"ไปปั่นจักรยานกันไหม" หรือ "ปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ" เรามักจะได้ยินคำหรือประโยคนี้กันบ่อยครั้ง ก็ทำให้มีหลายคนจูงจักรยานออกไปปั่น ปั่นกับเพื่อน ๆ ได้สักสองสามวันก็เลิก หรือบางคนก็ปั่นไปได้สักระยะหนึ่งก็เลิกปั่น ทั้งอีกหลายคนก็มีการพัฒนาขึ้นไปอีก ถอยจักรยานใหม่ออกมา "เอาละวะฉันจะปั่นจริง ๆ แล้วนะเพื่อสุขภาพที่ดีไหนๆ ก็ลงทุนถอยจักรยานคันละเป็นหมื่นออกมาละ" แต่พอเอาเข้าจริง พอออกไปปั่นกับเพื่อนก็จะเจอสิ่งที่คาดหวังไว้กับความเป็นจริงมันช่างต่างกันราวกับยอดเขากับเหวลึก สิ่งที่คาดหวังไว้คือปันซิว ๆ ไปกับเพื่อนหรือไม่มีเพื่อนฉันก็จะไปเอง แต่พอเอาเข้าจริงที่ว่าจะปั่นซิวกับเพื่อน เพื่อนมันเล่นปั่นลิ่วลู่ลมไปจนเราตามไม่ทัน เราก็ซอยยิก ๆ ก็ยังตามไม่ทัน เหนื่อยแทบขาดใจ ไหนจะสับเปลี่ยนเกียร์ไม่ทันตอนขึ้นเนินต้องใช้เกียร์จูง เพื่อนมันก็บอกว่าเราต้องๆ และต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ("แล้วไอ้ที่ตรูเจ็บก้นไม่มีใครถามเลยนะ") เราหรือเจ็บปวดระบมไปหมดทั้งร่างเพราะเรามือใหม่หัดขี่ สามวันแรกที่ปั่นเจ้าประคุณเอ๋ย ก้าวลงบันไดแทบไม่ได้ เวลาเข้าห้องส้วมแบบนั่งยองๆ เหลายังนั่งไม่ลงเลยคุณเอ๋ย ใครบอกว่าปั่นคนเดียวก็ซิล ๆ ได้ มันก็ได้อยู่ในบางครั้ง แต่บางครั้งเราก็ต้องการเพื่อนร่วมทางเหมือนกันมันทำให้อรรถรสในการปั่นดีขึ้น การปั่นคนเดียวจะได้ในแง่ของการปั่นได้ตามใจเรา ช้าเร็วอยู่ที่เรากำหนดไม่ต้องคอยใคร หรือต้องตามใครให้เหนื่อยใจแทบขาด หรืออยากจะแวะบ้านไหนอย่างไรไม่มีใครว่า(นอกจากที่บ้านจะรู้แกว) ความลับก็ไม่รั่วไหล (อ้าว....คุยกันเรื่องปั่นจักรยานก็ดีอยู่แล้วจะแฉลบออกไปหาเรื่องหัวแตกทำไม่ก็ไม่รู้) ปั่นกับเพื่อน ๆ บางทีเราก็ต้องคอยดูว่าตามทันเราไหมหรือเราต้องตามเขาจนหืดขึ้นคอ มันก็ขึ้นอยู่กับว่างานนั้นเพื่อนที่เราร่วมปั่นนั้นระดับไหน พูดถึงคนที่ปั่นจักรยานใหม่ ๆ หรือเพิ่งหัดปั่นหัดขี่จักรยานแล้วร้อยทั้งร้อยจะมีความตั้งใจสูงและมุ่งมั่นมากเพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง แต่พอเจอสิ่งไม่คาดฝัน ก็ร้อยทั้งร้อยก็เก็บจักรยานไว้เป็นราวตากผ้า ก็อย่างที่บอกนะแหละ การปั่นจักรยานใช่ว่าเรื่องง่ายหรือยากเกินที่เราจะศึกษาและพัฒนาตนเองได้ บางคนอาจคิดว่า "กะแค่การปั่นจักรยานมันจะอะไรนักหนาก็แค่ขึ้นคร่อมแล้วแล้วก็ปั่นไม่เห็นมีอะไรยากเลย" ถูกต้องแล้วครับท่าน จักรยานอะไรก็ปั่นได้ขี่ได้ทั้งนั้นแหละ แต่..