การดูแลตัวเองเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ง่ายผ่านละอองฝอยจากการไอ จาม หรือการพูดคุยใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ โรคนี้มักระบาดในช่วงเปลี่ยนฤดู โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว อาการของไข้หวัดใหญ่จะแตกต่างจากไข้หวัดธรรมดา เพราะมักมีอาการรุนแรงและเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลียมาก ไอ เจ็บคอ และน้ำมูกไหล หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม หรือการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติมได้ 1. การพักผ่อนให้เพียงพอ สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่คือ การพักผ่อนให้มากกว่าปกติ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาในการฟื้นฟูและสร้างภูมิคุ้มกันต่อสู้กับเชื้อไวรัส ควรนอนหลับอย่างน้อยวันละ 8–10 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือทำงานหักโหม เพราะจะยิ่งทำให้ภูมิต้านทานลดลง การพักผ่อนในห้องอากาศถ่ายเทดี อุณหภูมิเหมาะสม ไม่อับชื้น จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น 2. ดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ขณะมีไข้ ร่างกายจะสูญเสียน้ำมากจากเหงื่อและการหายใจ ควรดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำผลไม้คั้นสดที่มีวิตามินซีสูง เช่น น้ำส้ม หรือน้ำมะนาว เ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ด้านอาหาร ควรเลือกรับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ซุปผัก หรือปลา และเน้นผักผลไม้สดที่มีวิตามินซีสูง เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น 3. ป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น ผู้ป่วยควร สวมหน้ากากอนามัย ตลอดเวลาเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ไอหรือจามด้วยกระดาษทิชชู่ และไม่ควรใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ หรือช้อนส้อม ควรหยุดเรียนหรือหยุดงานอย่างน้อย 5–7 วัน หรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อในชุมชน 4. เสริมภูมิคุ้มกันและป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีก หลังจากหายป่วยแล้ว ควรหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ พักผ่อนเพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียด หากเป็นไปได้ควร ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปี โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เพื่อช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดโอกาสการแพร่เชื้อ 5. การปรึกษาแพทย์หรือพบแพทย์ ถึงแม้ไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่สามารถหายได้เองภายใน 5–7 วัน แต่บางรายอาจมีอาการรุนแรง จึงควร รีบไปพบแพทย์ทันที หากมีอาการดังต่อไปนี้ ไข้สูงเกิน 39°C ติดต่อกันเกิน 3 วัน หอบเหนื่อย หายใจเร็ว หรือแน่นหน้าอก อาเจียนมาก รับประทานอาหารไม่ได้ มีอาการสับสน เหงื่อออกมาก หน้ามืด หรือหมดสติ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว (เช่น โรคหัวใจ ปอด เบาหวาน) ควรพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มมีอาการ การดูแลตัวเองเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ไม่ใช่เพียงแค่การกินยาให้ครบ แต่คือการให้ความสำคัญกับการพักผ่อน ดื่มน้ำมาก ๆ กินอาหารที่ดี และหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น การดูแลอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว ลดภาวะแทรกซ้อน และยังเป็นการช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรคสู่คนรอบข้างอีกด้วย เครดิตรูปภาพ: ภาพหน้าปก จาก Facebook Thai Otsuka Nutrition Club ภาพที่1 จาก Facebook กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ภาพที่2 จาก Facebook Thai Otsuka Nutrition Club ภาพที่3 จาก Facebook UNICEF Thailand ภาพที่4 จาก Facebook อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !