ในปัจจุบันเราจะเห็นสินค้าจำพวกเมล็ดฟักทองทั้งแบบแกะเปลือก หรือยังมีเปลือกหุ้มอยู่ ให้เราได้เลือกซื้อมาบริโภคกันอย่างหลากหลาย แต่คุณทราบหรือไม่ว่าเมล็ดฟักทองเมล็ดจิ๋วที่เราเห็นกันอยู่นั้น ความจริงแล้วอุดมไปด้วยสรรพคุณที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ชนิดที่คุณอาจจะคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว วันนนี้เราจะมาลองดูกันว่ามีอะไรอยู่ในเมล็ดฟักทองกันบ้างนะคะ1. เป็นแหล่งแมกนีเซียมและแร่ธาตุสูง ขอบคุณภาพจาก pixabayเมล็ดฟักทองเป็นอาหารที่มีประโยชน์เป็นอย่างมากเพราะอุดมไปด้วยแมกนีเซียม ที่ช่วยในเรื่องของการนอนหลับสนิท มีแมงกานีสที่ช่วยในการสร้าง collagen ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในโครงสร้างของผิวหนังและกระดูก มีธาตุเหล็กซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเม็ดเลือดช่วยให้ฮีโมโกลบินแข็งแรงเพื่อลำเลียงออกซิเจนไปยังเซลล์ได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังมีสังกะสีที่ช่วยในเรื่องของผิวและการลดการเกิดสิวอีกด้วยค่ะ2. เต็มไปด้วยไขมันที่มีประโยชน์ ขอบคุณภาพจาก pixabayเมล็ดฟักทองถือเป็นแหล่งของกรดไขมันดี และมีโอเมก้า 3 ซึ่งโดยปกติเรามักจะไม่ค่อยพบสารเหล่านี้จากพืช เรามักจะพบโอเมก้า 3 จากอาหารจำพวกปลา เช่น แซลมอน ซึ่งเมล็ดฟักทองจะช่วยลดความเสี่ยงของไขมันในเส้นเลือด ป้องกันการเกิดโรคหัวใจรวมถึงการอักเสบของเซลล์ด้วยค่ะ3. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ขอบคุณภาพจาก pixabayเมล็ดฟักทองถือเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำและเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ดี นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ชี้ว่าเมล็ดฟักทองช่วยป้องกันโรคเบาหวานประเภท 2 และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดรวมถึงควบคุมให้การหลั่งอินซูลินอยู่ในระดับปกติ4. เพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบภูมิคุ้มกัน ขอบคุณภาพจาก pixabayเนื่องจากเมล็ดฟักทองมีสังกะสีและธาตุเหล็กซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย นอกจากนี้เมล็ดฟักทองยังมีสรรพคุณช่วยต่อต้านเชื้อราและไวรัส อีกทั้งเมล็ดฟักทองเป็นอาหารที่ก่อให้เกิดการแพ้น้อยมาก5. ช่วยให้อสุจิของคุณแข็งแรงขึ้น ขอบคุณภาพจาก pixabayการบริโภคเมล็ดฟักทองและน้ำมันเมล็ดฟักทองจะช่วยให้สุขภาพของต่อมลูกหมากดีขึ้น นอกจากนี้ปริมาณสังกะสีจากเมล็ดฟักทองก็ช่วยให้อสุจิมีความแข็งแรงมากขึ้นด้วย เพราะปริมาณสังกะสีในเลือดนั้นมีความสัมพันธ์กับคุณภาพและปริมาณของเชื้ออสุจิของเพศชายค่ะเมื่อทราบคุณประโยชน์ของเมล็ดฟักทองแบบนี้แล้ว คุณอาจจะนำเมล็ดฟักทองมาเป็นอีกหนึ่งอาหารทานเล่นแทนขนมที่มีน้ำตาลหรือไขมันสูง เท่านี้คุณก็จะได้รับประโยชน์และความอร่อยจากเมล็ดฟักทองได้อย่างเต็มที่ค่ะขอบคุณข้อมูลจาก www.health.comขอบคุณภาพหน้าปกจาก pixabay