เมื่อมีบาดแผลเกิดขึ้นในร่างกายของเรา หลายคนจะเริ่มวิตกกังวลและสงสัยว่า แผลจะหายตอนไหน จะทำยังไงดีให้แผลหายเร็ว ต้องกินอะไรบ้าง ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนจะขอเล่าว่าเวลาที่ผู้เขียนมีบาดแผลนั้น ถ้าอยากให้แผลหายเร็วต้องส่งเสริมสุขภาพเรื่องอาหารของเราอย่างไรบ้างที่ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง เพราะผู้เขียนรู้มาว่าแผลหายได้เร็วขึ้นถ้าเรากินอาหารที่เหมาะสมซึ่งปกติแล้วหลังจากเกิดบาดแผลขึ้นร่างกายจะเริ่มมีขบวนการหายของแผลทันทีตั้งแต่วินาทีแรก โดยจะพบว่าหลอดเลือดฝอยในบริเวณที่มีบาดแผลจะหดตัวเพื่อทำให้เลือดหยุดไหล ระยะถัดจากนั้นจะเข้าสู่ระยะของการอักเสบ สังเกตได้ง่ายๆ คือ แผลจะเริ่มมีอาการปวด บวม แดงและร้อน และในวันที่ 5-20 จะเป็นระยะของการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ โดยแผลจะเริ่มมีการสร้างเนื้อเยื่อใหม่เพื่อไปปกคลุมบาดแผล หากเรามองด้วยตาเปล่าจะเห็นว่าบริเวณแผลเริ่มมีสีแดงสดและคล้ายๆ มีเนื้อเยื่อใหม่เกิดขึ้น ซึ่งช่วงนี้เองที่เป็นช่วงที่ร่างกายต้องการสารอาหารที่เป็นประโยชน์เพื่อส่งเสริมการหายของแผลให้เร็วขึ้น ส่วนหลังจากวันที่ 20 เป็นต้นไป จะเป็นระยะสุดท้ายของขบวนการหายของแผล ซึ่งในระยะนี้ยังคงมีการสร้างคอลลาเจนเพื่อทำให้บาดแผลแข็งแรงขึ้น 80-85 เปอร์เซ็นของเนื้อเยื่อเดิม จึงยังมีความจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับอาหารการกินที่จะช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนค่ะ ซึ่งผู้เขียนจะกินอาหารที่มีสารอาหารดังต่อไปนี้ให้มากที่สุดในช่วงที่มีบาดแผล1. โปรตีน สำหรับผู้เขียนแล้วจะเลือกเพิ่มการกินอาหารที่ปรุงจากไข่เพิ่มมากขึ้น เพราะไข่หาง่าย ปรุงประกอบง่ายอีกทั้งไข่ก็มีราคาถูก เพิ่มเมนูอาหารที่ประกอบจากเนื้อสัตว์ ถั่วต่างๆ ตามที่จะหาได้ และดื่มนมเพิ่มค่ะ จากเมนูที่ผู้เขียนกินไปนั้นจะไปทำให้ร่างกายของผู้เขียนได้รับ▪️กรดอะมิโน มีจะส่วนช่วยในการสร้างหลอดเลือดใหม่ การสังเคราะห์คอลลาเจน และยังทำหน้าที่ในระบบภูมิต้านทานโรค▪️อาร์จีนีน ทำให้เนื้อเยื่อมีความแข็งแรง และยังเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์คอลลาเจนอีกด้วย อีกทั้งยังทำหน้าที่ในระบบภูมิต้านทานโรคและกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว▪️กลูตามีน เป็นเซลล์แหล่งพลังงานที่ส่งเสริมให้เกิดกระบวนการหายของแผลและช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ใหม่ที่ดี จึงทำให้แผลหายเร็ว2. คาร์โบไฮเดรตและไขมัน ผู้เขียนจะเลือกทานข้าวเป็นหลักค่ะส่วนมากจะกินข้าวสวย และมีในบางครั้งที่กินขนมปัง เพิ่มการกินอาหารจำพวกผัดผักใบเขียวต่างๆ โดยใช้น้ำมันถั่วเหลือง เพิ่มการกินขนมอบที่มีส่วนประกอบของเนยสด และขนมแบบไทยๆ ที่มีส่วนประกอบของกะทิกับมะพร้าวค่ะ โดยแหล่งอาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรตและไขมันนี้จะช่วยป้องกันการสลายตัวของโปรตีน จึงส่งเสริมทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้ดี ทำให้ลดการติดเชื้อลง สภาวะนี้จะส่งเสริมให้แผลหายได้เร็วขึ้นค่ะ3. วิตามิน ปกติผู้เขียนจะกินผักและผลไม้ที่หลากหลายในช่วงที่มีแผลเป็นหลัก ไม่เกี่ยงชนิดของผักและผลไม้ ส่วนมากผักจะเป็นผักพื้นบ้าน และผลไม้ตามฤดูกาลที่ซื้อบ่อยจะเป็นฝรั่งกิมจู และมีบ้างที่เสริมในส่วนของเครื่องดื่มที่มีวิตามินเป็นส่วนประกอบ ที่หาซื้อได้ง่ายในร้านสะดวกซื้อ เช่น เซเว่นหรือร้านค้าใกล้บ้าน เพราะผู้เขียนพบว่า▪️วิตามินซี มีส่วนช่วยสังเคราะห์คอลลาเจน