ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวสารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าวโควิดระบาด ข่าวสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และข่าวนักแสดงสาวสวย คุณแตงโมที่เสียชีวิตจากการพลัดตกเรือที่แม่น้ำเจ้าพระยา ทุกอย่างล้วนประดังประเดเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ผู้เขียนเองอาศัยอยู่ที่ประเทศสวีเดน ที่ถึงแม้จะไม่ใช่ประเทศที่เกิดความขัดแย้งโดยตรง แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากรัสเซียมากนัก ซึ่งรัสเซียก็ฉวยโอกาสนี้บินบนน่านฟ้าของประเทศสวีเดนเป็นบางช่วง บางเวลา ทำให้สถานการณ์ในประเทศสวีเดนก็พลอยตึงเครียดตามไปด้วย ผู้เขียนเองก็ยอมรับว่าตัวเองก็เกิดความเครียดตามข้อมูล ข่าวสารดังกล่าวพอสมควร จนต้องกลับมาทบทวนตัวเอง และหาวิธีผ่อนคลายความเครียด เพื่อไม่ให้ความเครียดมาทำลายสุขภาพ และนี่คือวิธีที่ผู้เขียนเองมักจะใช้ในการจัดการกับความเครียดของตัวเอง และคิดว่าได้ผลค่อนข้างดี จึงอยากมาแบ่งปันเผื่อเป็นประโยชน์สำหรับใครหลาย ๆ คนจำกัดการรับข้อมูล ข่าวสาร การจำกัดการรับข้อมูล ข่าวสาร ไม่ใช่การปิดหู ปิดตา โดยไม่ยอมรับรู้ข่าวสาร บ้านเมือง แต่เป็นการกรองการรับข้อมูล ข่าสารอย่างเป็นระบบ ผู้เขียนใช้วิธีเปิดรับข่าวสารบางช่วงเวลาเช่นเปิดอ่านข่าวช่วงหลังเลิกงาน วันละ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ทันโลก ทันเหตุการณ์ หากเรามัวแต่นั่งจดจ่ออยู่กับสิ่งใด สิ่งหนึ่งมากเกินไป นอกจากจะทำให้สมองล้าแล้ว ยังทำให้ร่างกายเกิดความเครียด และทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับตามมาในที่สุด ทำงานอดิเรก เลือกงานอดิเรกที่เราชื่นชอบ เช่นการอ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ หรือจะมาเขียนบทความตามเว็บต่าง ๆ เช่นเว็บทรู แบบที่ผู้เขียนทำ ก็เป็นการผ่อนคลายความเครียดแบบหนึ่งเช่นกัน เพราะเป็นการพักสมองจากข้อมูลข่าวสารที่ประดังประเดเข้ามา การกอดการกอดกันเป็นการผ่อนคลายความเครียดแบบหนึ่ง เพราะร่างกายเราจะหลั่งสารที่ทำให้เราเกิดความสุข แต่สำหรับใครที่ไม่มีคู่กอด เราก็ไปกอดต้นไม้แทน การกอดต้นไม้ให้ได้ผลไม่ใช่จะกอดแค่ 1-2 วินาที แล้วโบกมือลา แต่ให้กอดอย่างน้อย 10-15 นาที โดยแนบใบหน้าไปกับต้นไม้ อันนี้เพื่อนผู้เขียนซึ่งเป็นนักกายภาพบำบัดแนะนำมา และผู้เขียนเคยทำก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้จริง ๆ ที่ต่างประเทศกำลังทำการวิจัยว่าการกอดต้นไม้ทุก ๆ วัน วันละ 10-15 นาทีสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้คำแนะนำ แนะนำให้เลือกต้นไม้ที่ไม่มีหนามแหลมคม หรือไม่มีมดแมลงที่มีพิษ ไม่อย่างนั้นแล้ว คุณอาจจะได้ความเครียดมากกว่าเดิมอีก รู้ยัง?