สวัสดีค่าสาว ๆ หลาย ๆ คนคงมีน้ำหอมในดวงใจเนอะ แบบที่ว่า....ถ้าฉันอยากมั่นใจแบบปั๊วะปังต้องฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้เท่านั้น หมีเชื่อว่าแบรนด์ Dior หรือ คริสเตียน ดิออร์ เองก็คงเป็นน้ำหอมที่หลายคนตกหลุมรัก วันนี้หมีเลยจะมารีวิวเจ้าน้ำหอมจิ๋วที่ได้ชื่อว่าเป็นรวมรุ่นน้ำหอมตัวท็อปของดิออร์กัน LES PARFUMS DE L'AVENUE MONTAIGNE LES PARFUMS DE L'AVENUE MONTAIGNE เป็นเซทน้ำหอมขวดจิ๋วจำนวน 5 ขวด โดยจะมีปริมาณ 7.5 ml. ต่อขวด ยกเว้น J'adore ที่จะเป็นขนาด 5 ml. เซทนี้มาในแพคเกจจิ้งที่หรูหราหมาเห่าดูแพงตั้งแต่นอกยันในเลยค่ะ เรามาแกะกล่องดูกันเลยนะ ถอดปลอกออกเราก็จะเจอกล่องสีเหลี่ยมผืนผ้าสีขาวมีลายในตัวปั๊มอักษรชื่อDiorสีทอง เป็นกล่องที่ให้ความรู้สึกหรูหราเลอค่าสมกับราคาของเขาล่ะ เปิดข้างในออกมา....อย่าตกใจนะคะว่าหายไปไหนขวดนึง คือทางนี้ใช้มิสดิออร์หมดไปแล้วแล้วเผลอทำขวดหาย เจ็บใจจนถึงทุกวันนี้ ข้างในทำเป็นลิ้นชักในตัว บุด้วยผ้าสีเทา ๆ ดูดีมีระดับ ชอบที่เขาทำเป็นเหมือนลิ้นชักเครื่องแต่งหน้ามาก ๆ น่ารักจุ๊งจิ๊ง ที่ใส่ขวดน้ำหอมก็ทำเป็นขนาดพอดีกับขวดทำให้ล็อคได้อย่างแน่นหนา ให้ฟีลแบบกล่องแหวนกล่องสร้อยดี๊ดี มาค่ะ เรามาดูว่าน้ำหอมข้างในมีอะไรบ้าง (รูปถ่ายจากข้างกล่อง ของจริงหาไม่เจอจ้า) Miss Dior : Eau De Parfum นางบอกมาว่าเป็นกลิ่น มะลิอียิปต์ กุหลาบ ส้มแมนดาริน กลิ่นออกแนวธรรมชาติ ฟลอรัล หรูหรานิด ๆ เป็น EDP ติดทนติดนานด หมีเลิฟตัวนี้มาก ฟีลแบบให้ความเป็นผู้ใหญ่ กลิ่นนวล ๆ มั่นใจแบบ working woman ขวดจิ๋วก็มาแบบสาวหวานน่ารักกุ๊งกิ๊ง ขวดแก้วทรงสี่เหลี่ยมพร้อมจุกครอบสูงนิดหน่อย หัวเป็นแบบสเปรย์สีเงินหรูหรา ดีไซน์ที่เป็นกิมมิคของมิสดิออร์ก็คือโบว์จิ๋วสีเงินตรงคอขวดที่ตอกย้ำถึงความน่ารักอันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ จะบอกว่าตั้งแต่หมีใช้น้ำหอมมา มิสดิออร์คือที่สุด แพงมากแต่กลิ่นนางก็คุ้มแสนคุ้ม ถ้ามีตังค์ก็อยากซื้ออีก แต่ตอนนี้ขอรัดเข็มขัดก่อนนะคะมิสสสส J'adore : Eau De Parfum กลิ่นที่หรูหราเช่นเดียวกับขวดของนาง กลิ่นติดแน่นติดทนนานจริงจัง ส่วนผสมหลักจากดอกกระดังงา ดอกมะลิ และมีกลิ่นอันเย้ายวนอ่อน ๆ ของดอกกุหลาบ ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว กลิ่นตัวนี้ละมุนตุ้นมาก หอมหวาน ฟีลคือเป็นสาวสังคมทรงเสน่ห์ เคยได้ยินมาว่า ถ้าน้ำหอมเป็นทองคำได้ J'adore ก็คือน้ำหอมตัวนั้น ขวดของ J'adore ทำเหมือนกับขนาดจริง ดีไซน์เป็นขวดทรงสูงมีคอขวดที่ยาววววและเป็นสีทองอร่าม (แต่ก็มีคนแซวว่าบางทีก็เหมือนกระเหรี่ยงคอยาว 555) ด้านบนเป็นจุกแก้วกลม ๆ ตัวนี้ไม่ใช่หัวแบบสเปรย์แต่เป็นแบบแต้มเป็นหยด ๆ เอานะคะ ในด้านรูปลักษณ์หมีให้ตัวนี้กินขาด สวยหรูดูแพง ขวดใหญ่เวลาตั้งโชว์คือฟีลแบบบ้านคนสวย บ้านดาราไรงี้ Dior Addict EAU Fraîche : Eau De Toilette เป็นกลิ่นของ มะกรูดจากคาลาบริอา, ฟรีเซีย และลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ ตบท้ายด้วยไวท์มัสค์ กลิ่นนี้ออกแนวสดใสซาบซ่า เปรี้ยวจี๊ด กลิ่นติดตราตรึงใจใครดมก็เหลียวหลัง ออกแนวฟรุตตี้ ๆ มีชีวิตชีวาประหนึ่งสาวแซ่บแสนร้อนแรง เจ้าเสน่ห์ สนุกสนาน ถ้าอยากใส่ไปปาร์ตี้จิกผู้แนะนำเลยค่ะว่าตัวนี้ผู้ตามติดหนึบแน่นอน ขวดของเขามาเป็นแบบสี่เหลี่ยมทรงสูง ตัวขวดเป็นสีชมพูหวานใสซุกซ่อนความร้อนแรง ปลอกกับหัวสเปรย์เป็นสีเงินมีจุกด้านบน มองไปมองมาก็คล้ายกับแท่งลิปสติกเหมือนกัน ตัวนี้เหมาะกับการพกพาเพราะรูปทรงขวดทำให้พกง่าย และความที่เป็น EDT อยู่แล้วกลิ่นก็จะจาง ๆ หน่อย ดังนั้นพกไปฉีดระหว่างวันหรือเพิ่มความมั่นใจก่อนไปเดทกับหนุ่มที่หมายตาก็ได้ค่ะ Diorissiom : Eau De Toilette เป็นกลิ่นของดอกไม้สดฟีลแบบ มะลิ ลิลลี่ ออกแนวเจ้าหญิงสูงส่งเลอค่า เกิดมาใต้ดอกไม้หอมที่นางฟ้าโปรดปรายให้ในวันเกิดแบบเจ้าหญิงออโรร่า กลิ่นนี้จะออกแนวผู้ใหญ่หน่อย....ถ้าเอาตรง ๆ ก็คือแนวดอกไม้ไหว้พระพวงมาลัยไปวัดสาธุจ้า ฟีลแบบดอกไม้พวงมาลัยอะ ไม่ใช่ไม่หอมนะ หอมมากกก แต่เป็นความหอมที่เจือปนความมีอายุไปนิดหน่อย ฉีดแล้วอยากเอาพวงมาลัยไปกราบแม่ ขวดแก้วน่ารักกุบกิบ เป็นหัวแบบสเปรย์ น้ำข้างในอมเหลืองแต่ก็ไม่เป็นสีตกค้างบนผ้าขาวนะคะ หมีว่าขวดเขาให้ฟีลแบบน้ำหอมสมัยโบราณ...ไม่รู้ทำไม แต่สวยน่ารักค่ะ Forever and ever Dior : Eau De Toilette สุดแสนจะนุ่มนวล สดชื่น เป็นกลิ่นที่ชวนให้นึกถึงทุ่งหญ้าทุ่งดอกไม้ กลิ่ของเขาจะเป็นดอกฟรีเซีย มะลิ มีวานิลลาจาง ๆ ปะปนแบบอ่อน ๆ เป็นกลิ่นดอกไม้อ่อน ๆ หวานสดใส บางเบา ไม่เปรี้ยว ไม่ขม สบายจมูก กลิ่นออกแนวสะอาด ๆ เหมาะกับคุณหนูที่เพิ่งเริ่มเป็นสาววัยขบเผาะ น่าเสียดายที่ตัวนี้ติดไม่ทนเลย ฉีดได้ไม่เกินสองชั่วโมงก็ไปหมดแล้ว ถ้าตัวนี้ติดทนนานน่าจะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะสมกับการพกไปฉีดเลยนะ ขวดของเขาในเซตนี้จะเป็นแบบเดียวกับ Diorissiom เลยค่ะ ขอแถมอีกนี้ดดดด หมีชอบชื่อรุ่นของนางมาก เข้ากับกลิ่นน้ำหอมสุด ๆ LES PARFUMS DE L'AVENUE MONTAIGNE เป็นน้ำหอมจิ๋วของ Dior เซท 5 กลิ่นยอดนิยม ราคาในไทยจะอยู่ที่ประมาณ 3000-3500 บาท แต่หมีซื้อที่ดิวตี้ฟรีญี่ปุ่น คิดว่าไม่เกิน 2000 นะคะ จำราคาไม่ได้ จริงอยู่ที่ว่าราคาอาจจะแพง แต่ถ้ามองในแง่ของที่เป็นของแบรนด์มีมูลค่า...ให้คุณค่ากับผู้คิดค้น คนดีไซน์ ความเป็นงานศิลปะต่าง ๆ แล้ว หมีว่าราคาที่จ่ายไปก็เหมาะสมและคุ้มค่าจริง ๆ ค่ะ อย่างที่เคยเขียนไปในบทความก่อน ๆ ว่าน้ำหอมคือสิ่งที่เราต้องเลือกและลองด้วยตัวเอง กลิ่นหอมบางกลิ่นอาจจะไม่เข้ากับเรา ถ้าซื้อที่ห้างให้ลองฉีดแล้วเดินวน ๆ สักชั่วโมงก่อนนะคะแล้วค่อยดมกลิ่นที่ติดตัวเรา เพราะนั่นคือกลิ่นจริง ๆ ที่น้ำหอมนั้นทำปฏิกิริยาต่อเหงื่อ ต่อผิวของเราเอง หวังว่าทุกคนจะเจอน้ำหอมที่ชอบและเหมาะกับตัวเองนะคะ รื่นรมย์สวัสดี หมี Credit : ภาพถ่ายโดยผู้เขียน