ใช้ชีวิตเหนื่อยมาทั้งวัน ถึงเวลากลางคืนควรต้องหลับเพราะความอ่อนเพลีย แต่กลับฝืนลืมตาดูซีรีส์ อ่านหนังสือ หรือนอนเล่นโทรศัพท์จนตี 2 ตี 3 ทั้งที่มันง่วงนะ แต่ความรู้สึก “อยากใช้ชีวิตกลางคืนให้นานที่สุด” สาเหตุเพราะช่วงเวลากลางดึกมันไม่มีใครโทรมาเรื่องงาน ไม่ต้องกังวลคอยรับปัญหาจากออฟฟิศ ไม่มีใครโทรตามหนี้ ฯลฯ ถึงตอนเช้าต้องเจอเรื่องเครียดพวกนี้อีกแล้ว ทำให้เรา ติดกลางคืน หลังเที่ยงคืนกลับเป็นช่วงเวลาสมองปลอดโปร่งที่สุด ถึงแม้ล้าแบบตาแทบหลับ แต่มันมีความสุขกว่าชีวิตกลางวัน คำถามคือ “มันอันตรายไหม” เราไปหาคำตอบกันครับไปทำความเข้าใจกับโรคนี้กันก่อน ตามข้อมูลของกรมสุขภาพจิต ได้ให้ความเห็นว่าภาวะที่เราไม่อยากลุกจากเตียงไปใช้ชีวิตข้างนอก เรียกว่า Clinomania คือสัญญาณเตือนถึงปัญหาหลายอย่างที่อาจตามมา เพราะแน่ล่ะ! การที่เรานอนพักผ่อนน้อย ไม่ใช่สิ่งดีกับสุขภาพเริ่มจากอ่อนเพลีย ความสามารถทางความคิด ตัดสินใจ น้อยกว่าการได้หลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ และยังส่งผลกับความดันโลหิต , หลอดเลือดสมอง และระบบเผาผลาญพลังงาน หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย เรียกว่าผลเสียจากการนอนน้อยมากันแบบแพ็กเกจเลยทีเดียวกลับมาที่โรคติดกลางคืน เราต้องแยกระหว่างอาการ นอนไม่หลับ กับ ไม่อยากนอน ออกจากกัน เพราะสาเหตุของการติดกลางคืนตามที่กล่าวไปข้างต้นคือไม่อยากตื่นไปเจอกับชีวิตยุ่งเหยิง แต่ถ้ารู้ว่าพรุ่งนี้คือวันหยุด “หลับแต่หัววันได้อย่างสบาย” เพราะฉะนั้นคำแนะนำจึงไม่ใช่การไล่ให้ไปนอนแต่หัววัน หรือสร้างบรรยากาศรอบกายให้น่านอน เพราะคนที่มีอาการแบบนี้ต่อให้นอนอยู่บนเตียงนุ่มในโรงแรมห้าดาวเค้าก็เลือกที่จะทำนู่นทำนี่จนถึงเช้า การ “หักดิบ” ฝืนข่มตาหลับทั้งที่ไม่อยากหลับยิ่งไม่เป็นผลดี ไม่ใช่แนวทางถูกต้องของการรักษา เพราะสมองไปสร้างความกลัวว่าตื่นมาแล้วต้องเจอเรื่องเครียด เพิ่มภาวะความกังวลทางจิตขึ้นกว่าเดิมทางแก้คือ ต้องขจัดความคิดนั้นทิ้ง เปลี่ยนความคิด ไม่สร้างความกดดันให้ตัวเอง มองชีวิตในด้านบวกให้เจอ เช่นเดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะได้กินอาหารที่ชอบ , พรุ่งนี้จะมีซีรีส์ตอนใหม่น่าดู หรือจะได้พบกับเพื่อนรัก “หาสิ่งจูงใจให้เราอยากถึงวันพรุ่งนี้เร็ว ๆ” รวมถึงการฝึกจิตใจเช่นนั่งสมาธิ ยังช่วยให้ผ่อนคลายได้ เปลี่ยนจากความกลัว เป็นคำว่า เราจะสนุกกับวันพรุ่งนี้ จิตใจจะสบายขึ้น หาสิ่งดีของวันพรุ่งนี้ให้เจอ ช่วยให้เราอยากนอนหลับได้อย่างแน่นอนครับแต่หากพยายามทุกอย่างแบบสุดทางแล้วจริง ๆ อาการเครียดจนไม่อยากตื่นมาเจอเรื่องเลวร้ายยังไม่หาย การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเรื่องสุขภาพจิต คือทางเลือกที่แนะนำ ในทางสากลการพบจิตแพทย์คือเรื่องธรรมดา ไม่ใช่สิ่งน่าอาย ปัจจุบันมีช่องทางมากมายเช่น สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ของกระทรวงสาธารณสุข บริการให้คำปรึกษาเยียวยาจิตใจทุกเรื่อง มีเจ้าหน้าที่เฉพาะทางดูแล พร้อมให้คำแนะนำทางแก้อย่างถูกวิธี เพราะปัญหาทุกอย่าง “มีทางออก” มองชีวิตด้านบวกให้เจอ เชื่อว่าเราจะเอาชนะปัญหาไปได้อย่างแน่นอนครับ..อ้างอิงข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต : www.dmh.go.thโรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล : www.bangkokinternationalhospital.comโรงพยาบาลเพชรเวช : www.petcharavejhospital.comภาพประกอบโดย Pixabay vinayroffl : ภาพปก / sharuka862 : ภาพที่ 1 / StockSnap : ภาพที่ 2 / Free-Photos : ภาพที่ 3อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !