บอกได้เลยว่า ตาปลา และหูด เป็นปัญหากวนใจของสาว ๆ และลดความมั่นใจ ทำให้สูญเสียบุคลิกภาพ และความสวยงามของเราไปได้เลย เพราะฉะนั้นวันนี้จะมาแบ่งปันวิธีจัดการตาปลา และหูดแบบวิธีธรรมชาติกัน สำหรับคนที่มีตุ่มขึ้นตามใบหน้า เท้า ตามมือ ง่ามนิ้ว ซึ่งอาจจะเป็นโรคตาปลา ก็คือการที่ผิวหนังหนาขึ้นและแข็งภาพโดย Hans Braxmeier จาก Pixabay เนื่องจากแรงเสียดสีและแรงกด ตำแหน่งที่พบบ่อยได้แก่บริเวณฝ่าเท้าและนิ้วเท้า เนื่องจากการที่ใส่รองเท้าคับแน่น การกดทับและการที่ผิวหนังบริเวณเท้าแห้ง ขาดความชุ่มชื้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เกิดโรคนี้ หรืออาจจะเป็นหูดเกิดจากเชื้อไวรัสชนิด HPV เมื่อเชื้อไวรัสแทรกซึมเข้าสู่ใต้ชั้นเซลล์ผิวหนัง ก็จะเกิดการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว กลายเป็นหูดงอกออกมา ลองสำรวจดูว่าคุณมีตุ่มแบบนี้ขึ้นหรือเปล่า ถ้ามีวันนี้เรามีวิธีการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ แบบค่อยเป็นค่อยไปให้ตุ่มหายโดยไม่เจ็บกดเครดิตภาพจาก brgfx - www.freepik.comเตรียมกระเทียมตำหรือสับ 1 ช้อนชา น้ำส้มสายชู 1-2 ช้อนชา คนส่วนผสมให้เข้ากันและจัดเก็บใส่ตลับ ให้ง่ายต่อการใช้งานภาพโดย Kampong (ผู้เขียน)เริ่มจากทำความสะอาดบริเวณตุ่มที่เป็นก่อน ถ้าผิวหนังบริเวณนั้นค่อนข้างบาง หรือกลัวผิวระคายเคือง ให้เอาวาสลีนทารอบผิวป้องกันไว้ นำสำลีจุ่มน้ำส้มสายชูที่ผสมกระเทียม เช็ดบริเวณที่เกิดตุ่ม และนำสำลีชุบน้ำอีกครั้งแปะไว้ และนำพลาสเตอร์มาปิดทับทิ้งไว้ทั้งคืน และแกะออกในตอนเช้า หรือในบางคนอาจจะแปะตอนกลางวันและเปิดให้ผิวได้หายใจเวลากลางคืน ขึ้นอยู่กับว่าสะดวกเวลาไหน เพียงทำแบบนี้ 2 วันติด ผลลัพธ์วันที่ 2 เมื่อแกะเทปออกมาผิวหนังบริเวณรอบ ๆ นิ่มลงและเมื่อขูดหรือสะกิดออกเบา ๆ ก็หลุดออกมาภาพโดย Kampong (ผู้เขียน)ถ้าใครเป็นหูดจะเอาเบตาดีนหยอดแล้วทาเพิ่มก็ได้ เพราะว่าหูดจะมีรากที่ฝังลึกมา กและอาจจะกลับมาเป็นอีก หลังจากนั้นกลางคืนก็ใช้สำลีชุบน้ำส้มสายชูผสมกระเทียมแปะใหม่ ทำวนไปจนกว่าผิวจะกลับมาเป็นปกติ วิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่เจ็บตัวแต่ใช้เวลาหน่อย ขึ้นอยู่กับกลุ่มแต่ละคนว่าเป็นตาปลาหรือว่าหูด ตุ่มใหญ่หรือตุ่มเล็ก สมัยก่อนอาจจะนิยมการใช้ธูปจี้ซึ่งจะได้ผลเร็วกว่า แต่ก็แสบร้อนแนะนำวิธีธรรมชาตินี้ไม่เจ็บ รักษาแบบค่อยเป็นค่อยไปเครดิตภาพจาก brgfx - www.freepik.comดังนั้นการป้องกันไม่ให้เป็นตาปลาหรือหูดก็คือ ให้ลดแรงกดและแรงเสียดสีของเท้า ไม่ใส่รองเท้าที่คับมากเกินไป หรืออยู่ในท่าที่มีการกดทับนานเกินไป หมั่นทำความสะอาดผิวให้สะอาดและบำรุงผิวเพิ่มความชุ่มชื้น และที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น