ทำให้หลอดเลือดแข็งแรงขึ้น จึงต่อต้านการติดเชื้อ ▪️วิตามินเอ จะช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน ช่วยให้มีการงอกใหม่ของเซลล์และลดการติดเชื้อที่แผลลง▪️วิตามินอี ทำหน้าที่ต้านสารอนุมูลอิสระในร่างกาย จึงป้องกันสารที่จะมายับยั้งการหายของแผลได้ 4. แร่ธาตุ ผู้เขียนจะเพิ่มการกินถั่วและไข่มากขึ้นค่ะ กินปลาทะเล กินผลไม้ที่หลากหลายมากขึ้น เพราะในผลไม้มีแร่ธาตุหลายๆ อย่างที่แตกต่างกันไปในแต่ละชนิดของผลไม้ เครื่องดื่มบางอย่างที่มีองค์ประกอบของแร่ธาตุสังกะสีและทองแดง เช่น เปปทีนพลัส โดย▪️สังกะสี มีส่วนสำคัญต่อการงอกของเซลล์ใหม่ การขาดสังกะสีมีผลทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานผิดปกติ จึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และทำให้แผลหายยากขึ้น▪️ทองแดง เป็นแร่ธาตุที่ไปเสริมฤทธิ์กับวิตามินซี จึลช่วยทำให้มีการสร้างคอลลาเจนได้ดีขึ้น สร้างความแข็งแรงให้กับแผล จึงทำให้แผลกายได้เร็วขึ้นค่ะจากลักษณะกิจกรรมในชีวิตประจำวันของผู้เขียนนั้น เหมาะสมที่จะได้รับพลังงานประมาณ 1,800 กิโลแคลอรีต่อวัน โดยในช่วงที่เป็นแผลผู้เขียนจะจัดอาหารให้ตัวเองตามนี้ค่ะ▶️ โปรตีน จากเนื้อสัตว์ ถั่วและไข่ จำนวน 9 ช้อนโต๊ะ▶️ คาร์โบไฮเดรต จากข้าวและแป้ง จำนวน 8 ทัพพี▶️ ผักสุก จำนวน 6 ถ้วยตวง▶️ ผลไม้ จำนวน 4 จานรองกาแฟ▶️ แหล่งอาหารที่มีไขมัน จำนวน 1 ช้อนชา▶️ นมสด จำนวน 2 กล่องในระหว่างที่มีแผลนั้นผู้เขียนยังคงกินอาหารให้ครบหลัก 5 หมู่เหมือนเดิมค่ะ แต่เน้นการปรุงสุกและสะอาด บางอย่างก็กะปริมาณเอาค่ะ ไม่ได้ชั่งตวงเป๊ะ เพียงแต่ทำให้แน่ใจว่าอาหารที่กินเข้าไปนั้นสนับสนุนให้แผลหายเร็วขึ้นเท่านั้น โดยจะเริ่มดูแลเรื่องอาหารตั้งแต่วันแรกเลยค่ะโดยไม่ได้รอในวันที่ 5 เพราะผู้เขียนมองว่าอาหารที่ผู้เขียนกินเข้าไปก็จะไปมีประโยชน์ในส่วนอื่นๆ ของร่างกายค่ะการเพิ่มในส่วนของเครื่องดื่มที่เสริมวิตามินและแร่ธาตุนั้นทำได้ง่ายค่ะ และการเพิ่มอาหารว่างเข้ามาในระหว่างวันทำให้ร่างกายของผู้เขียนได้รับสารอาหารที่ไปส่งเสริมให้ขบวนการหายของแผลเกิดขึ้นได้ดี เพราะปกติผู้เขียนจะตัดอาหารว่างออกไปในระหว่างวัน แต่พอมีบาดแผลอาหารว่างจะช่วยได้มากค่ะ เพราะจะไปทำให้เราได้รับสารอาหารต่างๆ ที่อาจจะขาดไปจากอาหารมื้อหลักซึ่งหลังจากที่ผู้เขียนได้จัดเรื่องอาหารในระหว่างที่มีบาดแผลแบบละเอียดมากขึ้นจากในชีวิตประจำวันปกติ ก็พบว่าแผลหายเร็วขึ้นค่ะ สำหรับใครที่กำลังต้องการดูแลแผลให้หายเร็วขึ้นสามารถนำข้อมูลข้างต้นไปประยุกต์ใช้ได้ค่ะ เพราะผู้เขียนได้ลองนำไปใช้แล้วและเห็นผลลัพธ์ว่าแผลหายเร็วขึ้นค่ะข้อมูลอ้างอิงที่เกี่ยวข้อง:▪️ขบวนการหายของแผล▪️Dietary Information to Promote Wound Healing▪️กาญจนา รุ่งแสงจันทร์. การพยาบาลผู้ป่วยที่มีแผลรูทะลุระหว่างทางเดินอาหารกับผิวหนังภายหลังผ่าตัด ใน: ศิริอร สินธุ, บรรณาธิการ. แผลเรื้อรัง (Chronic wound). กรุงเทพ: 2564 หน้า 68-72.เครดิตภาพปกโดยผู้เขียน จาก takedahrs/pixabay ออกแบบจาก canvaเครดิตภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน จาก ภาพที่ 1: shutterbug75/pixabay, ภาพที่ 2: sunnysun0804/pixabay, ภาพที่ 3: suntung57/pixabay, ภาพที่ 4: Couleur/pixabay, เครดิตหนังสือ: ภาพที่ 5 จาก ศิริอร สินธุ/สภาการพยาบาลบทความอื่นที่น่าสนใจ▪️▶️ เพาะถั่วงอกในขวด ได้โปรตีนจากถั่ว ทำอาหารง่ายๆ ในบ้าน▪️▶️ เปปทีนพลัส เครื่องดื่มมีสังกะสี วิตามินเอ▪️▶️ เพอร์ร่า เครื่องดื่มวิตามินวอเตอร์ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !