วันรุ่นเจนzอาจจะไม่เคยเห็นหรือพบเจอกับต้นหนุมานนั่งแท่นนี้มากนัก เพราะปัจจุบันค่อนข้างหายาก คนปลูกกันน้อยลง เพราะไม่ได้ถูกจัดอยู่ในไม้ประดับยอดนิยมอย่างต้นไทรใบสัก ต้นยางอินเดีย หรือไม้ฟอกอากาศต่างๆในสมัยนี้ แต่หารู้ไม่ว่าต้นหนุมานนั่งแท่นนี้แหละมีสรรพคุณทางยามากมายและสามารถใช้ประโยชน์ได้ทันที สามารถช่วยเราได้ยามเกิดเหตุฉุกเฉินได้ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการใดๆ แต่จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย ต้นหนุมานนั่งแท่นเป็นไม้พุ่ม มีความสูงประมาณ 2.5 เมตร มีโคนลำต้นอวบน้ำ ใบรูปไข่กว้างถึงรูปไข่กลับ นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับและว่านมงคลชนิดหนึ่งตามบ้านและวัดทั่วไป ในด้านของความเชื่อ ในสมัยก่อนมีการนำส่วนของหัวว่านมาแกะเป็นรูปพญาวานรแล้วเสกด้วยคาถาพุทธคุณ อมไว้(ห้ามกลืน)หรือพกติดตัวไว้ จะทำให้ศัตรูแพ้พ่ายต่อเราและยังทำให้คงกระพันชาตรีอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการแกะเป็นรูปพญานาคราช ใช้เสกคาถาเมตตามหานิยมและนำไปพกติดตัวไว้ จะทำให้เมื่อเราไปเจรจาราบรื่น มีแต่ผู้รักใคร่ ปราถนาสิ่งใดก็สำเร็จทุกประการ โดยต้นหนุมานนั่งแท่นนั้นจะมีเพศเมียและเพศผู้ นิยมขยายพันธุ์ด้วยการใช้หัวหรือเหง้า มีสรรพคุณทางยามากมาย สำหรับบ้านไหนที่ปลูกไว้ก็เปรียบเสมือนมียาฆ่าเชื้อและยาสมานแผลอยู่ในที่เดียวกัน ข้อดี1.เป็นต้นที่ชอบแสงแดดจัดแบบเต็มวัน สามารถทนต่อความแล้งได้ดี ถือว่าปลูกไว้ตรงไหนก็ไม่ตายขอแค่มีแดดและความชื่นก็เพียงพอ 2.เป็นไม้อายุยืน เพราะว่ามีอัตราการเจริญเติบโตที่ช้า ทนต่อสภาพอากาศทุกรูปแบบยกเว้นที่น้ำขัง การรดน้ำก็แค่2-3 อาทิตย์รด 1-2 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว 3.ปลูกเป็นไม้ประดับและสะสมเป็นไม้โขดได้ ดูแลง่ายไม่ยุ่งยาก 4.ใช้เป็นยาห้ามเลือดและสมานแผล ตามเกิดอุบัติเหตุเลือดตกยางออกภายในบ้านของเรา สรรพคุณทางยาของหนุมานนั่งแท่น1.น้ำยางจากใบ ช่วยในการรักษาแผลมีดบาด ห้ามเลือดได้ ถ้าเกิดมีดบาด ให้เราล้างเลือดออกให้หมดก่อนแล้วนำยางของใบหนุมานนั่งแท่นมาหยดใส่ได้เลย พอน้ำยางแห้งสนิทก็จะทำให้เลือดหยุดไหลและแผลของเราก็จะเริ่มแห้งและตกสะเก็ด ให้ใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง2-3วัน (แล้วแต่ขนาดแผลให้คำนวณเอาเอง) 2.น้ำยาง นอกจากจะรักษาบาดแผลได้แล้วยังช่วยรักษาอาการฝีที่เป็นตามผิวหนังเท่านั้น ให้น้ำน้ำยางจากใบและลำต้น มาทาบริเวณที่เป็นฝีเป็นประจำทุกวัน จนกว่าจะหาย ให้ใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและควรศึกษาให้ดีก่อนจะใช้ 3.ในเมล็ดมีสารกลุ่ม phorbol esters ที่เป็นพิษ โดยสารสกัดจากเมล็ด ประกอบไปด้วยปิโตรเลียมอีเทอร์ ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อราได้ 4.เหง้ามีสรรพคุณเป็นยาฟอกโลหิต ใช้ต้มกินเป็นยาบำรุงพละกำลังสำหรับผู้ที่ใช้แรงงานหรือทำงานหนัก โดยให้ใช้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าใช้เกิน1กำมือ อาจะก่อให้เกิดโทษแทนคุณ นอกจากนี้ยังสามารถนำเหง้ามาโขลกให้ละเอียด เพื่อใช้เป็นยาพอกทาตามข้อต่างๆของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมือหรือข้อเท้า ให้ใช้พอกและนวดแก้อาการเคล็ดขัดยอกตามส่วนต่างๆข้อควรระวัง 1.ในน้ำยางและเมล็ด มีสารออกฤทธิ์คล้ายท็อกซาลบูมิน (toxalbumin) สารกลุ่มฟอร์บอล (phorbol) และสารแอลคาลอยด์กลุ่มไกลโคไซด์ หากสัมผัสถูกน้ำยาง จะเกิดอาการระคายเคืองและแพ้ได้ รวมถึงมีอาการบวมแดง ปวดแสบปวดร้อนตามผิวหนัง 2.หากรับประทานเมล็ดเข้าไปเกิน 3 เม็ด จะทำให้เกิดอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย กล้ามเนื้อชักกระตุก หายใจเร็ว การเต้นของหัวใจผิดปกติ ความดันโลหิตต่ำ 3.ถ้าน้ำยางเข้าตา จะทำให้ตาอักเสบ ตาบอดชั่วคราวได้ แต่ถ้าได้รับในปริมาณมากจะอาจทำให้ตาบอดถาวร (และห้ามนำเมล็ดหรือผลมารับประทานเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เสียชีวิตได้) วิธีการรักษาพิษ ถ้าถูกน้ำยางในส่วนของผิดหนัง ให้ทำการล้างน้ำยางออกโดยใช้สบู่ หรืออาจจะใช้ยาสเตียรอยด์ทาบริเวณที่ระคายเคือง ในกรณีที่รับประทานเข้าไป ให้ใช้ถ่านกัมมันต์ (activated charcoal) ล้างท้อง หรือรีบทำให้อาเจียนออกมาให้หมด ซึ่งการรักษาข้างต้นเป็นเพียงขั้นตอนเบื้องต้นเท่านั้น ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ให้ไปพบแพทย์จะดีที่สุด แค่ปลูกต้นหนุมานนั่งแท่นหนึ่งต้น ก็ทำให้เรามียาห้ามเลือดและยาสมานแผลไว้ใช้ในยามที่เราเกิดอุบัติเหตุเลือดตกยางออก ก็สามารถใช้ประโยชน์จากต้นหนุมานนั่งแท่นได้แล้ว เครดิต ปกประกอบและภาพถ่ายทั้งหมด ตกแต่งโดย JJKK89/ผู้เขียนบทความ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !