แตงโม ประโยชน์ ต่อสุขภาพ คนเป็นเบาหวานกินได้ไหม? แตงโม สำหรับผู้เขียนแล้วเป็นผลไม้ที่หาทานได้ง่าย ราคาไม่แพงและดูเหมือนว่ามีแตงโมตลอดทั้งปีให้เลือกซื้อที่ตลาด แตงโม ผลไม้ที่มีเนื้อสีแดง รสหวานฉ่ำนั้น มากกว่า 90% คือ น้ำ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เวลาเรากระหายน้ำมากแล้วได้กินแตงโมชิ้นใหญ่ๆ เข้าไป จึงทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที นั่นเป็นเพราะน้ำในแตงโมนั่นเองที่ไปชดเชยน้ำการสูญเสียน้ำในร่างกายของเรา นอกจากนี้มีสารที่สำคัญในแตงโมอีก 2 ชนิด ที่จะพูดถึงในบทความนี้ค่ะ สารตัวแรกในแตงโม คือ สารที่เรียกว่า ไลโคปีน (lycopene) เป็นสารสำคัญที่มีอยู่ในรงควัตถุในการสังเคราะห์แสง (photosynthesis) กลุ่มสีแดง ที่เรียกว่า แคโรทีนอยด์ (carotenoid) ไลโคปีน คือ สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของเซลล์ที่จะพัฒนากลายเป็นเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก การได้ไลโคปีนในปริมาณสูงเข้าไปในร่างกาย มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ไลโคปีน ยังมีส่วนช่วยต้านการอักเสบที่เกิดขึ้นภายในร่างกายด้วย สารตัวที่สองที่สำคัญ คือ ซิทรูลีน (citrulline) ซิทรูลีน เป็นกรดอะมิโนที่พบในแตงโม ซึ่งมีบทบาทสำคัญมากในช่วงที่เราออกกำลังกาย ซิทรูลีน ทำให้การไหลเวียนเลือดทำได้ดีขึ้น ซิทรูลีน ยังเป็นสารตั้งต้นที่ส่งเสริมให้กรดอะมิโนชนิดอื่นๆ ทำงานได้ตามปกติของกระบวนการทางชีวเคมีในร่างกาย จากคุณสมบัติที่ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น จึงทำให้ซิทรูลีน ช่วยลดความเมื่อยล้าลงหลังจากออกกำลังกายด้วยเช่นเดียวกันคนเป็นเบาหวานกินแตงโมได้ไหม? แตงโมปริมาณ 1 ถ้วย จะมีน้ำตาลประมาณ 9 กรัม หรือ ประมาณ 2 ช้อนชา ถือว่ามีปริมาณของน้ำตาลมาก แต่คนเป็นเบาหวานยังสามารถกินแตงโมได้ แต่จะต้องจำกัดปริมาณทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของปริมาณน้ำตาลในกระแสเลือดด้วยว่ามากน้อยแค่ไหน เช่น คนเป็นเบาหวานทั่วๆ ไป ไม่ควรกินแตงโมเกิน 5 ชิ้นขนาดพอคำ หากพื้นฐานปริมาณน้ำตาลในกระแสเลือดมาก ปริมาณของแตงโมที่กินได้ก็จะต้องลดลงไปอีก แตงโมในแต่ละลูกก็มีความหวานมากน้อยต่างกัน ถ้าหวานมากก็จะต้องกินให้น้อยชิ้น ทั้งนี้คนปกติก็เช่นเดียวกันควรจำกัดปริมาณของแตงโมที่ต้องกิน เพราะหากกินในปริมาณมากเกินไปแทนที่จะได้ประโยชน์ก็จะกลายเป็นโทษไปได้ แตงโม ยังมีแร่ธาตุและวิตามินอื่นๆ อีกหลายชนิด ดังนั้นเลือกกินแตงโมในปริมาณที่เหมาะสมก็จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์ที่มีอยู่ในแตงโม และส่งเสริมสุขภาพให้อยู่ในภาวะปกติภาพประกอบบทความ:โดยผู้เขียนอัปเดตสาระดี ๆ มีประโยชน์แบบนี้อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !
