7 ประโยชน์ของเผือกที่มีต่อสุขภาพ เผือกจะมีลักษณะเป็นหัวอยู่ภายใต้ดิน เมื่อเราผ่าออกมาจะมีสีขาวอมเทา ส่วนใหญ่แล้วเขาจะมักนำเผือกไปทำเป็นของหวานหรือไม่ก็ต้มทานกับน้ำตาล ซึ่งมักเป็นที่นิยมมากที่สุดก็น่าจะเป็นของหวานค่ะผู้เขียนเองก็ชอบนำเผือกมาทำเป็นของหวานด้วยเช่นกัน เนื่องจากเผือกมีประโยชน์ต่อสุขภาพเรามาก ดังนั้นในบทความนี้ผู้เขียนจึงจะมาเล่าถึงประโยชน์ของเผือกกันค่ะว่ามีประโยชน์อย่างไร เผือกมีประโยชน์ดังต่อไปนี้เช่นส่วนประกอบทางสารอาหาร: เผือกเป็นแหล่งของวิตามินซีและเส้นใยอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารและระบบภายในของร่างกายเรา นอกจากนี้เส้นใยยังมีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร มีวิตามินซีที่มีส่วนในกระบวนการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย และมีวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินเค เเละโพแทสเซียม ร่วมด้วย โดยเผือกมีสารต้านอนุมูลอิสระเช่น แอนทีอ็อกซิแดนท์ (antioxidants) ซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายจากอนุมูลอิสระในร่างกาย เผือกมีปริมาณน้ำสูง เช่นกัน ทำให้คุณรู้สึกอิ่มตัวและช่วยในการควบคุมน้ำหนักซึ่งโดยปกติแล้วผู้เขียนก็จะมักนำเผือกมาทำเป็นของหวานทานหรืออาจจะนึ่งทานเล่นๆกับน้ำตาล อยู่บ่อยครั้งและสม่ำเสมอจนทำให้ผู้เขียนมีร่างกายที่แข็งแรงไม่เจ็บป่วยบ่อย เพราะผู้เขียนได้วิตามินที่อยู่ในเผือกนั่นเองบำรุงผิวพรรณ: วิตามินซีในเผือกช่วยในการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยบำรุงผิวและรักษาความยืดหยุ่นของผิว สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการออกซิเดชันในผิวพรรณ ซึ่งช่วยลดอาการอักเสบและควบคุมการเสียดสีของผิว มีวิตามินซีที่ช่วยสร้างคอลลาเจนในผิว ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นและความเรียบของผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระในเผือกช่วยลดการทำลายเซลล์ผิวจากการระคายเคืองและสภาพแวดล้อม ที่ทำให้ผิวมีสภาพดีขึ้น ความชุ่มชื้นและความสามารถในการป้องกันความเสียหายจากอนุมูลอิสระที่มีในเผือกอาจช่วยลดการเกิดริ้วรอยและเส้นรอยบนผิว แน่นอน ข่าวว่าการที่ผู้เขียนได้ทานเผือกอย่างสม่ำเสมอนั้นก็จะช่วยให้ผิวพรรณดูนุ่มชุ่มชื่นมีน้ำมีนวลขึ้นไม่แห้งกร้านอย่างที่เคยเป็นมาก่อนลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ: เผือกมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด มีโพแทสเซียมที่ช่วยลดความดันโลหิต การควบคุมความดันโลหิตสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและอื่น ๆ อีกด้วย สารต้านอนุมูลอิสระในเผือกช่วยป้องกันความเสียหายในเส้นเลือด ที่สามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ เผือกมีเส้นใยอาหารที่ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด สารต้านอนุมูลอิสระในเผือกช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาโรคหัวใจ การรับประทานเผือกเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ แต่ควรรักษาพฤติกรรมการอาหารที่ดีโดยรวมและการออกกำลังกายเพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจให้มากที่สุด ใช่แล้วค่ะการทานเผือกอย่างสม่ำเสมอก็ช่วยให้ผู้เขียนลดเสียงต่อโรคหัวใจ ซึ่งบุคคลภายในครอบครัวของผู้เขียนไม่มีใครเป็นโรคหัวใจเลยค่ะเนื่องจากเราทานเผือกเพื่อสุขภาพนั่นเองค่ะส่งเสริมการย่อยอาหาร: เส้นใยอาหารในเผือกช่วยเร่งกระบวนการย่อยอาหารในกระเพาะอาหารและลำไส้ ปริมาณเส้นใยอาหารสูง ที่ช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและการขับถ่าย โดยเส้นใยช่วยเพิ่มปริมาณของสารละลายในลำไส้ใหญ่และกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ เช่นการป้องกันท้องผูก เผือกมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับกระบวนการย่อยอาหาร ซึ่งช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำสารอาหารไปยังเซลล์ได้ดีขึ้น เผือกมีความเป็นกลางทางกรด-ด่าง