ผ่อนคลายด้วยสมุนไพร ผู้เขียนนิยมดื่มชาคาโมมายด์ใส่น้ำผึ้ง ซึ่งก็ช่วยให้หลับสบายขึ้น หรือจะกินอาหารที่มีสารที่ช่วยเพิ่มความสุขให้ร่างกาย พวกข้าวเหนียว ข้าวโพดก็พอช่วยได้เช่นกัน การออกกำลังกาย มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ ท่าน ที่แนะนำให้ออกกำลังกายทุก ๆ วันเพื่อผ่อนคลาย แต่สำหรับผู้เขียนที่ไม่ชอบการออกกำลังกาย มองว่าการไปออกกำลังกายในยิม สร้างความเครียดให้ตัวเองมากกว่าการอยู่เฉย ๆ แต่ถ้าเป็นการไปเดินเล่น เก็บเห็ด เก็บบลูเบอรี่ในป่า อันนี้เป็นการผ่อนคลายของผู้เขียนอย่างแท้จริง การปรับความคิด สิ่งสำคัญที่สุด ที่ขาดไม่ได้ในการผ่อนคลายความเครียดด้วยตนเอง คือการปรับความคิดของตัวเอง ให้เข้าสู่โหมดด้านบวก มากกว่าด้านลบ เช่นข่าวปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน เราในฐานะมนุษย์ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ไม่ได้มีอิทธิพลต่อผู้นำรัสเซีย เราก็ทำได้เพียงแค่ดำเนินชีวิตของตัวเองให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ ปัจจัยนอกเหนือจากนั้นเราก็ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ถ้าใครที่กำลังเครียดกับปัญหาของตัวเอง เช่น ปัญหาเรื่องหนี้สิน เรื่องงาน เรื่องครอบครัว ผู้เขียนแนะนำให้เราปล่อยใจให้ผ่านไปสักพัก แล้วค่อย ๆ คิดทีละสเต็ปว่าเราจะแก้ปัญหานั้น ๆ ได้อย่างไร ถ้าเป็นปัญหาที่ตัวเรา เราก็สามารถแก้ได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าปัญหานั้นเป็นของคนอื่น เราก็ทำได้แค่ช่วยให้คำแนะนำ แล้วปล่อยวาง เพราะหากเราสุมปัญหาไว้ที่ตัวเอง โดยไม่ปล่อยออกไป สุดท้ายก็เป็นตัวเราที่รับเอาความเครียด และปัญหานั้นมากองไว้ซะเอง และสุดท้ายก็ตัวเราเองที่จะไม่สามารถก้าวผ่านปัญหาเหล่านั้นไปได้ลองคิดเล่น ๆ ว่า ถ้าคุณบังเอิญพบว่า เพื่อน หรือญาติพี่น้อง ตกลงไปในหลุมลึก คุณเลือกจะกระโดดลงไปในหลุม เพื่อช่วยพวกเค้าออกมา หรือคุณเลือกจะหาวิธีอื่น ๆ ในการช่วยเหลือพวกเค้าออกมา อันนี้ผู้เขียนขอเน้นอีกครั้งว่า การพยายามหาทางช่วยเหลือ กับการหนีเอาตัวรอดแต่เพียงผู้เดียวมันต่างกันลิบลับนะครับผม!!!สิ่งสำคัญในการผ่อนคลายความเครียด คือการหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวเราเอง บางวิธีอาจจะเหมาะกับคนอื่น แต่ก็ไม่เหมาะกับตัวเรา หรือบางวิธีก็เหมาะกับตัวเรา แต่ไม่เหมาะกับคนอื่น หากใครลองใช้หลาย ๆ วิธีแล้วยังไม่ได้ผล สมองยังคิดถึงแต่ความมืดมน ผู้เขียนขอแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เพื่อหาทางออกร่วมกันนะ เป็นห่วงจริง ๆ นะบอกเลย!!ภาพปก และภาพทั้งหมด โดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !