็นเบาหวานได้นำไปใช้ในการเลือกกินผลไม้ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งในบทความนี้จะได้ลงรายละเอียดในผลไม้ 7 ชนิดค่ะ ดังนี้1. ลูกตาล ในลูกตาล 1 ผล ที่มีน้ำหนัก 1 ขีด มีน้ำตาลตามธรรมชาติอยู่เพียง 2 ชนิดเท่านั้น คือน้ำตาลฟรุกโตส 2.9 กรัมและน้ำตาลกลูโคสอีก 2.5 กรัม โดยน้ำตาลทั้งหมดคิดเป็นช้อนชาเพื่อทำให้มองเห็นภาพได้มากขึ้นว่ามากแค่ไหน ได้จำนวน 1.4 ช้อนชา กรมอนามัยแนะนำว่าคนเป็นเบาหวานยังสามารถกินลูกตาลได้แต่กินได้เพียง 1 ผลเท่านั้น ปกติผู้เขียนชอบกินลูกตาลเหมือนกันค่ะ มักจะเลือกลูกตาลสดมากกว่าและก็จะจำกัดปริมาณในการกินเหมือนกันค่ะ2. ลูกพลับ ในช่วงนี้ในตลาดมีลูกพลับขายจำนวนมาก ลูกละ 10-15 บาท โดยลูกพลับจำนวน 1 ขีด สามารถพบน้ำตาลตามธรรมชาติครบทั้ง 3 ชนิด คือ มีน้ำตาลฟรุกโตส จำนวน 6.3 กรัม น้ำตาลกลูโคส จำนวน 6.7 กรัม และน้ำตาลซูโครส อีกจำนวน 0.3 กรัม คิดเป็น 3.2 ช้อนชา จะเห็นได้ว่าลูกพลับมีน้ำตาลมากกว่าลูกตาลบ้านเราเป็นอย่างมาก แต่คนเป็นเบาหวานยังสามารถกินลูกพลับได้ค่ะ โดยจะต้องกินลูกพลับเพียงผลเดียวเท่านั้น!!3. ส้มเขียวโชกุน ช่วงนี้ส้มโชกุนเยอะมากและราคาถูกค่ะเพราะเป็นผลไม้ตามฤดูกาล ในส้มเขียวโชกุน 1 ขีด กรมอนามัยพบว่ามีน้ำตาลทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ น้ำตาลฟรุกโตส จำนวน 1.7 กรัม น้ำตาลกลูโคส จำนวน 1.5 กรัม และน้ำตาลซูโครส จำนวน 5.9 กรัม โดยผลรวมของน้ำตาลทั้งหมดคิดเป็น 2.3 ช้อนชา สำหรับส้มโชกุนหากคนเป็นเบาหวานต้องกินจะสามารถกินได้เพียง 1 ผลเท่านั้น ตามคำแนะนำของกรมอนามัยค่ะ4. แอปเปิลแดง ในบ้านเราสามารถหาแอปเปิลแดงได้ง่ายและมีราคาถูก แอปเปิลแดงให้รสชาติที่อร่อยกว่าและเป็นที่นิยมมากกว่า แอปเปิลแดง 1 ขีด พบว่ามีน้ำตาลตามธรรมชาติครบทั้ง 3 ชนิด โดยแยกเป็นน้ำตาลฟรุกโตส จำนวน 6.5 กรัม น้ำตาลกลูโคส จำนวน 2.9 กรัม และน้ำตาลซูโครส จำนวน 1.2 กรัม โดยน้ำตาลทั้ง 3 ชนิดนี้คิดเป็น 2.6 ช้อนชา การกินแอปเปิลแดงเพียงผลเดียวเป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับคนเป็นเบาหวานค่ะ5. ลองกอง เป็นผลไม้ที่ผู้เขียนชื่นชอบในรสชาติค่ะ เพราะนอกจากจะหวานตามธรรมชาติแล้วยังมีรสอมเปรี้ยวนิดๆ กินตอนง่วงนอนทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้ค่ะ ลองกองจำนวน 1 ขีด มีน้ำตาลฟรุกโตส จำนวน 7.4 กรัม น้ำตาลกลูโคส จำนวน 7.1 กรัม และน้ำตาลซูโครส จำนวน 1.5 กรัม โดยน้ำตาลทั้งหมดคิดเป็น 4 ช้อนชา ในช่วงที่มีลองกองออกวางขายตามตลาดคนเป็นเบาหวานยังสามารถหาซื้อมาไว้กินได้ค่ะ กรมอนามัยแนะนำว่าคนเป็นเบาหวานสามารถกินลองกองได้จำนวน 5 ผลค่ะ6. มะพร้าว เป็นผลไม้ที่สามารถหาได้ตลอดทั้งปี มะพร้าวน้ำหอมเป็นมะพร้าวที่ได้รับความนิยม มะพร้าวราคาถูกที่สุดที่ผู้เขียนเคยซื้อมานั้นราคาลูกละ 10 บาท ที่ได้ทั้งเนื้อมะพร้าวและน้ำมะพร้าว คนเป็นเบาหวานยังสามารถกินมะพร้าวได้แต่จะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งจากข้อมูลดังนี้ เพราะว่าเนื้อมะพร้าว ปริมาณ 1 ขีด สามารถพบน้ำตาลได้ทั้ง 3 ชนิด คิดเป็นน้ำตาลทั้งหมดจำนวน 0.7 ช้อนชา โดยแยกเป็นน้ำตาลฟรุกโตส เท่ากับ 0.3 กรัม น้ำตาลกลูโคส เท่ากับ 0.2 กรัมและน้ำตาลซูโครส เท่ากับ 2.3 กรัม คนเป็นเบาหวานสามารถกินเนื้อมะพร้าวได้ ซึ่งเป็นเนื้อของมะพร้าวจากจำนวน 1 ผลค่ะน้ำมะพร้าว ในบางครั้งเราสามารถเห็นน้ำมะพร้าวแยกขายต่างหากด้วย โดยคนเป็นเบาหวานยังสามารถดื่มน้ำมะพร้าวได้จากมะพร้าวหนึ่งผล โดยในน้ำมะพร้าวจำนวน 1 ขีด สามารถพบน้ำตาลฟรุกโตสได้เท่ากับ 2.9 กรัม น้ำตาลกลูโคส เท่ากับ 3.0 กรัมและน้ำตาลซูโครส เท่ากับ 1.4 กรัม โดยน้ำตาลทั้งหมดคิดเป็น 1.8 ช้อนชาค่ะ7. กล้วยน้ำว้า เป็นผลไม้ราคาถูกพบเห็นได้ตลอดทั้งปี ในบางบ้านแทบจะไม่ต้องได้ซื้อหากล้วยน้ำว้าเลยค่ะเพราะมีสวนกล้วยเป็นของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะต้องซื้อกล้วยน้ำว้าผู้เขียนพบว่าราคาของกล้วยน้ำว้าก็ถูกมากเหมือนกันค่ะ ปกติถ้ามีกล้วยเยอะๆ ผู้เขียนจะวางไว้ให้สุกเองตามธรรมชาติและกินไปเรื่อยๆ กล้วยน้ำว้า 1 ขีด มีปริมาณน้ำตาลตามธรรมชาติทั้งหมด เท่ากับ 5.9 ช้อนชา แยกเป็นปริมาณของน้ำตาลฟรุกโตส เท่ากับ 11.6 กรัม และน้ำตาลกลูโคส เท่ากับ 12.1 กรัม แต่ไม่พบน้ำตาลซูโครส ปกติผู้เขียนมักจะพบเห็นคนรุ่นเก่าชอบกินกล้วยน้ำว้าสุกกับข้าวเหนียว คนเป็นเบาหวานไม่ควรกินกล้วยน้ำว้าสุกกับข้าวเหนียวที่เวลาเดียวกันเพราะปริมาณน้ำตาลในข้าวเหนียวมีจำนวนมาก ประกอบกับปริมาณน้ำตาลในกล้วยน้ำว้าที่พบว่ามีมาก กรมอนามัยจึงแนะนำว่า กล้วยน้ำว้าผลเล็กเพียงผลเดียวเป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับคนเป็นเบาหวานค่ะอย่างไรก็ตามคนเป็นเบาหวานยังมีความจำเป็นต้องกินผลไม้ โดยผลไม้ทั้ง 7 ชนิดที่ผู้เขียนได้พูดถึงนั้นเป็นเพียงตัวเลือกเท่านั้น หากคนเป็นเบาหวานไม่ได้ต้องการกินผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งก็สามารถทำได้ แต่ควรเน้นการกินผลไม้ให้มีความหลากหลายเนื่องจากว่าผลไม้เป็นแหล่งของแร่ธาตุ วิตามินต่างๆ และเอนไซม์ที่จำเป็นต่อร่างกาย หากคนเป็นเบาหวานต้องการกินผลไม้ทั้ง 7 ชนิดข้างต้น ก็ต้องกินในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำของกรมอนามัยที่ได้ให้ไว้ค่ะ เมื่อเรากินผลไม้ตามคำแนะนำแล้วแต่ถ้าพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดยังสูง เราจะได้ไปค้นหาสาเหตุว่าที่น้ำตาลในเลือดสูงมาจากสาเหตุไหนอีกที่ไม่ใช่การกินผลไม้ที่เราได้ทำการควบคุมแล้ว ปกติผู้เขียนไม่ได้เป็นเบาหวานในชีวิตประจำวันไม่ได้ใกล้ชิดกับคนเป็นหวาน แต่ยังจำกัดการกินผลไม้ในทั้ง 7 ชนิดเหมือนกันค่ะ เพราะอย่าลืมว่าต่อให้สุขภาพดีเราก็ยังมีความจำเป็นต้องจำกัดการกินปริมาณน้ำตาล การกินน้ำตาลทุกวันไม่ได้ทำให้เป็นเบาหวาน แต่การกินน้ำตาลเกินทุกวันเป็นปัจจัยชักนำทำให้เกิดโรคเบาหวาน อ่านดีๆ นะคะ!!! การกินน้ำตาลเกินทุกวัน!! เพราะปริมาณน้ำตาลที่กินเกินไปทุกวันไปเร่งกระบวนการเสื่อมตามธรรมชาติให้เร็วกว่าปกติ เราจึงพบว่ามีหลายคนเป็นเบาหวานตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเป็นเบาหวานแล้วการจำกัดปริมาณในการกินผลไม้ก็เป็นสิ่งตามมาที่ต้องทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!!!! เพราะนั่นคือการดูแลสุขภาพของคนเป็นเบาหวานเอกสารอ้างอิงที่เกี่ยวข้อง:ปริมาณน้ำตาลในผลไม้ไทย โดยสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขเครดิตภาพประกอบบทความโดย: ผู้เขียนภาพหน้าปกจาก Jane Doan/Pixelsออกแบบภาพหน้าปกใน Canvaภาพประกอบเนื้อหาถ่ายภาพโดยผู้เขียนบทความอื่นที่น่าสนใจ✳️น้ำตาลตามธรรมชาติในผลไม้แต่ละชนิด ที่คนเป็นเบาหวานควรรู้ กดอ่านเลย✅ทุเรียน คนเป็นเบาหวานสามารถกินได้มากแค่ไหน ตามคำแนะนำของกรมอนามัย กดอ่านเลย✅ขนุน คนเป็นเบาหวานสามารถกินได้มากแค่ไหน ตามคำแนะนำของกรมอนามัย กดอ่านเลย✅เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !