กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ ตอนเด็กๆ ก็ร้องบ่อยนะคะ ยิ่งช่วงกีฬาสี ร้องจนฮิตติดชาร์ตที่สุดละ แต่เมื่อโตขึ้น ภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้น คนจำนวนมาก จึงห่างหายจากการออกกำลังกาย เราคือหนึ่งในนั้น ซึ่งมีข้ออ้างสารพัด ยิ่งเข้าช่วงวัยทำงานแล้ว มันยากจริงๆ ที่จะบังคับตัวเองให้ออกกำลังกาย จนมารู้ตัวอีกครั้งก็อ้วนเสียแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนให้กลับมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออีกครั้ง คือการได้โรคกระเพาะเป็นของแถม เมื่อเป็นโรครุมเร้า ก็ต้องตระหนักในการดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น คุณหมอแนะนำกีฬาให้มา 3 อย่างด้วยกัน 1. ว่ายน้ำ ตัดออกค่ะ ว่ายน้ำไม่เป็น 2. ปั่นจักรยาน ตัดออกค่ะ หมาชอบไล่กัด 3. วิ่ง ข้อนี้ พอเป็นไปได้ค่ะ รองเท้าผ้าใบมีอยู่แล้ว แค่พาตัวเองไปวิ่งแค่นั้นเอง ช่วงเริ่มแรกของการลุกไปวิ่ง ไม่อยากจะพรรณาเลยค่ะ ช่วงแรกมักยากเสมอ โดยเฉพาะการชนะใจตัวเอง เพราะเมื่อคนไม่ออกกำลังกาย ลุกขึ้นมาเริ่มใหม่ ร่างกายก็ต้องปรับตัว รูปภาพช่วงที่น้ำหนักตัวเพิ่มมากที่สุด การเริ่มวิ่งช่วงแรกนั้น ไม่สามารถจะวิ่งได้เลยค่ะ นอกจากเดินเร็ว เน้นแกว่งแขน ลดพุง ตามโครงการที่รณรงค์ ใช้เวลาปรับตัวประมาณ 1 เดือน เริ่มเข้าสู่เดือนที่ 2 จึงเริ่มวิ่งได้เป็นบางช่วง สลับกับเดินบ้าง ทำแบบนี้ติดต่อกันมาเรื่อยๆ จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน และจากเดือนเป็นปี สำหรับการเตรียมตัวในการวิ่ง โดยพื้นฐานจะต้องมีการยืดเส้นก่อนและหลังจากการออกกำลังกาย เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว ช่วงยืดเส้นก่อนวิ่ง ใช้เวลา 10-15 นาที โดยท่าที่ใช้ประจำจะเป็นการกระโดดตบ การหมุนข้อเท้า การยืดขาตรง สลับกับวอร์มวิ่งอยู่กับที่ เพื่อลดการบาดเจ็บในช่วงที่วิ่งค่ะ ระยะทางที่ใช้วิ่งสม่ำเสมอ จะเป็น 4 กม. เริ่มต้นจาก pace 10 และค่อยๆ ไต่ระดับมาสู่ pace 7 โดยเป็นการวิ่งทุกวันในช่วง 6 เดือนแรก และวิ่งให้ได้สัปดาห์ละ 4 ครั้ง ในช่วงเวลาถัดมา จนครบปีค่ะ * Pace (เพซ) หมายถึง เวลาที่ใช้ในการวิ่งต่อ 1 กิโลเมตร หรือ 1 ไมล์ ซึ่งยิ่งค่า Pace (เพซ) ต่ำเท่าไหร่ จะหมายความว่าใช้เวลายิ่งน้อยในการวิ่งระยะทาง 1 กิโลเมตร (ยิ่งน้อยยิ่งวิ่งเร็ว) และยังช่วยบอกความเร็วโดยรวมทั้งหมดตลอดระยะ ว่าใช้เวลาไปเท่าไหร่ ทำสถิติได้ดีกว่าครั้งก่อนไหม หรือ Pace สม่ำเสมอตลอดระยะทาง นอกจากการออกำลังกาย สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ การควบคุมอาหาร อาหารที่เลือกทานจะเป็นกลุ่มโปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น ไก่ ปลา ไข่ไก่ นม เป็นต้นค่ะ หลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มไขมันสูงและแคลสูง งดชา กาแฟ เน้นเป็นน้ำเปล่าค่ะ เข้าสู่การเปลี่ยนแปลง เมื่อวิ่งอย่างต่อเนื่อง ผลที่ตามมา น้ำหนักลดลง ผิวใสขึ้น ดูสดใส ลดอาการปวดขา ปวดเมื่อย นอนหลับสบายขึ้น และที่ดีใจเป็นที่สุด อาการกรดไหลย้อนลดลง (ต้องดูแลควบคู่กับอาหารนะคะ) ใช้ระยะเวลาในการดูแลตัวเองประมาณ 1 ปี น้ำหนักก็หายไป 12 กก. ยังคงออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ โอ้เย่ โอ้เย่ โอ้เย่ ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน จริงๆ แล้ว การหันมาดูแลสุขภาพ ไม่จำเป็นที่ต้องรอให้เจ็บป่วย หรือปล่อยให้ตัวเองอ้วนเกินกว่ามาตรฐาน ถึงจะหันมาใส่ใจออกกำลังกาย ควรจะทำให้สม่ำเสมอ ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ เราก็ออกกำลังกายสม่ำเสมอมาโดยตลอดค่ะ กีฬาที่เลือกใช้ ก็คือ การวิ่ง อย่างที่บอกข้างต้น หลายๆ คน ที่เข้ามาถาม เราเริ่มยังไง ควรเตรียมตัวยังไงที่จะออกไปวิ่ง ปัจจัยพื้นฐานหลักๆ ของทุกอย่างบนโลกใบนี้ เริ่มต้นด้วย ทัศนคติ ถ้าเริ่มต้นด้วยทัศนคติที่ดี เราก็จะพบกับความสำเร็จ ตามเป้าหมายที่วางไว้ บวกกับความสม่ำเสมอ ถึงแม้บางคนจะบอกว่าตัวเองทำไม่ได้ คิดง่ายๆ แค่ว่า "หากคุณคิดว่าคุณวิ่งไม่ได้ หรือคุณแค่คิดว่า คุณวิ่งไม่ได้" พูดอีกก็ถูกอีก ทุกอย่างเริ่มต้นที่ทัศนคติค่ะ จงทำให้การวิ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน เช่นเดียวกับที่กินชานมไข่มุกทุกวัน กินชานมเยอะ ก็ต้องวิ่งเยอะนะคะ