สวัสดีเพื่อนๆชาว On Scene ทุกคนนะคะ ทุกคนเคยได้ยินประโยคทำนองที่ว่า “ประจำเดือนไม่มา ไม่ได้นำเลือดเสียออกจากร่างกายเลย”กันบ้างไหมคะ ประจำเดือนของสาวๆ หรือเลือดที่เราเสียไปกันทุกๆเดือน คือเลือดเสียจริงๆหรือ วันนี้ ผู้เขียนนำคำตอบมาให้แล้วค่ะ เราไปอ่านพร้อมๆกันเลยประจำเดือนคืออะไร?มาเริ่มจากการทำความเข้าใจว่าประจำเดือนของเราคืออะไรกันก่อนเลยนะคะ โดยปกติแล้ว ผู้หญิงจะมีการตกไข่เดือนละหนึ่งครั้ง ซึ่งก็คือการที่ไข่จะหลุดออกจากรังไข่ แล้วเดินทางตามท่อนำไข่ มาที่มดลูก หากในช่วงเวลาดังกล่าวไปมีเพศสัมพันธ์ หรือไข่ได้รับการผสมจากสเปิร์ม ก็จะทำให้เกิดทารก โดยปกติแล้วฮอร์โมนของเพศหญิง นั่นก็คือเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนจะหลั่งออกมา ทำให้ผนังมดลูกหนาตัวขึ้น เพื่อรองรับการฝั่งตัวของไข่ ที่ได้มีการผสมกับสเปิร์ม แล้วถ้าไข่ไม่ได้รับการผสมจากสเปิร์มจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ?ระดับฮอร์โมนจะตกลง ทำให้เยื่อบุมดลูกไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้ ทำให้เกิดการหลุดตัวของเยื่อบุมดลูก ซึ่งการลอกตัวของเยื่อบุมดลูกนี่แหล่ะค่ะ กลายมาเป็นประจำเดือน ในทุกๆเดือนหากไข่ไม่ได้รับการผสมจากสเปิร์ม ก็จะหลุดออกมาเป็นประจำเดือนนั่นเองค่ะประจำเดือนเท่ากับเลือดเสียจริงหรือ?จากข้อมูลด้านบนเนี่ย เพื่อนๆคงพอจะเดาคำตอบออกกันแล้วใช่ไหมล่ะคะ ใช่แล้วค่ะ ประจำเดือนนั้นไม่ใช่เลือดเสียแต่อย่างไร แต่เป็นเยื่อบุมดลูกที่ร่างกายของผู้หญิงอย่างเราๆ สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการฝั่งตัวของไข่ เพียงแต่ไข่ใบนั้นไม่ได้รับการผสมจากสเปิร์มเท่านั้นเอง เกร็ดความรู้เสริม!ไหนๆก็พูดเรื่องประจำเดือนกันแล้ว ผู้เขียนจึงอยากจะมาบอกกล่าวเรื่องน่ารู้สำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลาย ที่ควรจะระมัดระวังและควรสังเกต ถ้าหากเพื่อนๆมีประจำเดือนมากๆในแต่ละครั้ง ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาเลือดน้อย หรือโลหิตจางได้นะคะ ผลที่ตามมาอีกคือการขาดธาตุเหล็ก เนื่องจากในเม็ดเลือดประกอบด้วยฮีโมโกลบินที่ประกอบด้วยฮีม กับโปรตีนที่มีชื่อว่าโกลบิน ซึ่งฮีมนั้นมีส่วนประกอบสำคัญคือธาตุเหล็ก ธาตุเหล็กทำหน้าที่จับออกซิเจน เพื่อจะนำไปส่งยังเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย วิธีการแก้คือ ต้องเพิ่มปริมาณของเลือดแดง โดยการรับประทานธาตุเหล็กเสริมเข้าไป หรือแก้ที่ประจำเดือนมามากโดยการปรึกษาแพทย์ค่ะ เพราะเป็นผู้หญิงมันเหนื่อยนักเราจึงต้องหันมาดูแลสุขภาพ ใส่ใจทุกรายละเอียดของร่างกาย วันนี้ก็ได้ประโยชน์แบบอัดแน่น เน้นๆเต็มๆคำ ไว้กลับมาเจอกันใหม่ในบทความหน้า see you~ อ้างอิง:หนังสือ เล่าเรื่องเลือดขอบคุณรูปภาพ:www.pobpad.com และPinterest