โรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากพบเจอ แต่เมื่องป่วยแล้ว ก็ต้องรีบรักษา เพื่อให้หายป่วยในเร็ววันค่ะกรณีของลูกชายวัย 6 ขวบก็เช่นกัน ทุกอย่างปกติดี แต่พอเริ่มป่วย เพียงไม่กี่ชั่วโมงผ่านไป พัฒนาการของโรคก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว … แต่อย่างที่บอกไว้ในตอนต้น ถ้ารักษาเร็ว ก็จะหายป่วยเร็วค่ะไทม์ไลน์ของอาการป่วยเป็นไปดังนี้ค่ะ0600 น. เช้าวันอังคาร เด็กชายตื่นนอนตามปกติ0830 น. เด็กชายอาเจียนบนรถ เริ่มซึม หน้าซีด หาว แต่แม่นึกว่าเมารถ เพราะวันนั้นรถติดมาก0900 น. เด็กชายถึงโรงเรียน ยังซึมอยู่ แม่แจ้งอาการป่วยกับคุณครู และขอดูอาการ0945 น. เด็กชายอาเจียนรอบสอง1000 น. เด็กชายซึมหนัก ไม่มีแรง ตัวซีด มือเท้าเย็น หาว หายใจเฮือกแบบฮุกอากาศ1100 น. เด็กชายถึงห้องฉุกเฉิน รพ.พระมงกุฏเกล้า มีไข้ 39.7 องศาเซลเซียส แม่เช็ดตัว1200 น. คุณหมอแผนกฉุกเฉินตรวจ และให้ยาลดไข้ เด็กชายยังคงอาเจียน ซึม ตาลอย1300 น. เด็กชายถูกส่งต่อมาพบกุมารแพทย์ นอนพักที่ห้องสังเกตอาการ คุณหมอสั่งตรวจน้ำมูกเพื่อหาเชื้อ และให้ฉีดยากันอาเจียน1400 น. เด็กชายนอนหลับ1500 น. เด็กชายไข้ลด ตื่นมาแล้วคึกคัก1530 น. คุณหมอแจ้งผลตรวจว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A แต่เด็กชายอาการไม่หนักเพราะเคยฉีดยาป้องกันไข้หวัดใหญ่แล้ว จึงสั่งยา ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว และอนุญาตให้กลับไปทานยาต้านไวรัส ยาลดไข้ต่อที่บ้าน นัดครั้งต่อไปเพื่อตรวจติดตามผลในวันศุกร์1600 น. เด็กชายกลับบ้าน มีไข้ และซึมเล็กน้อยตลอดทั้งคืนเด็กชายทานยาต้านไวรัส ทานยาลดไข้ และเช็ดตัว แต่ไข้ไม่ลด หรือลดเพียงระยะเวลาสั้นๆ แล้วไข้ก็กลับมาอีกเช้าวันพุธ เด็กชายยังคงมีไข้สูง อ่อนเพลีย ไม่รับประทานอาหาร อาเจียนทั้งยากันอาเจียน ยาลดไข้ ยาต้านไวรัส ดังนั้น ในช่วงสายแม่จึงโทรศัพท์สอบถามไปยังห้องตรวจโรคทั่วไปของเด็ก คุณพยาบาลแจ้งว่า ให้พากลับมาที่โรงพยาบาลได้ทันที ดังนั้น ในช่วงบ่ายเด็กชายจึงได้พบคุณหมอเจ้าของไข้อีกครั้ง คุณหมอสั่งแอดมิท เจาะเลือด และให้น้ำเกลือหลังจากเข้าห้องพัก เด็กชายถูกให้น้ำเกลือ และไม่อาเจียนแล้ว ทำให้ทานยาได้ ทั้งลดไข้ และยาต้านไวรัส แต่ตลอดทั้งคืนวันพุธยังคงมีไข้สูง แม่เช็ดตัวทั้งคืน จนกระทั่งตีสาม ไข้จึงลดหายไป และไม่มีไข้อีกเลยวันพฤหัสบดี เด็กชายอาการดีขึ้นโดยลำดับ ไม่อาเจียน ไม่มีไข้ เริ่มรับประทานอาหารได้มากขึ้น