รูปภาพปกโดย Canva การปฏิบัติตัวหลังคลอดคุณแม่ลูกอ่อนควรรู้ หลังจากที่ผ่านการคลอดลูกแล้วระยะเวลาหลังจากนั้น คุณแม่ทุกคนควรรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจต้องได้รับการฟื้นฟูเพื่อจะได้มีสุขภาพร่างกายดี และจิตใจที่ดีพร้อมกับการเป็นคุณแม่ เพราะตั้งแต่ตั้งครรภ์จนมาถึงภาวะหลังจากคลอดแล้ว ร่างกายของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากหรืออาจจะไม่เปลี่ยนแปลงเลยซึ่งจะขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวเองหลังคลอดของคุณแม่ทั้งหลาย วันนี้มาดูกันว่านอกจากเลี้ยงลูกแล้ว คุณแม่ควรทำอะไรบ้างเพื่อตัวเอง และป้องกันผลเสียต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับตัวเรา (Credit : Pexels) 1. การพักผ่อนจะเปลี่ยนไปมีเวลานอนน้อยลง เพราะเด็กแรกเกิดควรทานนมทุก 2 – 3 ชั่วโมง ขณะเดียวกันช่วงเวลากลางวันเด็กทารกจะนอนหลับนาน และตื่นในช่วงกลางคืน (ตาแป๋วเลย) ทำให้คุณแม่หลายคนต้องปรับตัวบริหารจัดการเวลาพักผ่อนให้ดีค่ะ และไม่ควรอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นเกินไป หากร้อนก็เปิดพัดลมแต่ไม่เป่าไปตรงตัวอาจจะหันพัดลมไปฝาผนังแทนค่ะ สวมหมวก ถุงเท้าให้อบอุ่น เพื่อรักษาตัวเองไม่ให้เจ็บป่วยหลังคลอด รูปภาพโดย Pexels 2. การรักษาความสะอาดร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าใครที่ผ่าคลอดจะไม่สามารถอาบน้ำได้ประมาณ 7 วันในช่วงนั้นที่ไม่ได้อาบน้ำสระผมให้คุณแม่ชำระร่างกายด้วยการเช็ดตัวแทนและพยายามไม่ให้แผลถูกน้ำนะคะ สำหรับคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติตามข้อมูลแพทย์สามารถอาบน้ำสระผมได้ปกติ Thaihealth แต่ก็ยังมีความเชื่อที่ว่าไม่ควรสระผม 1 สัปดาห์ 3 วันก็มันทั้งหัว บริเวณสัมผัสลูกน้อยต้องสะอาด เช่น ลานนม เต้านม อย่าลืมล้างมือทุกครั้ง ล้างบ่อย ๆ ป้องเชื้อโรคสู่ลูกน้อย รูปภาพโดย Pexels 3.การดูแลฝีเย็บ หรือแผลผ่าคลอด ต้องดูแลให้ดีตามคำแนะนำของหมอพยาบาล เพราะถ้าไม่ทำความสะอาดให้ดีแผลจะติดเชื้อได้นะคะ อย่างเช่น หลังการเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวแล้วควรทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นทุกครั้งล้างให้สะอาดพร้อมกับซับให้แห้งจากหน้าไปหลัง และควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 3 ชั่วโมง หรือรู้สึกว่าล้นแล้วก็ควรเปลี่ยน หลังจากที่เราไม่ได้ใช้ผ้าอนามัยมาเกือบปีตอนนี้ถึงเวลาได้ใช้แล้ว เพราะน้ำคาวปลาจะถูกขับออกมาจากช่องคลอด และหายไปใน 1 สัปดาห์แรกหรืออาจจะมากกว่านั้น ลักษณะน้ำคาวปลาจะมีสีแดงสดจะจางลง อีก 1 สัปดาห์ต่อมาจะมีลักษณะเป็นสีเหลืองจนกระทั่งหมดไป รูปภาพโดย Pexels 4.