เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยประสบกับปัญหา “สิว” ที่วันดีคืนดีคุณสิวทั้งหลายก็โผล่ขึ้นมาบนใบหน้า บนแผ่นหลัง หน้าอก หรือตามซอกตามหลืบต่าง ๆ ทั่วร่างกาย และเราอาจจะเคยได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว ที่มีมากมายหลายทางเหลือเกิน แต่แท้ที่จริงแล้ว “สิว” เกิดจากการที่ระบบภายในร่างกายของเราเสื่อมโทรม เราสะสมพิษและของเสียไว้ในร่างกายทุก ๆ วัน จนวันหนึ่งร่างกายทนพิษที่มากเกินไปไม่ไหว จึงส่งสัญญาณเตือนภัยมาในรูปของ “สิว” นั่นเอง Madam happy ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยมีปัญหาสิวเรื้อรังมาก่อนเหมือนกัน โดยเริ่มเป็นสิวตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถม และกองทัพสิวก็มาบุกหนักมากในช่วงมัธยมปลาย ทำให้เสียความมั่นใจในตัวเอง ถึงขั้นไม่กล้าออกไปพบปะผู้คน ไม่อยากออกไปไหน และไม่กล้าสบตาใครเลยเวลาพูดคุยกัน เพราะอายที่มีสิวปะทุทั่วหน้า มีแต่คนถามว่าไปทำอะไรมา ทำไมสิวเยอะขนาดนี้ พ่อแม่ก็สงสารไม่กล้ามองหน้าลูกสาว เราจึงเสาะแสวงหาสารพัดวิธีที่จะทำให้สิวหายไป ทั้งเข้ารักษาที่คลินิกเสริมความงาม กินยา ทายา ครีมรักษาสิวต่าง ๆ ที่เขาว่าดี ลองผิดลองถูกมาหมด แต่สิวมันก็ไม่เคยหายไป จนสุดท้ายตัดสินใจที่จะรักษาด้วยตัวเอง เมื่อศึกษาจนเข้าใจแล้วว่า เราต้องขจัดปัญหาสิวที่ต้นเหตุ นั่นก็คือเราต้องซ่อมระบบภายในพัง ๆ ของเราก่อน ถ้าข้างในร่างกายของเราดี ภายนอกก็จะดีตามไปด้วย หลังจากนั้นเราจึงใช้วิธีธรรมชาติบำบัด จนอาการสิวดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือนแรก และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเมื่อเข้าสู่เดือนที่ 3 แต่เมื่อสิวหาย ก็ยังคงทิ้งร่องรอยไว้ให้เรารักษากันต่อไป Madam happy เข้าใจหัวอกคนเป็นสิวเป็นอย่างดี เลยอยากจะแชร์แนวทางการรักษาสิวจากภายใน ให้ลองนำไปปฏิบัติกันดู ซึ่งมีทั้งหมด 5 วิธี ดังต่อไปนี้ 1. การล้างพิษ โดยการล้างพิษในที่นี้จะเน้นไปที่ลำไส้ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเป็นระบบขับถ่ายของเสียขนาดใหญ่ ทำงานหนัก และซับซ้อน ถ้าเราทำที่นี่ให้สะอาดมีสุขภาพดี จุลินทรีย์ที่ดีก็จะทำงานได้อย่างเต็มที่ สิวก็จะดีขึ้นได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นเลย การล้างพิษ ก็จะมีตั้งแต่การสวนลำไส้ด้วยน้ำสมุนไพร ด้วยน้ำอุ่น ด้วยกาแฟสำหรับล้างพิษ การทานน้ำพืชผักผลไม้ที่ช่วยขับล้างสารพิษ และการทานผลิตภัณฑ์ช่วยล้างพิษที่หาซื้อได้อย่างง่ายดายในยุคนี้ เนื่องจาก “สภาพผิวหน้าสะท้อนระบบภายใน” ของเสียที่สะสมในร่างกายกำลังล้นทะลักออกมา ทำให้มีสิวลักษณะต่าง ๆ ซึ่งบ่งบอกถึงภาวะและระบบในร่างกายที่กำลังมีปัญหา เมื่อเรามีของเสียในร่างกายมาก พวกจุลินทรีย์ที่ไม่ดีก็จะอาศัยอยู่มาก คอยขัดขวางการทำงานของจุลินทรีย์ที่ดี ทำให้ระบบภายในอักเสบ ร้อน แดง สิวของเราจึงร้อน แดง และอักเสบนั่นเอง การล้างพิษจึงช่วยจัดระบบภายใน โดยหลังจากล้างพิษ เราต้องทานอาหารที่มีประโยชน์ มีใยอาหาร ไม่ทานรสจัด เพื่อช่วยให้ลำไส้ของเราซ่อมแซม อุดรอยรั่วต่าง ๆ ของตัวเอง เมื่อลำไส้ปกติดีแล้ว แผลอักเสบต่าง ๆ หายดี สิวเราก็จะยุบลงด้วย 2. การนอน กุญแจสำคัญที่จะทำให้เราประสบผลสำเร็จในการรักษาสิว คือ การนอนเร็ว นอนอย่างมีคุณภาพ นอนให้ได้ก่อน 5 ทุ่ม เพราะช่วง 5 ทุ่ม ถึงตี 1 เป็นช่วงที่ตับกับถุงน้ำดีกำลังล้างพิษที่สะสมอยู่ในร่างกายให้ออกมาในรูปแบบต่าง ๆ หากนอนหลัง 5 ทุ่ม ตับจะขับไขมัน และสารพิษได้ไม่มาก ตับจึงอ่อนแอลงเพราะพิษสะสมมากเกินไป จนทะลักออกมาเป็นสิว ทำให้เราหน้ามัน รูขุมขนกว้าง ผิวหยาบกระด้าง สิวอักเสบ และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ดังนั้น การนอนหลับให้ลึก หลับสนิท จนเราสามารถตื่นมาพร้อมพลังงานในช่วงตี 5 และก่อน 7 โมงเช้าได้ โดยไม่มีอาการง่วงหรืออ่อนเพลีย นั่นคือ การนอนที่จะสามารถช่วยรักษาสิวให้หายได้ หากทำได้สิวมีโอกาสหาย 95 – 100 เปอร์เซ็นกันเลยทีเดียว 3. การขับถ่าย ช่วงเวลาแห่งการขับถ่ายของเสียที่ดีที่สุดคือ ตี 5 ถึง 7 โมงเช้า เพราะพลังงานชีวิตจะลงไปที่ลำไส้ ทำให้เราขับถ่ายง่าย หากขับถ่ายหลังจากนี้ พลังในการขับถ่าย การบีบรัดตัวของลำไส้จะลดลง ทำให้ถ่ายไม่สุด ถ่ายไม่หมด อุจจาระตกค้างในลำไส้ กลายเป็นตะกรันเหนียว ๆ เป็นน้ำเน่าเหม็น เกาะที่ผนังลำไส้ ซึ่งเป็นอาหารชั้นเลิศของจุลินทรีย์ที่ไม่ดี เมื่อรวมกันมาก ๆ ก็จะเป็นของเสียถูกดูดกลับเข้าสู่ร่างกาย เชื้อโรคเชื้อร้ายเหล่านี้จะรุกรานเซลล์ลำไส้ กระทั่งกลายเป็นพิษเข้าสู่กระแสเลือด ทำลายระบบภายใน การขับถ่ายจึงสำคัญ และจำเป็นอย่างมาก ดังนั้น ผถ้าอยากให้สิวหาย ขับถ่ายให้เป็นเวลา สม่ำเสมอทุกวันด้วยนะคะ 4. การดื่มน้ำ เคล็ดลับสำคัญคือ ดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว 1 แก้ว ตามด้วยน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องอีก 1 แก้วหลังตื่นนอนทันที เพราะช่วยเรื่องระบบขับถ่าย และขอบอกว่ามะนาวช่วยเรื่องสิวได้ดีมาก ๆ เนื่องจากน้ำคือโครงสร้างหลักของร่างกาย เมื่อขาดน้ำร่างกายจึงทรุดโทรม และทำให้มีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา หากเราดื่มน้ำเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย น้ำจะช่วยชำระล้างพิษสะสมต่าง ๆ ช่วยให้กระบวนการขับของเสียออกไปจากเซลล์และเนื้อเยื่อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เรา สำหรับร่างกายของคนที่ขาดน้ำ เซลล์ในร่างกายบางส่วนจะเหี่ยวแห้ง ไร้สมรรถภาพ ทำให้ผิวพรรณแย่ไปด้วย เราจึงต้องดื่มน้ำเยอะ ๆ จะได้มีผิวสุขภาพดี เปล่งปลั่ง 5. การกิน ท่องให้ขึ้นใจว่า YOU ARE WHAT YOU EAT กินของดี ย่อมมีสุขภาพที่ดี สิ่งที่ควรทานช่วงรักษาสิว จะเน้นความสด สะอาด ไม่ผ่านกระบวนการ เลือกทานข้าวที่มีเส้นใยสูง เช่น ข้าวกล้อง ทานอาหารประเภท ต้ม นึ่ง ลวก มื้อเช้าไม่ควรเกิน 9 โมง และทานให้เพียงพอ ให้มีประโยชน์ มื้อเที่ยงทานให้น้อยลงกว่ามื้อเช้า มื้อเย็นทานน้อยสุด ควรเป็นของเบา ๆ ย่อยง่าย เช่น น้ำเต้าฮู้ ปลานึ่ง ผักนึ่ง สลัดผัก ก็ได้ ถ้านอนเร็วแนะนำว่าให้ทานก่อน 6 โมงเย็น ของต้องห้ามช่วงรักษาสิว ได้แก่ นมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัว ไม่ดื่มน้ำอัดลม ชา กาแฟ งดของหวานทุกประเภท รวมถึงผลไม้รสหวานก็ควรงด (น้ำตาลเป็นอาหารของจุลินทรีย์ไม่ดีหรือเชื้อโรค) ของมันทุกอย่าง (ผ่านการใช้น้ำมันและความร้อนสูง) งดเนื้อสัตว์ใหญ่ และไก่ (ย่อยยาก ฮอร์โมนเยอะ ทำให้หน้ามันเป็นสิวง่าย) และงดขนบกรุบกรอบ (มักผ่านการทอด มี trans fat) สำหรับแนวทางในการรักษาสิวทั้ง 5 ข้อนี้ หากผู้อ่านสามารถนำไปปฏิบัติให้เป็นกิจวัตร ทำจนติดเป็นนิสัยได้ Madam happy รับประกันว่า ทุกคนจะสามารถเปลี่ยนหน้าสิว ให้เป็นหน้าใสได้อย่างแน่นอนค่ะ และได้หุ่นดี สุขภาพดีเป็นของแถมอีกด้วย เป็นกำลังใจให้นะคะทุกคน “ สิวจงหายไป”ภาพปกโดย Madam happy / ภาพประกอบที่ 1 โดย Madam happy / ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay ภาพประกอบที่ 2 / ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4 / ภาพประกอบที่ 5 / ภาพประกอบที่ 6 / ภาพประกอบที่ 7 โดย Madam happy