ตึกรามบ้านช่องขึ้นสูงเสียดฟ้า รถยนต์วิ่งกันบนท้องถนน เทคโนโลยีก้าวหน้าเต็มขั้น แต่กลับสร้างโรคภัยรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้อย่างไม่ลดละ หนึ่งในนั้นคือ โรคซึมเศร้า ซึ่งในปัจจุบันความเครียดที่สะสมจากสภาพแวดล้อมอาจทำให้เกิดอาการเข้าข่ายโรคซึมเศร้าโดยไม่รู้ตัว อาการนอนไม่หลับ เสียสมาธิในการทำงาน เบื่ออาหาร เหนื่อยล้า การโทษตัวเองตลอดเวลาล้วนเป็นอาการบ่งชี้ของโรค สภาวะของจิตใจนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและลักษณะของเคมีภายในสมองไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถควบคุมกันได้เหมือนกดปุ่มเปิด-ปิดสวิตช์ไฟ อาการของโรคสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่แม้กระทั้งที่บ้านของเราเอง ดังนั้นการนำพาตัวเองออกไปพบเจออะไรใหม่ๆจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจต่อร่างกายจิตใจเพื่อการชีวิตในแบบที่พอดีมีคุณค่าและเป็นตัวของตัวเอง ผู้เขียนได้รวบรวมวิธีต่างๆจากคนใกล้ตัวถึงแนวทางให้ห่างไกลจากความโศกเศร้านี้ได้อย่างไร ไปดูกันเลยค่า...1.เริ่มจากสิ่งง่ายๆใกล้ตัวที่ทุกเพศทุกวัยสามารถทำกันได้คือ การทำความสะอาดที่พักอาศัย (ผู้เขียนขอเตือนก่อนว่าไม่ต้องเล่นใหญ่กันนะคะ เดี๋ยวจะเปลี่ยนมาเป็นปวดหลังกันเสียก่อน) สิ่งง่ายๆภายในบ้านเช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ทำความสะอาด จัดห้องนอน หรือแม้กระทั่งการจัดระเบียบตู้เสื้อผ้า ผลพลอยได้คือสามารถนำเสื้อผ้าบางส่วนที่ไม่ค่อยได้ใส่หรือซื้อมาแล้วอาจไม่ถูกใจแต่ยังอยู่ในสภาพดีไปบริจาคให้กับมูลนิธิหรือศูนย์รับบริจาคต่างๆ วิธีนี้จะช่วยให้เรารู้สึกว่าสิ่งของของเรานั้นยังคงมีความหมายและยังเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นได้อีก แน่นอนว่าพอเรากลายเป็นผู้ให้แล้วนั้น หัวใจของเราก็จะอิ่มบุญไปด้วยอย่างแน่นอนค่ะ2.เปลี่ยนเส้นทางที่จะไปยังจุดหมายเดิม แค่การลงจากสถานีรถไฟฟ้า ป้ายรถขนส่งสาธารณะก่อนถึงที่ทำงานหรือที่พักเพียง1สถานี หรือแม้กระทั่งการขับรถไปยังเส้นทางอื่น(ต้องไม่ใช่เวลาเร่งด่วนนะคะ) อาจจะทำให้เราค้นพบร้านอาหารใหม่ๆหรือสถานที่ที่ไม่เคยเห็นทั้งๆที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักหรือออฟฟิศเพิ่มขึ้นอีก2-3แห่งให้ได้แวะเยือน เป็นการสร้างการพจนภัยเล็กๆให้กับตัวเองและหลีกหนีความจำเจจากเส้นทางในแบบเดิม สิ่งนี้จะเป็นการสร้างแผนที่ใหม่ๆให้สมอง ผู้เขียนรู้สึกว่าข้อนี้จะทำให้สมองได้ออกกำลังกายและสร้างความกระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกายเป็นอย่างดีเลย 3.ลองทำอะไรช้าๆ คนใกล้ตัวของผู้เขียนนั้นบอกว่า "ความสะดวกรวดเร็วทันใจนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่มันอาจจะทำให้เราพลาดอะไรบางอย่างไป" ฉะนั้นจงให้เวลากับตัวเองบ้าง ปล่อยวางจากหน้าที่ใดๆที่มากำหนดบทบาทของเราลงซะแล้วมองหาสิ่งที่เป็นตัวเรา เช่น อ่านหนังสือการ์ตูนที่ชื่นชอบในอดีต ฝึกโยคะยืดเส้นแบบมือสมัครเล่น รดน้ำต้นไม้หน้าบ้านหรือหลังบ้าน สูดหายใจอย่างช้าๆให้เต็มปอดออกซิเจนที่วิ่งเข้าในกระแสเลือดจะส่งผ่านไปถึงฮอร์โมนในสมองให้ร่างกายได้ผ่อนคลายและสร้างสมาธิกับการกระทำที่อยู่ตรงหน้าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราลืมเรื่องเครียดไปได้ช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ4.