อาหารการรับประทานอาหารมีประโยชน์ให้เพียงพอครบ 5 หมู่ เนื้อ นม ไข่ ผักผลไม้ เพราะสารอาหารเหล่านี้จะช่วยทำให้ลูกของคุณแม่ได้รับสารอาหารดีมีประโยชน์ และดื่มน้ำให้มาก ๆ รวมไปถึงอาหารที่มีกากใยสูง เพราะจะช่วยให้คุณแม่ขับถ่ายได้ดีค่ะ ป้องกันโรคริคสีดวงซึ่งเป็นปัญหาสำหรับคุณแม่ลูกอ่อนเลยก็ว่าได้ไม่งั้นได้รักษากันยาว รูปภาพโดย Pexels 5.การอยู่ไฟเป็นประเพณีดั้งเดิมของไทยช่วยให้ขับน้ำคาวปลาได้ดีขึ้นซึ่งสมัยนี้แบบกระโจมอบสมุนไพรหาได้ไม่ยากตามร้านค้าออนไลน์ ส่วนกระเป๋าน้ำร้อนประคบที่ท้องน้อยก็ใช้ได้แล้วแต่สะดวกหรือที่คาดเอวตามตำราหลวงก็ช่วยได้ดีอยู่เหมือนกันเป็นการประคบด้วยความร้อนให้ร่างกายของเราอบอุ่นเนื่องจากการเสียเลือดมากเลือดลมก็จะไหลเวียนดี สามารถทำหลังจากคลอดได้ 1 - 2 สัปดาห์สำหรับคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ แต่คนผ่าคลอดต้องรอสัก 1 เดือน ทำติดต่อกันตามสะดวก 1 – 4 สัปดาห์ วันละ 30 – 40 นาที เอาเป็นว่าหากใครทำได้จะดีมากเลยเพราะจะช่วยให้ผิวพรรณสวยเปล่งปลั่ง ขับน้ำคาวปลา กระตุ้นน้ำนม มดลูกเข้าอู่เร็ว (นั่งกระโจมอยู่น้ำนมมาไหลเองก็มีค่ะ) รูปภาพโดยผู้เขียน 6.เพศสัมพันธ์หลังคลอดลูกงดไปก่อนช่วงล่างฉันยังไม่พร้อมแต่คุณหมอพยาบาลให้คำแนะนำมาว่าแผลหายดีแล้วน้ำคาวปลาหมดสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของคุณแม่ซึ่งการฟื้นฟูบาดแผลฉีกขาดอยู่ที่ประมาณ 2 เดือน หลายคนกังวลเรื่องแผลอาจจะใช้เวลาเตรียมใจถึง 4 - 5 เดือน ดังนั้นควรตรวจสอบความพร้อมของตัวเองดีที่สุด ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์หากแผลเย็บยังไม่หายดี เพราะจะทำให้แผลเกิดการติดเชื้อหรือฉีกขาดได้ รูปภาพโดย Pexels 7. การตรวจหลังคลอดตามนัดของคุณหมอสำคัญนะคะ ทางโรงพยาบาลจะนัด 4 – 5 สัปดาห์หลังคลอด เป็นการติดตามสอบถามสภาพจิตใจ และร่างกายของเรา ตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกพร้อมกับให้คำแนะนำต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ดีมากเลย หลังคลอดหากพบความผิดปกติก็สามารถไปโรงพยาบาลก่อนนัดได้ค่ะ เพื่อปรึกษาเรื่องความผิดปกติต่าง ๆ รูปภาพโดย Pexels บทความนี้เป็นการรวมความรู้เรื่องการปฏิบัติตัวหลังคลอดหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่คุณแม่ลูกอ่อนทุกท่านนะคะ เพราะบางคนไม่เคยทราบมาก่อนว่าควรปฏิบัติอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นแนวทางประโยชน์ให้กับคุณแม่ที่กำลังใกล้คลอดให้เตรียมตัวเตรียมใจรับมือฟื้นฟูดูแลรักษาตัวเอง หลังคลอดฉันต้องทำอย่างไรบ้างบทความนี้ตอบคุณได้