และก็แต่ ทุกสิ่งในโลกล้วนเพื่อความเหมาะสม ถ้าเราเอาจักรยานประเภทแม่บ้านไปปั่นเพื่ออกกำลังกายในระยะยาว ๆ หรือพอปั่นเก่งขึ้นเริ่มอยากจะไปท่องเที่ยวให้ไกล ๆ มันก็คงลำบากนิด ๆ เพราะจักรยานแม่บ้านเขาทำมาเพื่อให้ขี่ไปจ่ายตลาดซื้อกับข้าว "ก็ฉันมีอย่างนี้ ฉันจะขี่ของฉัน ใครมีปัญหา" ไม่มีหรอกครับคุณพี่เอาตามที่พี่สบายใจนะครับ ทั้งสามประเภทนี้ยังแบ่งกันเป็นระดับอีกจนปวดขมับเพราะมีเจ้าเกียร์และเบรกพร้อมทั้ง อะหลั่ยอีกหลายอย่าง เข้ามาเกี่ยวข้อง จนราคาบางทีก็เกี่ยวกับว่าจักรยานคันนี้วางอุปกรณ์เกียร์มาให้ระดับใด จนคนปั่นแต่ละคนแต่ละท่านมีแอบแข่งขันกันปรับแต่งนู่นนี่นั่นกันตลอดเวลา เห็นไหมแค่ซื้อจักรยานมาเป็นคันเพื่อมาปั่นออกกำลังกายก็มารื้อนั่นนิดเปลี่ยนนั่นหน่อยเรียกว่าต้องหาทางเสียเงินปรับแต่งรถจักรยานตลอดเวลา เพราะอยากตามอย่างเขา โดยลืมไปว่าเราน่าจะพัฒนาจิตใจและร่างกายของเราไปด้วย "มองหาความพอเพียงหรือเพียงพอ" ในวงการจักรยานนั้นไม่ค่อยเจอนะผมว่า ขนาดคนเขียนก็ซื้อจักรยานมาคันหนึ่ง ตอนนี้ของเดิมคงเหลือแค่เฟรม กับชุดเกียร์ ล้อ หลักอาน อาน ไปหมด ฮา ฮาๆๆๆ(จะปรับแต่งเกียร์ก็นึกสงสารว่าอยู่ด้วยกันมาแต่แรกแล้วดูๆ กันไปก่อน) เอาละไหน ๆ ก็เข้ามาสู่วงการของการปั่นจักรยานแล้ว ต้องถามตัวเองอีกสักครั้งนะว่า มีใจรักหรือว่าตามกระแส เพราะต่อไปนี้ก็จะพูดถึง ว่าเมื่อเข้ามาวงการนี้แล้ว ครั้นจะปั่นคนเดียวก็เหงาก็เริ่มมองหากลุ่มหรือชมรมละ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสือ สิงห์ กระทิง แรด ช้าง ที่ไหน ก็จะพยายามกระแซะเข้าไปเป็นเพื่อนร่วมปั่น รู้จักกันมากขึ้น เห็นเขาแต่งตัวใส่ชุดปั่นจักรยานสุดสวย น่ารัก ดูแล้วมีสง่าราศรี หรือดูดี ออกเท่ห์ ๆ ก็อยากใส่กะเขาบ้าง เอาน่า.....ไหนๆ ก็หลวมตัวมาแล้วลองดูสักหน่อยเป็นไร "พี่ครับชุดที่พี่ใส่นี่ดูเข้าท่านะครับ ชมรมพี่ทำแจกหรือครับ" คำตอบที่ได้ทำให้ใจที่อยากออกมาปั่นหายไปครึ่งหนึ่ง "เปล่าครับ ทางชมรมเขาจัดทำในราคาสมาชิกตกชุดละ 1,500 บาทครับอันนี้เป็นแบบผ้าทั่วไปครับ ถ้าเป็นผ้าระดับโปรก็ราคาไม่พูดดีกว่าครับ" โห...อะไรกันแค่นี้แพงจังแฮะ ๆ พอเข้าไปในกลุ่มแล้วคุณๆที่จะตามกระแสหรือใจรักก็ต้องรู้จักวางตัวละครับ เพราะในวงการจักรยานนั้นมีแต่รายจ่ายครับรายได้นั้นหายากมีแต่ต้องจ่ายกับจ่าย แต่สิ่งที่ได้กลับมามันคือความสุข และสุขภาพที่ดีของเรา จนมีหลายท่านที่ป่วยหรือสุขภาพไม่ค่อยดี "เมื่อออกมาปั่นด้วยใจรักในการปั่นและรักในสุขภาพของตนเองนั้น" กลับมีสุขภาพที่ดีขึ้นจนบางคนนั้นหายจากอาการที่เป็นอยู่อย่างน่าอัศจรรย์เพราะการปั่นจักรยานด้วยใจรัก ไม่เชื่อคุณ ๆ ลองออกมาปั่นจักรยานด้วยใจรัก แล้วคุณจะได้คำตอบ จากที่บอกว่าการปั่นจักรยานนั้นมีแต่รายจ่าย นั้นคืออย่างนี้นะครับ อันดับแรกเลย จ่ายเพื่อซื้อจักรยานที่ถูกใจเรา ไม่ว่าจะเป็นเสือภูเขา เสือหมอบ หรือจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวก็ต้องจ่ายละ พอปั่น ๆ ไปเจอเพื่อน ๆ ปรับเปลี่ยนอะไหล่ก็อยากทำบ้างต้องจ่ายไหม จ่ายอยู่แล้วครับ ถัดมาชุดปั่น เสื้อปั่นก็ต้องกระชับ ดูดี "กางเกงละใส่กางเกงอะไรปั่นก็ได้มั้ง" ได้ครับแต่คุณลองคิดดูนะการที่คุณนั่งอยู่บนอานจักรยานแข็ง ๆ (อ้อ...ลืมบอกไปอานจักรยานเสือทั้งหลายทั่วไปมักจะนุ่มนิดๆแต่แข็งนะขอบอก) นานและ นาน ๆ นับเป็นชั่วโมงหรือหลายชั่วโมง สิ่งที่ตามมาก็คืออาการเจ็บก้นและปวดไข่ (เอ๊ะ...ฉันเป็นผู้หญิงไม่เกี่ยวกับไข่ไม่ใส่กางเกงสำหรับปั่นก็ได้มั้ง อะ ๆ อย่าได้คิดไม่ใส่นะครับคุณผู้หญิงสงสารน้องสาวคุณเถิดครับเพราะอะไรนั้นลองไปถามนักปั่นผู้หญิงนะครับผมตอบไม่ได้จริง ๆ )อีกอย่างนะร้อยละ 80 นักปั่นจักรยานทั้งชายและหญิง ไม่ใส่กางเกงในกันนะครับขอบอก.....คุณ ๆ ไม่สงสารไข่คุณหรือขนาดกางเกงเขาออกแบบมารองด้วยฟองน้ำหรือเจลนุ่มแล้ว มันยังมีอาการปวดอยู่เลย ต้องขยับบ่อย ๆ พอแก้ไขได้ การปวดไข่เจ็บก้นเป็นเรื่องธรรมดาของการปั่น แต่พอนานไปมันก็ชาชินเอง ก็ใจมันรักครับอีกอย่างมักจะเห็นข่าวหรือบทความบ่อย ๆ ว่านักปั่นมักจะเป็นผู้เสื่อมทางสมรรถภาพทางเพศ อันนี้ผมว่าไม่ค่อยจริง(ขอเถียงครับตั้งแต่ปั่นมานี่..ผิดกลิ่นเป็นไม่ได้เลย จริง ๆ ไม่ได้โม้..พูดให้ฟังดูดีผมรักเดียวใจเดียวครับ แต่...อย่าเผลอ....) ผมเห็นข่าวอยู่บ่อยๆว่านักปั่น สุขภาพดีแข็งแรงหลายคนแอบมีหลายบ้านจนมีเรื่องมีราว ตามคลิปต่าง ๆ ที่เคยดู วางใจเถอะครับถ้าท่านรักการปั่นจริงๆ ก็หาอานหรือเบาะจักรยานที่เหมาะสมที่เขาออกแบบมาดีที่สุด(น่าน..เห็นไหมเสียเงินเพิ่มอีกละ) รับรองสิ่งที่ยาน ๆ ก็จะกลับตึงขึ้นมาทันที แต่...ใครหูยานเพราะโดนแม่ไอ้แดงดึงผมไม่รู้ด้วยครับ... อีกอย่างการเสียเงินก็คือ การไปปั่นร่วมงานต่างๆ หรืองานแข็งขัน หรืองานใจเกินร้อย ต้องมีการลงทะเบียนก็ต้องจ่ายเงินตามที่เจ้าของงานเขาจัด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัด บางครั้งก็จัดเพื่อการกุศลช่วยนั่นนี่ตามแต่เจ้าของโครงการหรือทำบุญทอดผ้าป่า ทอดกฐิน บำรุงหน่วยงานการกุศลก็ว่ากันไป ก็แล้วแต่ ก็มีราคาแต่หลักร้อยหลักพัน หรือตามแต่ความพอใจของเรา ก็อย่างที่บอกละครับสิ่งที่เราได้กลับมามันคุ้มกับเงินที่เราจ่ายไปคือ "ความสุขใจและ สุขภาพที่ดี" บางงานก็ได้เสื้อปั่นสวย ๆ เหรียญ หรือถ้วยรางวัล ที่ทรงคุณค่า เป็นสิ่งตอบแทน อาหารอร่อย ๆ มิตรภาพระหว่างนักปั่นด้วยกัน เพราะนักปั่นทุกคนถ้ามาปั่นด้วยกันมันจะกลายเป็นเพื่อนกันไปโดยอัตโนมัติ ตำแหน่งหัวโขนของทุกคนจะถอดวางหมด เป็นเพื่อนปั่นไปด้วยกันอย่างมีความสุข บางครั้งบางคนยังได้ของแถมกลับด้วยด้วยก็มี จากหนุ่มโสดกลับมีคู่ซะงั้น สำหรับท่านๆ คุณ ๆ ที่ปั่นตามกระแสก็ดีครับอย่างน้อยก็ทำให้สุขภาพดีขึ้นส่วนหนึ่ง แต่ก็อย่าได้ละทิ้งการปั่นนะครับ สักวันคุณอาจกลายเป็นนักปั่นจักรยานที่ปั่นด้วยใจรักก็ได้ใครจะรู้ นอกจากตัวคุณเอง เป็นกำลังใจให้ครับ. รูปภาพโดยผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !