อาการเมาค้าง หรือ อาการแฮงก์ หรือ Hangover เกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ เราเองแม้จะไม่ใช่สายดื่มแอลกอฮอล์ แต่ช่วงเฉลิมฉลองวันสำคัญก็ต้องมีอาการเมาค้าง หรืออาการแฮงก์มาให้รำคาญใจ เช่น อาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ เพลีย ทั้งนี้อาจเพราะคนเอเชียส่วนใหญ่ รวมทั้งเราเองร่างกายไม่มีเอนไซม์ที่สามารถกำจัดแอลกอฮอล์ได้เร็วเหมือนชาวผิวขาว จึงทำให้เมาเร็ว และเมาค้างมาจนถึงเช้าวันถัดไป วันนี้จึงอยากมาแชร์ 5 ผลไม้ไม่ควรกินแก้อาการเมาค้าง แก้อาการแฮงก์ เพราะผลไม้บางชนิดไปทำลายเสริมให้ตับถูกทำลายมากขึ้น ผลไม้บางชนิดก็ไปเสริมอาการแฮงก์ให้เป็นนานกว่าเดิม ทำให้ไม่สร่างเมาเรามาดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง5 ผลไม้ไม่ควรกินแก้เมาค้าง แก้อาการแฮงก์1. มะเฟือง มะเฟืองเป็นผลไม้รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน มีวิตามินซีสูง บางคนใส่รวมกับสลัด แต่เราเคยกินเป็นผลไม้สด มะเฟืองเป็นผลไม้ที่ไม่ควรกินแก้เมาค้าง อาการแฮงก์ไม่ควรกินมะเฟือง เนื่องจากมะเฟืองจะไปขัดขวางการทำลายแอลกอฮอล์ ทำให้ปริมาณของ แอซีทาลดีไฮด์ (acetaldehyde) ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการออกซิไดส์เอทานอล (เอทิลแอลกอฮอล์) หรือ แอลกอฮอล์ ในเลือดเพิ่มขึ้น และสารตัวนี้เมื่อมีปริมาณมาก ก็ก่อให้เกิดพิษต่อร่างกาย เช่น อาการใจสั่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก ดังนั้นอย่ากินมะเฟืองแก้เมาค้าง เพราะจะทำให้อาการเมาค้างไม่สร่าง และมีอาการอยู่นาน2. ชมพู่ ชมพู่เป็นผลไม้ที่แคลอรี่น้อย เรานิยมกินชมพู่แบบสด ๆ เป็นผลไม้กินเล่น เนื่องจากกินแล้วไม่อ้วน สำหรับชมพู่ก็เป็นผลไม้ที่ไม่ควรกินแก้เมาค้าง หรือ ไม่ควรกินวันที่เมาค้าง เพราะชมพู่จะไปขัดขวางการทำลายแอลกอฮอล์ เช่นเดียวกับมะเฟือง ดังนั้นถ้าไม่อยากให้อาการเมาค้าง ค้างอยู่นานก็ควรเลี่ยงกินชมพู่ค่ะ3. ทุเรียน ทุเรียนเป็นราชาผลไม้ที่หลาย ๆ คนหลงรัก เพราะความหวาน มัน อร่อยของทุเรียน แต่ในเนื้อทุเรียนมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ ดังนั้นทุเรียนจึงไม่ควรกินแก้เมาค้าง แก้อาการแฮงก์ เพราะการกินทุเรียนจะเหมือนไปยิ่งเติมแอลกอฮอล์ให้ร่างกาย ทำให้อาการสร่างเมาช้าลง อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 5 โรคไม่ควรกินทุเรียน กินเยอะต้องระวัง! (trueid.net) ทุเรียนนอกจากไม่ควรกินร่วมกับแอลกอฮอล์แล้ว เมื่อไม่สบายก็ไม่ควรกิน ซึ่งเราเคยเห็นไปแล้วในบทความก่อนหน้านี้ แนบ link ให้ท้ายบทความนะคะ 4. มะเขือเทศ มะเขือเทศ มีหลายพันธุ์ทั้งแบบที่กินได้สด ๆ ผสมรวมกับสลัด และแบบที่นิยมเอามาทำอาหาร เช่น ใส่รวมในต้มยำ ส้มตำ หรือ เมนูยำต่าง ๆ ใช้ทำซอสมะเขือเทศ ทำน้ำมะเขือเทศปั่น เมื่อเกิดอาการเมาค้างเราก็มักจะหาอาหารรสแซ่บ จัดจ้าน เช่น ยำ หรือ ส้มตำ มากิน แต่ระวังอย่าเผลอกินมะเขือเทศเข้าไปนะคะ เพราะมะเขือเทศจะขัดขวางการทำลายแอลกอฮอล์เช่นเดียวกับมะเฟือง ทำให้อาการเมาค้างไม่สร่าง หรือสร่างเมาช้าลง ดังนั้นมะเขือเทศจึงเป็นผลไม้ที่ไม่ควรกินแก้เมาค้าง หรือแก้อาการแฮงก์5. แก้วมังกร แก้วมังกร เป็นผลไม้ที่มีรสหวานแต่ไม่มาก นิยมกินเป็นผลไม้สดมากกว่าจะนำมาทำเมนูอื่น ๆ สำหรับแก้วมังกร เป็นผลไม้ที่ไม่ควรกินร่วมกับแอลกอฮอล์หรือกินแก้เมาค้าง หรือ กินวันที่เมาค้าง เพราะแก้วมังกรจะไปเสริมให้ตับพัง ใครไม่อยากให้ตับพัง ก็ควรเลี่ยงกินแก้วมังกรในช่วงที่มีการเฉลิมฉลองด้วยแอลกอฮอล์ค่ะและนี่คือ 5 ผลไม้ไม่ควรกินแก้เมาค้าง แก้อาการแฮงก์ หรือไม่ควรกินร่วมกับแอลกอฮอล์ที่เรานำมาฝากวันนี้ ยังมีผลไม้บางชนิดสามารถกินได้ แก้อาการเมาค้างได้ดี และผลไม้บางชนิดที่ไม่ควรกินร่วมกับแอลกอฮอล์ สำหรับเราเองที่เป็นมีปัญหาไขมันเกาะตับ ทำให้ตับอักเสบได้ง่าย เราจึงมักจะหาสรรหาข้อมูลเพื่อป้องกันรักษาตับเราให้อยู่ได้นาน เพราะตับเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยทำลายสารพิษต่าง ๆ ให้ร่างกายเรา แอลกอฮอล์หรือเหล้าก็เป็นสารพิษชนิดหนึ่งที่ถูกนำไปทำลายทิ้งที่ตับถึง 90% ดังนั้นการกินแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและต่อเนื่องจึงไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อตับและต่อร่างกาย จึงไม่ควรกินอย่างยิ่ง วันนี้ขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่กับผลไม้ที่ควรกินแก้เมาค้างฉบับหน้านะคะบทความที่น่าสนใจ https://food.trueid.net/detail/Y9n3mDENVnW8https://women.trueid.net/detail/4LRV2vlrRZpLhttps://women.trueid.net/detail/RVkwGm0eNglVขอขอบคุณภาพปก by Andrea Piacquadio/ Pexels ภาพที่ 1 by icon0.com/canvaภาพที่ 2 New Sunshine/canvaภาพประกอบบทความอื่น ๆ โดยผู้เขียนBy Nurseonomy เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !