ในหนึ่งวัน คนเราต้องรับประทานอาหารที่มีสารอาหารจำเป็นเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานในการใช้ชีวิตประจำวัน อันได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปอาจทำให้หน้ามืด ไร้เรี่ยวแรง หรือซึมไปตลอดวันเลยทีเดียว ซึ่งสารอาหารที่เราจะได้รับมากและง่ายที่สุดคือ คาร์โบไฮเดรตและไขมัน จริงอยู่ว่าสองอย่างนี้เป็นสารอาหารหลักที่ร่างกายต้องการ แต่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไขมันส่วนเกินเช่นกัน "ฉันไม่กิน Junk Food ซะหน่อย.. แล้วไขมันจะเกินได้ไง?" "ว่าแต่.. เธออ้วนขึ้นไหมล่ะ?" "ก็.. นั่นสิ" ประโยคสนทนาสมมติที่สร้างขึ้นจากการสังเกตผู้คนมากมายที่ยังเชื่อว่า คนจะอ้วนหรือไขมันจะเพิ่ม มาจากการกินอาหาร Junk Food หรืออาหารขยะที่เราเรียกกันอย่างดูหมิ่นนั่นเอง ทั้งที่ความจริงแล้ว ข้าวกะเพราหมูไข่ดาว ที่เรากินกันประจำอยู่นั้น ไขมันอาจจะเยอะพอ ๆ กันเลยก็ได้ ใช่แล้ว ร้านข้าวทั่วไปก็ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ร่างกายมีไขมันส่วนเกินเช่นกัน เพราะนอกจากปริมาณโปรตีนที่ให้มานั้น น้อยยยยยยยยยย ซะเหลือเกินแล้ว ปริมาณน้ำมันที่ใช้ในการปรุงอาหารแต่ละจานช่างมากมายเหลือเกิน ซึ่งสวนทางกับราคาที่หลาย ๆ คิดว่าถูกและรวดเร็ว ซึ่งถ้าวัดกันเรื่องความเร็วแล้ว Junk Food ที่เขม็นกันอยู่อาจมีประมาณไขมันที่เท่ากัน แต่ยังรวดเร็วกว่าและมีปริมาณโปรตีนสูงกว่าเสียด้วยซ้ำ หากเป็นเช่นนั้น ทำอย่างไรถึงจะได้ปริมาณโปรตีนที่สูงพอแต่ได้รับไขมันและคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่พอดีล่ะ? จริง ๆ ก็ตอบยากพอ ๆ กับคำถามที่ว่า ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน นั่นล่ะ เพราะไม่มีใครไปควบคุมปริมาณโปรตีนให้ร้านข้าวได้นอกจากเจ้าของร้าน ทางออกที่ง่ายที่สุดและคิดได้ไวที่สุดคือ ทำอะไรกินเอง ใช่แล้ว ทำกินเองนั่นล่ะ การทำอาหารกินเองนอกจากจะเลือกปริมาณสารอาหารได้แล้ว เรายังสามารถเลือกวัตถุดิบที่จะดัดแปลงอย่างไรก็ได้ที่เราพอใจซึ่งไม่สามารถไปสั่งที่ร้านข้าวได้ หรือสั่งแล้วอาจจะโดนมองแรงได้ (ตัวอย่างเช่น กะเพราไม่เผ็ดและไม่เอากะเพรา ฮ่าๆ) อีกทั้งการซื้อวัตถุดิบเอง ราคาจะถูกมาก (ก.ไก่ล้านตัว) ซึ่งเหมาะกับช่วงเศรษฐกิจและราคาของต่าง ๆ ที่แพงซะเหลือเกิน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กินเป็นก็ควรออกกำลังกายเป็นเช่นกัน เพื่อสุขภาพที่ดีและทำให้เรากินของอร่อยได้อีกยาวนานตลอดชีวิต ภาพ: ผู้เขียน