ลงเรียนสิ่งที่ตนเองสนใจ1วัน วิธีนี้ได้ผลดีเลยทีเดียว เพราะหลังจากที่อบรมเสร็จแล้วเราจะเกิดความภาคภูมิใจในผลงานที่ทำออกมา ถึงแม้จะเป็นในฐานะของมือใหม่ก็ตาม นอกจากการได้เพิ่มทักษะให้กับตัวเองแล้ว เรายังได้เจอกับผู้คนที่มีความชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน ดังเช่นที่ผู้เขียนเคยได้สัมผัสกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในคลาสศิลปะ บุคคลคนนั้นได้บอกกับผู้เขียนไว้ว่า "แค่ได้มาวาดรูปเล็กๆน้อยๆถึงแม้จะไม่เหมือนกับตัวอย่าง แต่ก็ช่วยให้ลืมความทุกข์ในใจได้" การที่มีคนรับฟัง พูดคุยในเรื่องเดียวกันและเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังลงมือทำนั้นจะช่วยบรรเทาความเศร้าได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะ ดังนั้นค้นหาสิ่งที่ชอบ ภาษา ศิลปะ ทำอาหาร งานช่าง แล้วยื่นใบสมัครกันเลยค่ะ 5.สร้างงานอดิเรก เช่น การเลี้ยงสัตว์ จัดดอกไม้ ปลูกไม้น้ำในตู้ปลา ปลูกผักสวนครัว อ่านหนังสือ ถ่ายภาพ ปั่นจักยาน หมากฮอต เล่นบอร์ดเกมส์ งานเครื่องหนัง แกะสลัก ปักผ้า เล่นกีฬา เดินป่า ปีนเขา ว่ายน้ำ ทำขนม ดูซีรีส์ เล่นเกมส์ วาดรูป จัดสวนถาด ถ่ายวีดีโอ ตะเวนชิมร้านอร่อย ทำเทียนหอม หล่อกระถางไม้อวบน้ำ จดบันทึกชีวิตประจำวัน และอื่นๆอีกมากมาย ที่สำคัญเลยคือต้องเลิกคำว่า “เดี๋ยวก่อน” “เดี๋ยวค่อยทำ” แต่ให้เปลี่ยนเป็น “ลงมือทำเลย” และต้องให้กำลังใจตัวเองในทุกๆครั้งที่ทำสำเร็จด้วยนะคะรับฟังและให้กำลังใจทั้งนี้การประสบพบเจอกับอุปสรรคจะสอนให้เราแข็งแกร่งขึ้น เหมือนอย่างที่ผู้เขียนนั้นได้มีโอกาสพูดคุยกับคนที่มีภาวะของโรคซึมเศร้า รับฟังถึงวิธีหาทางออกของแต่ละบุคคลที่สามารถเยียวยาจิตใจให้กลับมาสดใสได้อีกครั้ง ยังมีอีกหลากหลายวิธีที่จะช่วยให้เราลืมอาการเศร้าและเติมเชื้อไฟในรูปแบบแรงบัลดาลใจ ที่สำคัญเลยคือบุคคลใกล้ตัวนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง คนที่เข้าข่ายของโรคซึมเศร้ามักต้องการผู้รับฟังที่ดี ปัญหาใดๆที่อยู่ข้างในความคิดควรได้รับการระบายออกมา ฉะนั้นคำพูดที่ให้กำลังใจจากผู้ฟังที่ดีและการไปทำกิจกรรมต่างๆตามทั้ง5วิธีข้างต้น จะสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงอารมณ์เศร้าให้กลับมาสดใสและเป็นตัวของตัวเองได้อีกครั้งอย่างแน่นอนค่ะ เครดิตภาพ : ภาพปก(ตกแต่งภาพด้วยโปรแกรมAdobe Photoshops)และภาพถ่ายที่1,2,3,4โดยผู้เขียน แหล่งอ้างอิงข้อมูล : โรคซึมเศร้า | Mahidol Student Affairs *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี` คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565