วันนี้ผมจะแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักในแบบวิธีของผม โดยผมได้นำหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประยุกต์ใช้ และผลลัพท์ที่ได้นั้น ค่อนข้างน่าพอใจเป็นอย่างมาก จากการที่ตัวผมเองประสบกับปัญหาวิธีการลดน้ำหนักที่ตัวเองไม่สามารถลดน้ำหนักลงได้สักที แต่พอได้ลองใช้วิธีการนี้เข้ามาช่วยแล้ว ปรากฎว่าผมสามารถลดน้ำหนักลงได้จากน้ำหนักเดิม 65 กก. ลดลงมาเหลือเพียง 60 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 2 เดือนกว่าๆ โดยที่ตัวของผมเองนั้นไม่ต้องพึ่งอาหารเสริมหรือยาลดน้ำหนักเลย เพียงแค่ใช้วิธีการนำหลักธรรมะเข้ามาช่วยเท่านั้นเอง เอาละๆ เดี๋ยวผมจะบอกวิธีการลดน้ำหนักในแบบฉบับที่ผมได้ลองทำมาและผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมากให้กับคุณผู้อ่านได้รับทราบกันเลยแล้วกันครับ วิธีการที่ผมจะนำเสนอให้คุณผู้อ่านนำไปลองใช้ดูในวันนี้นั้น ผมได้ใช้หลักธรรมคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเข้ามาประกอบร่วมด้วย โดยวิธีการและคำสอนที่ใช้มีดังนี้ผมใช้หลักธรรมคำสอนที่มีชื่อว่า " อิทธิบาท 4 " โดยเป็นธรรมที่หมายถึง หนทางที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ โดยประกอบไปด้วย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา หลักธรรมนี้เป็นหลักธรรมที่สำคัญที่มักใช้ในการทำงานหรือทำสิ่งต่างๆเพื่อให้ประสบความสำเร็จนั่นเอง โดยผมจะอธิบายเนื้อหาและวิธีการใช้หลักธรรมนี้ควบคู่ไปกับการลดน้ำหนักให้คุณผู้อ่านได้เข้าใจแล้วลองนำไปปฏิบัติกันดูครับ 1. ฉันทะ คือความพอใจ ความพอใจในที่นี้คือเราพอใจที่จะทำการลดน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไป พอใจกับการที่น้ำหนักลดลงทีละเล็กละน้อย 2. วิริยะ คือความเพียรพยายาม ความอดทน เราเพียรพยายามและอดทนต่อสิ่งเร้าต่างๆ อาทิเช่น การหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล แป้ง เป็นส่วนประกอบ หรืออาหารที่ใช้น้ำมันเป็นกรรมวิธีในการทำ ซึ่งหากเราสามารถอดทนและปฏิบัติในข้อนี้ได้แล้วละก็ เราจะสามารถลดน้ำหนักได้ดีอย่างแน่นอน 3. จิตตะ คือความเอาใจใส่ มีจิตใจที่แน่วแน่ เราต้องจริงจัง มีความตั้งใจจริง ตั้งเป้าหมายเอาไว้ ว่าภายในระยะเวลาเท่าใดเราจะต้องลดน้ำหนักให้ได้เท่าไหร่ ในข้อนี้คุณผู้อ่านต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ เป้าหมายของคุณผู้อ่านคืออะไร เช่น การเป็นที่ยอมรับของคนรอบข้างหรือคนรัก เพื่อไม่ให้ตนเองหรือคนรักของคุณผู้อ่านรู้สึกไม่ดีกับตัวของคุณผู้อ่านเองว่าอ้วนเกินไป หรือมีรูปร่างที่ไม่ดีเอาเสียเลย หรือเพื่อที่คุณผู้อ่านเองจะได้ใส่เสื้อผ้าสวยๆ ใส่แล้วดูดีขึ้นกว่าก่อน แต่ที่แน่ๆคุณผู้อ่านได้สุขภาพที่ดีมาอย่างแน่นอน 4. วิมังสา คือหมั่นใช้ปัญญาและสติไตร่ตรอง ข้อนี้เรียกได้ว่าเป็นข้อที่พึงจะต้องมีเลยก็ว่าได้ครับ เพราะการมีสติหมายถึงการระลึกได้ในทุกๆเรื่อง อย่างการลดน้ำหนักหากคุณผู้อ่านมีสติ ก็จะสามารถควบคุมตัวเองได้ เช่นการเห็นอาหารที่มีสีสันน่าทานแต่เต็มไปด้วยแป้งหรือน้ำตาลที่มากเกินความจำเป็น เราก็จะสามารถระลึกได้ไม่ทานอาหารที่จะเป็นการเพิ่มน้ำหนัก หรือจะต้องตั้งใจออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอไม่ขี้เกียจ ทำๆ หยุดๆ ทุกอย่างล้วนต้องมีสติในการคิดใตร่ตรองโดยระเอียดทุกครั้ง เป็นอย่างไรบ้างครับกับประสบการณ์วิธีการลดน้ำหนักโดยใช้หลักธรรมคำสอนของศาสนาพุทธมาประยุกต์ใช้ของผมที่ได้นำมาแบ่งปันให้คุณผู้อ่านได้ลองนำไปใช้กัน ผมเองที่ได้ลองนำมาปฏิบัติแล้วพบหนทางนำไปสู่ความสำเร็จในการลดน้ำหนัก ก็อยากจะลองนำมาแบ่งปันให้คุณผู้อ่านได้นำวิธีการนี้ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ซึ่งไม่ใช่แค่วิธีการลดน้ำหนักเท่านั้น แต่สามารถน้อมนำคำสอนนี้ไปใช้ได้กับทุกๆงานหรือทุกๆเรื่องที่คุณผู้อ่านต้องเผชิญหรือต้องทำให้สำเร็จในชีวิตของผู้คุณผู้อ่านได้เลย อย่างไรก็ดีหนึ่งสิ่งที่ผมอยากจะฝากไว้ให้กับคุณผู้อ่านได้ลองนำกลับไปคิดและทบทวน นั่นก็คือ หากเราเชื่อมั่น และอดทน มีสติอยู่เสมอ เราจะสามารถทำสิ่งต่างๆ หรือสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างแน่นอน ขอมีสติแล้วปัญญาก็จะเกิด สำหรับวันนี้ขอขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่านมากๆครับที่ได้เสียสละเวลาเข้ามาอ่านบทความนี้ของผม ขอบคุณครับขอขอบคุณรูปภาพประกอบรูปหน้าปก โดย Andrea Piacquadio จาก Pexels.รูปที่1 โดย NEOSiAM 2021 จาก Pexels.รูปที่2 โดย Engin Akyurt จาก Pexels.รูปที่3 โดย Andrea Piacquadio จาก Pexels.รูปที่4 โดย cottonbro จาก Pexels. เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !