ถ้าพูดถึง รอยสัก ก็เปรียบเสมือนการซื้องานศิลปะที่มีราคาแพงและต้องการการดูแลเอาใจใส่ เพื่อให้คุ้มค่าต่อเงินที่เสียไป เพื่อคุ้มค่ากับฝีมือ ราคา และที่สำคัญคือความเจ็บปวด เราจึงจำเป็นที่ต้องมีการศึกษา การดูแลรอยสักอย่างถูกวิธี ซึ่งสำคัญพอๆกับการเลือกลายสักและร้านสัก มาเริ่มกันเลย ภาพถ่ายโดย Isabella Mendes จาก Pexels 1.ฟังคำแนะนำจากช่างสัก หากคุณเลือกช่างที่มีชื่อเสียงหรือชั่วโมงบินสูง ช่างจะให้คำแนะนำอย่างละเอียด เพราะนั่นหมายความช่างมีประสบการณ์ ผ่านการลองผิดลองถูกมาเยอะ จนเจอวิธีที่ใช่ ทั้งนี้ทั้งนั่นคุณควรทำตามอย่างเคร่งครัด สงสัยอะไรให้ถามทันที 2.การปิดแผลรอยสัก อย่าลืมว่าการสักก็คือ รอยแผลที่มีสีสันลวดลายที่เอาเข็มแทงเข้าไป ดังนั้นการดูแลรักษาความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อคุณสักเสร็จแล้ว ช่างจะทำความสะอาดแผลและบริเวณรอบ ๆ จากนั้นใช้ครีมป้องกันแบคทีเรียและปิดรอยสักด้วยที่ปิดแผล ถึงมันจะคันหรือเหนอะหนะแค่ไหน อดทนไว้ก่อนครับ เพราะการทำแบบนี้จะป้องกันรอยสักจากแบคทีเรียในอากาศซึ่งสามารถเจาะผ่านผิวที่ผ่านการสักได้ คุณจึงควรปิดแผลไว้เป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วโมงหลังจากสักเสร็จ ทำไมต้อง 4 ชั่วโมง? เพราะร่างกายมนุษย์จะเปลี่ยนสถานะของเลือดจากของเหลวเป็นสภาพหนืดใน 30 นาที - 3 ชั่วโมง หรือเรียกว่าเวลาเลือดหยุดไหล ซึ่งถ้าคุณเอาที่ปิดแผลออกก่อนเวลานั้น เลือดหรือน้ำเหลืองที่ซึมออกมาตามรอยสักจะแห้งและเป็นชั้นปกคลุมรอยสักไว้หนากว่าที่มันควรจะเป็น ซึ่งจะทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ และมีโอกาสพลาดไปแคะแกะเกาด้วย และนั่นก็หมายความว่าคุณกำลังแคะสีหมึกและเงินของคุณติดเล็บมาด้วยนั่นเอง ในความเป็นจริงแล้ว ระยะเวลาการปิดแผลสักจะแตกต่างกันไปตามขนาดและตำแหน่งของรอยสัก ร่วมกับระดับการรั่วซึมของรอยสักและชนิดของผ้าพันแผลที่ใช้ ยังไงก็ยึดเอาคำแนะนำของช่างไว้ก่อนจะดีกว่า แต่ถ้ามีอะไรผิดปกติไปให้รีบถามช่างทันทีครับ 3.ทำความสะอาดแผลสัก ควรล้างทำความสะอาดรอยสักด้วยน้ำเกลือล้างแผล 2 - 3 ครั้งต่อวันในช่วงระยะ 3 - 5 วันแรก จากนั้นลดปริมาณลงให้เหลือแค่ตอนคุณอาบน้ำเท่านั้นภาพถ่ายโดย Clem Onojeghuo จาก Pexels 4.ครีมทารอยสัก เมื่อรอยสักของคุณแห้งสนิทและผิวเริ่มรู้สึกตึง ก็ถึงเวลาทาครีมสำหรับรอยสัก ตัวครีมควรอ่อนโยนที่สุด ไม่มีสี กลิ่น น้ำหอม และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (ปรึกษาช่างสักและเล่าถึงลักษณะผิวของคุณจะดีที่สุด ช่างประสบการณ์สูงที่ต้องพบลูกค้าหลากหลายจะมีคลังยาดี ๆ เตรียมไว้แนะนำครับ) 5.หมั่นสังเกตตัวเอง ข้อสุดท้ายแต่สำคัญที่สุด ถึงคุณจะต้องรับฟังคำแนะนำของช่างสัก ก็ต้องใช้วิจารณญาณด้วยเช่นกัน หมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ หากเกิดอาการแพ้หมึกที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน หรืออาการอักเสบรุนแรง อย่ารอเวลาให้เกิดการติดเชื้อหรือโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ไม่ต้องถามช่างสักแล้วครับ คุณควรรีบพุ่งออกจากบ้านไปพบแพทย์โดยทันที นาทีนี้ควรเลือกชีวิตมาก่อนสิ่งอื่นใดครับ ภาพถ่ายโดย Kevin Bidwell จาก Pexels การเลือกร้าน เลือกช่าง เตรียมร่างกายก่อนสักว่าสำคัญแล้ว การดูแลหลังสักนั้นก็สำคัญไม่แพ้กันและเป็นอะไรที่ต้องพิถีพิถัน เพื่อให้ศิลปะบนร่างกายนี้สวยติดทนนาน(เครดิตภาพFacebook Nut StoryTattoo)