ที่ช่วยให้ทางเดินอาหารมีสมดุลและสภาพดี ซึ่งส่งผลในการย่อยอาหารที่ดี มีปริมาณน้ำสูง การรับประทานเผือกสามารถช่วยเพิ่มความอิ่มตัวและช่วยควบคุมการกินอาหารในปริมาณที่เหมาะสม การเพิ่มเผือกในอาหารของคุณสามารถช่วยในการสนับสนุนกระบวนการย่อยอาหารและระบบทางเดินอาหารของร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น แต่ควรรับประทานเผือกในสัดส่วนที่เหมาะสมและร่วมกับอาหารอื่นช่วยควบคุมน้ำหนัก: เนื่องจากแคลอรี่มีน้อยและมีเส้นใยอาหารมาก การบริโภคเผือกสามารถช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ซึ่งช่วยเพิ่มความอิ่มตัวและลดความหิว นี่จึงช่วยในการควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อ เผือกมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายจากอนุมูลอิสระในร่างกาย ที่อาจส่งผลให้เกิดการเก็บไขมันลงในร่างกายน้อยลง มีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับสุขภาพที่ช่วยรักษาระดับพลังงานและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ปริมาณน้ำที่มากในเผือกช่วยทำให้คุณรู้สึกอิ่มตัวและช่วยควบคุมการกินอาหารในปริมาณที่เหมาะสม เหมือนกับที่ผ่านมาผู้เขียนเองก็เคยต้องการลดน้ำหนักซึ่งผู้เขียนก็ได้ทานเผือกนี่ล่ะค่ะช่วยในการลดอาหารในมื้อค่ำได้เป็นอย่างดีสามารถควบคุมน้ำหนักได้กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน: เผือกมีสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เผือกมีวิตามินซีซึ่งเป็นสารที่สำคัญในการสร้างและบรรจุสารอาหารในระบบภูมิคุ้มกัน เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและช่วยในการต่อต้านการติดเชื้อ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายจากการออกซิเดชันในร่างกาย ซึ่งสามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ เผือกช่วยรักษาความชุ่มชื้นในร่างกาย ที่สำคัญในการรักษาสภาวะสุขภาพที่ดีของผิวและเยื่อบุตา ใช่แล้วค่ะการทานเผือกอย่างสม่ำเสมอก็ทำให้ผู้เขียนมีภูมิคุ้มกันที่ดีไม่ป่วยบ่อยดีมากๆเลยลดความเสี่ยงต่อมะเร็ง: สารต้านอนุมูลอิสระและเส้นใยในเผือกอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งบางประเภท ความเสียหายนี้สามารถเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันเพื่อต่อต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง เผือกมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยในกระบวนการล้างพิษและการกำจัดสารพิษที่อาจทำให้เกิดเซลล์มะเร็งได้ เผือกมีปริมาณน้ำสูง การรับประทานเผือกจะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มตัวและลดการกินอาหารที่มีสารเสี่ยงต่อมะเร็ง เช่น อาหารที่มีไขมันสูง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้เขียนเลือกที่จะทานเผือก อย่างสม่ำเสมอเพราะเผื่อจะช่วยให้ผู้แข็งมีภูมิคุ้มกันที่ดีแล้วยังช่วยลดเสียงกับโรคมะเร็งได้ด้วยค่ะ นั่นคือประโยชน์ของพวกที่ผู้เขียนได้กล่าวมานั้นโดย ผู้เขียนได้ประสบด้วยตัวเองค่ะ ซึ่งเมื่อก่อนผู้เขียนจะเปลี่ยนบ่อย มีผิวที่แห้งกร้าน และเมื่อก่อนผู้เขียนยังมีน้ำหนักขึ้นอีกด้วยจนผู้เขียนได้ไปอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่งค่ะเขาบอกว่าให้ทานเผื่อก่อนอาหารจะทำให้สามารถช่วยอาการอยากของอาหารตอนมื้อเย็นได้คู่แข่งเลยทำตามที่เขาแนะนำ และผู้สอนได้กินเผือกอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอมาโดยตลอดจนสังเกตเห็นว่าผู้เขียนไม่ป่วยบ่อยเหมือนที่ผ่านมาพร้อมทั้งมีผิวที่นุ่มขึ้น และสามารถที่จะควบคุมและลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งที่กินเผือกแล้วดีขึ้นห่างไกลจากโรคเรื้อรัง ผู้เขียนและครอบครัวผู้เขียนไม่มีใครเป็นลูกเรื้อรังเลยค่ะเครดิตภาพภาพหน้าปกโดย Varintorn/pixabay ตกแต่งโดย canvaประกอบที่1 โดย Alexey Demidov/pexels ประกอบที่ 2 โดย Piya Nimityongskul/pexels ประกอบที่ 3 โดย Quỳnh Lê Mạnh/pexels ประกอบที่ 4 โดย bam awey/pexels เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !