การรักษาสิวมีหลายวิธี มีหลายทางเลือก และการเลือกใช้ยาทากลุ่มเรตินอยด์ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่เป็นสิว โดยเฉพาะคนที่เป็นสิวอุดตัน ซึ่งเป็นสิวที่รักษาให้หายหรือหมดไปยากกว่าการรักษาสิวอักเสบ ยาทารักษาสิวกลุ่มเรตินอยด์ ปัจจุบันมี 2 ชนิดที่สำคัญ ได้แก่ ยาทาเตรตติโนอิน (Tretinoin) ยาทาอะแดพพาลีน(Adapalene) ยาทาทั้ง 2 ชนิดนี้ต่างกัน คือ -ยาทาเตรตติโนอิน (Tretinoin) เป็นตัวยากลุ่มเรตินอยด์รุ่นแรกๆ ที่ผลิตออกมาสามารถรักษาสิวอุดตันได้ดี แต่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงกับผู้ใช้ได้สูง โดยตัวยาจะมีกระบวนการทำงานคือช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกได้ดี และทำให้ผิวแลดูเรียบเนียนมากขึ้นนั่นเองลดหมองคล้ำ และรอยสิวได้ดี - ยาทาอะแดพพาลีน(Adapalene) เป็นยากลุ่มเรตินอยด์ เช่นกัน แต่เป็นยาทาสิวรุ่นใหม่ ถือว่าเป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก ยาทาเตรตติโนอิน (Tretinoin) กระบวนการทำงานคือช่วยในการผลัดเซลล์ผิว แต่ผลข้างเคียงน้อยกว่า ยาทาสิว Vitara Acnetin-A เป็นยาทาสิวเตรตติโนอิน (Tretinoin) มีส่วนผสมที่สำคัญตั;เดียวคือ เตรตติโนอิน (Tretinoin) ซึ่งเป็นสารกลุ่มอนุพันธ์กรดวิตามินเอ ออกฤทธิ์เร่'การผลัดเซลล์ผิว โดยเฉพาะเซลล์ผิวบริเวณรูขุมขน ทำให้สิวหลุดออก ช่วยลดสิวเกิดใหม่ และลดความมันบนผิวหน้าได้ดี นอกจากนี้ยังลดการอักเสบของผิวได้ด้วยน้า ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์รักษาสิว Vitara Acnetin-A ที่จำหน่ายในท้องตลาดตามร้านขายยาทั่วไป มีความเข้มข้นที่ 2 ขนาดด้วยกัน ได้แก่ ความเข้มข้น 0.05% และความเข้มข้น 0.25 % "ข้อควรระวังการใช้ยา" ไม่ควรใช้ยาทาสิวตัวนี้ร่วมกัสารบางตัวอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง คือ ได้แก่ Benzac, กรด Salicylic เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้มาก เนื่องจากสารแต่ละตัวมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิวได้ดี อาจทำให้ผิวบอบบาง แพ้ง่าย มีความไวต่อแสง อ่อนแอต่อมลภาวะต่างๆ วิธีการใช้ยา Vitara Acnetin-A สำหรับผู้ที่เริ่มใช้ ไม่เคยใช้มาก่อน แนะนำให้เริ่มใช้จากความเข้มข้นน้อยก่อนน้า และทายาบริเวณที่เป็นสิวบางๆ เฉพาะกลางคืน ก่อนนอนเท่านั้น ทาสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ต่อมาเมื่อผิวเริ่มปรับตัวเข้ากับตัวยาได้แล้วค่อยปรับความถี่การใช้ยาขึ้นอาจเพิ่มเป็นใช้ทุกวัน วันละครั้ง แล้วค่อยเพิ่มขนาดความเข้มข้นของตัวยาต่อไป ในส่วนตัวเป็นทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตันเช่นกัน