เช้าวันศุกร์ คุณหมออนุญาตให้ออกจาก รพ. ได้แล้ว ซึ่งน้ำเกลือขวดสุดท้ายหมดลงในช่วงสาย และคุณหมอสั่งเจาะเลือดตรวจอีกครั้งให้แน่ใจ ตลอดจนแนะนำวิธีดูแลรักษาตัวที่บ้าน และกำชับห้ามไปโรงเรียน เพราะอาจไปแพร่เชื้อได้ ทั้งนี้ คุณหมอนัดให้กลับมาตรวจติดตามอาการครั้งต่อไปในวันศุกร์หน้า และให้เจาะเลือดก่อนพบคุณหมอด้วย ตอนนี้เด็กชายหายป่วยแล้ว แต่ยังไม่ซนมาก ขอบคุณคุณหมอ พี่พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านของ รพ.พระมงกุฏเกล้า ที่ช่วยรักษาและดูแลเด็กชายจนหายดีค่ะ… บทส่งท้ายพัฒนาการของโรคบางชนิดเป็นไปอย่างรวดเร็วมากเวลาเด็กเล็กป่วย เขายังบอกอะไรมากไม่ได้ ผู้ใหญ่ต้องคอยสังเกตถึงความผิดปกติ ลองจับอวัยวะส่วนต่างๆ เช่น ศีรษะ ท้อง คอ แขน ขา แล้วถามความรู้สึกเขาว่า เจ็บปวดหรือไม่ถ้าเด็กป่วยแล้วมีอาการมากกว่า ไอ จาม มีน้ำมูก ต้องรีบพาไปพบคุณหมอ สำหรับโรงพยาบาลรัฐบาลถ้ามาในเวลาราชการ ผู้ป่วยก็จะได้พบกับกุมารแพทย์เฉพาะทาง ได้เพาะเชื้อในแล็บตรวจ รู้ผลไว จ่ายยาไวการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ช่วยได้มาก เพราะโอกาสป่วยจะเหลือเพียง 20% ซึ่งถ้าเด็กชายไม่เคยฉีดมาก่อนคงป่วยหนักกว่านี้การเช็ดตัวอย่างถูกวิธีช่วยทำให้ไข้ลดลงได้อย่างมากแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลรัฐ เหมาะสำหรับคนไข้ที่ป่วยหนักจริง ๆ ถ้าหากไม่เป็นอะไรมาก แนะนำให้ไปพบคุณหมอตามคิวปกติบนห้องพักตึกเด็ก มีคุณหมอ และนักศึกษาแพทย์ คอยดูแลตลอดทั้งวัน พี่พยาบาลจัดยาทุกมื้ออาหาร และวัดไข้/ความดันโลหิตทุก 3 ชั่วโมง รวมทั้งมีแม่บ้านทำความสะอาด กวาด ถู เก็บขยะ ล้างห้องน้ำ เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ให้ทุกวันคุณหมอที่นี่ใส่ใจอาการป่วยมาก ดูประวัติเก่าคนไข้ว่า ที่ผ่านมาเจ็บป่วยอะไรบ้าง หรือมียาอะไรที่ต้องทานต่อเนื่อง คุณหมอจะสั่งยาให้ทานระหว่างเข้าพัก รวมทั้งสั่งเจาะเลือดเป็นระยะ เพื่อความแน่ใจในอาการเจ็บป่วยค่าห้องพัก/ค่าอาหารที่ รพ.พระมงกุฏเกล้า ไม่ได้แพงมาก ผู้ป่วยที่ใช้สิทธิของทางราชการสามารถเบิกได้เกือบทั้งหมด มีค่าส่วนเกินไม่มาก และหากมีประกันชีวิตจะได้เงินค่าส่วนเกินคืน พร้อมค่าเสียโอกาส (แล้วแต่สัญญา) ซึ่งของเด็กชายได้ค่าเสียโอกาสวันละ 1,000 บาทเมื่อพาผู้ป่วยเด็กไปโรงพยาบาล ควรมีญาติไปด้วย 2 คน เพราะคนหนึ่งจะได้ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วย และอีกคนหนึ่งจะได้เดินเอกสารที่จำเป็นค่ะ