ใครจะไปรู้ว่าแท้จริงแล้ว ช็อคโกแลตถูกค้นพบมากว่าสองพันปีตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ แรกเริ่มเดิมที ช็อกโกแลตเป็นผลผลิตจากต้นโกโก้ (Cocoa) ซึ่งพบมากได้ในอเมริกาใต้ ชนชาติแรกที่เริ่มรู้จักทำช็อคโกแลตคือ ชาวมายา(Maya)และแอซแทค (Aztec) ที่นำเมล็ดคาเคามาบดและผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ได้เป็นเครื่องดื่มที่มีรสขมเฝื่อน ภายหลังช็อคโกแลตได้แพร่หลายเข้ามายังยุโรป โดยชาวสเปนที่เข้ายึดครองอเมริกาใต้ และได้นำเมล็ดคาเคาไปยังยุโรป ดัดเเปลง เติมความหวานลงไป จนเป็นที่นิยมมายังปัจจุบัน ในปัจจุบันเราเห็นได้ว่า ช็อคโกแลตถูกดัดแปลงมาในหลายรูปแบบ ทั้งในรูปแท่ง เครื่องดื่ม ลูกอม หรือแม้แต่ผงที่สามารถชงดื่มได้เลย แต่ในทางสุขภาพ ช็อคโกแลตดัดแปลงมีส่วนผสมของน้ำตาลหรือไขมันสูง ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว คนหลายๆคนได้รับความคิดที่ว่าช็อคโกแลตกินแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ กินเยอะอาจะอ้วนได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ช็อคโกแลตอาจะมีประโยชน์ได้หากเรารับประทานในปริมาณที่เหมาะสมและขึ้นอยู่กับชนิดของช็อคโกแล ส่วนช็อกโกแลตที่ดีต่อสุขภาพ ควรจะดูที่เปอร์เซนโกโก้ ยิ่งสูงยิ่งดี เช่น 72% หรือ 85% กำลังดีมากสำหรับคนแรกเริ่มกินช็อกโกแลตสายดาร์ก อาจจะขมในคำแรกแต่เมื่อละลายในปากจะกลายเป็นความหวานติดลิ้น ซึ่งดีต่อสุขภาพมากกว่าช็อกโกแลตที่ผสมนมหรือโอรีโอ้ ที่มีขายในท้องตลาด นี่คือเหตุผล 5 ข้อที่เราควรเปลี่ยนนิิสัยการกินช็อกโกแลตหวานๆ เป็นดาร์กช็อกโกแลตแบบเฮลตี้ ในปริมาณที่เหมาะสม อุดมไปด้วยสารอาหาร ถ้าเราเลือกซื้อดาร์กช็อคโกแลต 75-85% คุณภาพดีหน่อย จะพบว่าสารอาหารต่อ 100 กรัมอุดมไปด้วยไฟเบอร์ และแร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก แม็กนีเซียม สังกะสี รวมไปถึงไขมันอิ่มตัว บางชนิดอาจมีคาเฟอีนในปริมาณเล็กน้อยที่ทำให้ตื่นตัวในยามบ่ายของวัน 2. แหล่งแอนตีออกซิเดนท์ชั้นดี จากงานวิจัยหลายชิ้น ได้ระบุว่า ดาร์กช็อกโกแลตมีแอนตี้ออกซิแดนท์ หรือสารต้นอนุมูลอิสระ เทียบเท่ากับการดื่มไวน์แดง ผักผลไม้หรือพืชจำพวกเบอร์รี่ต่างๆ ซึ่งส่งผลในเรื่องของผิวหนังและรังสี UV จากแสงแดด ทำให้ยามแก่ผิวพรรณเราจะยังแข็งแรง สามารถต่อสู้กับมลภาวะ และแสงแดดอันร้อนแรงในแต่ละวันได้อย่างไม่กลัวผิวเสีย 3. ช่วยในเรื่องความจำดีขึ้น ดาร์ดช็อคโกแลตมีสารฟลาโวนอยด์ ( flavonoid) และคาเฟอีน ( Caffeine ) ที่ทำให้เกิดความกระตือรือร้น กระตุ้นสมอง ส่งผลให้สมองทำงานได้ดีขึ้น ทั้งยังมีงานวิจัยสนับสนุนว่า ผู้ที่กินดาร์กช็อคโกแลตสามารถจดจำได้ดีกว่าคนปกติ เนื่องจากสารที่ไปกระตุ้นสมองช่วยในเรื่องการจดจำ และสมองทำงานำได้ดีขึ้น 4. ลดอาการซึมเศร้า ( Depression ) ใครที่รู้ตัวว่าซึมเศร้า เหงา หว้าเหว่ ควรจะกินดาร์กช็อคโกแลตเป็นประจำเนื่องจากอุดมไปด้วยสารซีโรโทนิน และโดปามีนที่มีผลต่ออารมณ์และพฤติกรรมการกิน การนอน ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น งานวิจัยสนับสนุนให้ คนปกติกินดาร์กช็อกโกแลตทุกวันในปริมาณ 40 กรัม จะทำให้ระบบฮอร์โมนและความเครียดลดลงได้ถึง 10 เปอร์เซน ใครที่อยู่ในช่วงสอบ ความเครียดสะสม แนะนำให้พกช็อคโกแลตชิ้นเล็กๆ ในกระเป๋า เพื่อลดอาการตึงเครียด ก่อนจะพัฒนาไปเป็นซึมเศร้าในระยะยาว 5. ช่วยในลดน้ำหนัก และคอเลสเตอรอล สาวๆ ที่กำลังมุ่งมั่นลดน้ำหนัก อาจจะคิดว่า ช็อคโกแลตสักชิ้นอาจจะทำให้น้ำหนักคงพุ่งพรวด แต่ความเป็นจริงแล้ว การได้ลิ้มรสชาดชิ้นเล็กๆ ของดาร์กช็อกโกแลตจะทำให้เราไม่โหยของหวานมากและกระตุ้นในร่างกายอยากอาหารน้อยลงอีกด้วยดีกว่าการหักดิบโดยสิ้นเชิง มากกว่านั้น จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองดีขึ้น ไม่ง่วงซึมในยามบ่าย อย่างไรก็แล้วแต่ดาร์กช็อคโกแลตที่จะรับประทานควรอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ พอควร มิเช่นนั้นประโยชน์ที่ว่ามา อาจจะกลับกลายเป็นโทษเสียแทน ( ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก pixabay.com )