และสังเกตเห็นว่า เมื่อรักษาสิวอักเสบหายแล้ว แต่สิวอุดตันไม่หาย และสิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบ วนอยู่แบบนี้ ฉะนั้นจึงเลือกใช้ยาทาสิว มารักษาสิวอุดตัน เหตุผลในการเลือก คือหาง่าย ราคาไม่แพง เราเริ่มใช้จากความเข้มข้น 0.025% และใช้ทุกวัน วันละครั้ง ก่อนนอน หลังทายาเราปิดไฟนอนเลย กลัวแสงซะงั้น หลังใช้วันแรก บอกเลย ผิวบริเวณมุมปากและจมูกลอกจ้า เลี่ยงใช้บริเวณนั้นไปก่อน แต่ส่วนอื่นยังใช้อยู่น้า อยากหายๆ หลังใช้ 2 วัน พบว่าสิวเริ่มเห่อ และหลุดไปเอง ใช้ไป 1 - 2 สัปดาห์ สิวเราเริ่มลดลง แล้วเราก็เปลี่ยนไปใช้ยาที่เข้มข้นขึ้น คือ 0.05% หลังจากใช้ไป 2 หลอด บอกเลยผิวปกติมากจ้า แต่เราเลี่ยงจะทาบริเวณรอบปาก และร่องจมูกน้า ส่วนตอนเช้า โปะครีมกันแดดจ้า ไม่ใช่ทา ระหว่างวันยังทาครีมกันแดดซ้ำอีกน้า ในส่วนตัว 1 เดือน หลังใช้สิวเกลี้ยงจ้าาา แต่ใช้ต่อเพื่อลดรอยสิวนะ อันนี้รักษายากกว่าสิวขึ้นไปอีก โดยเฉพาะรอยแดงจากสิว ใครที่รักษาสิวด้วยวิธีอื่นไม่หาย โดยเฉพาะสิวอุดตัน เราแนะนำตัวนี้เลยนะจ๊ะ เราซื้อมาหลอดละ 70 - 80 บาท 1 หลอดใช้ได้ 2 เดือน โดยประมาณ การใช้ยาทา รักษาสิว อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ได้แก่ ผิวแห้ง แสบ แดง คัน ลอก และไวต่อแสงแดด ฉะนั้นตอนกลางวันควรทาครีมกันแดด หรือพยายามไม่ออกไปอยู่กลางแจ้งเป๋นเวลานานๆ เนื่องจากผิวบอบบางไวต่อแสง อาจทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ ตามมาได้ ในระยะยาว แต่เมื่อเกิดผลข้างเคียงควรลดปริมาณการใช้ยา และลดความถี่ในการใช้ เช่น เคยใช้เท่าเม็ดถั่วเขียวแล้วเกิดผลข้างเคียงก็ให้ลดขนาดลงอีก เคยใช้ทุกวัน ก็อาจเว้นเป็นการใช้วันเว้นวัน และแนะนำให้ทาโลชั่นช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเยอะๆหน่อยน้า เพื่อลดการระคายเคืองจากการใช้ยาทารักษาสิวจ้า ข้อสังเกต การใช้ยารักษาสิว ช่วงแรกสิวอาจเห่อ แต่เมื่อใช้ต่อเนื่อง ผิวจะค่อยๆดีขึ้น สิวจะลดลง โดยส่วนใหญ่เห็นผลภายใน 2-3 เดือน หลังใช้ แต่ถ้าใช้ไปแล้ว 3 เดือน สิวเห่อไม่หาย ให้หยุดใช้ยาทันที "ทริคเล็กๆ" ถ้าใช้แล้วสิวหาย ควรใช้ยาทาสิวต่ออีกระยะ เพื่อเป็นการตัดวงจรสิวนะจ๊ะ และระหว่างทายารักษาสิวอุดตัน แล้วเกิดมีสิวอักเสบร่วม แนะนำให้ใช้ยาหรือสกินแคร์แต้มสิวอักเสบช่วยได้น้าา โดยแต้มเฉพาะบริเวณสิวอักเสบจ้า จะทำให้สิวอักเสบแห้งเร็วขึ้นนะเออ เครดิตเทมเพลตตกแต่งภาพหน้าปกโดย goicha จาก canva /ภาพที่ 1,ภาพที่ 2,ภาพที่ 3,ภาพที่ 4 โดย Bwเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !