เช็ค 4 ความสัมพันธ์สุด Toxic รู้แล้วรีบหนีออกมาให้ห่าง ในยุค 2020 นับเป็นยุคเทคโนโลยีที่ไม่ว่าจะวัยไหนต่างก็เข้าถึงเครื่องมือสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็ว การรู้จักกันก็แลดูจะง่ายมากขึ้น ความสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นรวดเร็ว และหลายครั้งก็จบลงอย่างรวดเร็วจนแทบไม่ได้ตั้งตัวเหมือนกัน แต่ทว่าความรวดเร็วเหล่านี้ก็มาพร้อมกับความสัมพันธ์ที่เรียกว่า Toxic Relationship หรือในภาษาไทยอาจจะแปลได้ว่า ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ ที่หลายคนเผชิญอยู่ทั้งแบบรู้ตัว และไม่รู้ตัว หรือรู้ตัวแล้วแต่ก็ยังหาทางออกมาไม่ได้ ว่าแต่ความสัมพันธ์พวกนี้มันส่งผลร้ายอะไรนอกจากความเสียใจ ในความเป็นจริงแล้วการที่เราอยู่กับความสัมพันธ์ที่เป็นพิษนานเท่าไหร่ สุขภาพทางจิตเราก็จะย่ำแย่ลง อารมณ์ขุ่นมัวมากขึ้น ส่งผลให้ชีวิตเริ่มดำดิ่งจนสุดท้ายอาจจะกลายเป็น โรคซึมเศร้าได้ วันนี้อยากชวนทุกคนมาเช็คว่าคุณกำลังตกอยู่ใน Toxic Relationship หรือไม่ และถ้าคำตอบคือ ใช่ ให้รีบหาทางออกมาให้เร็วที่สุด! 01. มีความสัมพันธ์เกินเลย แต่กลับไม่มีสถานะ ความสัมพันธ์เป็นพิษอันดับ 1 ที่สาว ๆ หลายคนพึงระวังไว้ให้ดี เพราะความสัมพันธ์แบบนี้มันหลุดออกมายากมาก ด้วยคารมคมคายของหนุ่ม ๆ ทั้งหลายที่มักป้อนสาว ๆ ด้วยคำหวานมากมายจบท้ายด้วยเรื่องบนเตียง แต่กลับไร้สถานะและความสัมพันธ์ที่ชัดเจน จริงอยู่ว่าแม้เราจะมีความรักให้เต็มเปี่ยมและยอมที่จะอยู่แบบไร้ตัวตนในชีวิตเขา แต่ยิ่งปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้นานเท่าไหร่ หรือเมื่อสุดท้ายเขากลับมีคนรักขึ้นมาเป็นตัวเป็นตน ก็จะทำให้เรารู้สึกด้อยค่าในตัวเอง การรู้สึกหมดคุณค่าในตัวเองนั้นเป็นเรื่องใหญ่ที่แก้ได้ยาก ทำให้ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าปฎิเสธ รักตัวเองน้อยลง และอาจเกิดความรู้สึกอยากทำร้ายตัวเอง หรือคิดสั้นได้ ดังนั้นถ้ารู้ว่ากำลังจะตกอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงแบบนี้ ให้ใจแข็งกล้าปฎิเสธ และเชื่อมั่นใจตัวเองให้มาก ๆ photo: https://unsplash.com/photos/tcrWppXr2Xk 02. ดูเหมือนเป็นห่วงเป็นใย แต่เจอเรื่องทุกข์ทีไรไม่เคยเห็นหน้าเห็นตา อีกหนึ่งความสัมพันธ์ที่มารูปแบบของเพื่อน บ่อยครั้งเวลาที่เราทุกข์ หรือเศร้า มันจะมีคนเข้ามาปลอบเราด้วยคำพูดดี ๆ มากมาย แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งเราไม่อาจจะมั่นใจได้ว่าเขากำลังเห็นใจ หรือว่ากำลังรู้สึกดีกันแน่ ในแง่ของจิตวิทยา หลายครั้งที่เรามักจะมองดูคนที่กำลังลำบากกว่าเรา เพื่อให้เรารู้สึกดีขึ้น หรือ เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่ด้อยกว่า เพื่อให้ตัวเองรู้สึกอุ่นใจที่มีมากกว่า นับเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่จะเกิดความรู้สึกแบบนี้ แต่ในทางกลับกันในแง่มุมของความสัมพันธ์ เราคงไม่ได้อยากมีเพื่อนที่ปลอบเราด้วยท่าทางเห็นใจ แต่เวลาต้องการความช่วยเหลือ หรือเจอเรื่องที่เดือดร้อนใจกลับหายไปไม่เคยเห็นหน้า ถ้าไม่ต้องการอยู่ในพื้นที่เป็นพิษแบบนี้ อย่างหนึ่งคือการสแกนคนที่เข้ามาในชีวิตว่าเขาต้องการผลประโยชน์อะไรจากเรา หรือลึก ๆ เขาคิดอย่างไรกับเรากันแน่ ถ้าไม่อยากเสียความรู้สึกบ่อย ๆ โดยเฉพาะกับคนที่เต็มที่กับเพื่อนกับฝูง ให้รีบหาทางออกมาโดยด่วน photo: https://unsplash.com/photos/BuNWp1bL0nc 03. ทำเหมือนเราสำคัญ แต่ก็ทำแบบนี้กับทุกคน อีกหนึ่งความสัมพันธ์สุดฮิตที่เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอแน่ ๆ ประเภทที่ว่ามาหยอดทุกวัน ลงรูปสักพักมากดไลก์ ตั้งสเตตัสสักพักก็เข้ามาแซว ทำแบบนี้ประจำจนทำให้เราคิดไปเองว่านี่เขากำลังจีบฉันอยู่แน่ ๆ แต่ที่ไหนได้ เพื่อน ๆ รอบตัวเราก็เจอแบบนี้จากคนเดียวกันหมด ความสัมพันธ์แบบนี้อาจจะไม่มีอะไรเป็นตัวเป็นตนมากนัก แต่ขอบอกเลยว่ามันทำให้เราเสียเซลฟ์ เสียความรู้สึก แบบสุด ๆ ยิ่งถ้าโดนหยอดมาก ๆ จนตกหลุมรักไปแล้วล่ะก็อาจจะทำให้เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง และเสียใจหนักได้ ใครที่รู้ตัวว่ากำลังเจอคนที่เข้ามาวนเวียนในชีวิตและทำสิ่งเหล่านี้กับเรา และถ้าพิจารณาดูแล้วเป็นเพียงการหยอดไปวัน ๆ ไม่ได้มีความจริงใจ หรือตั้งใจจริงที่จะสานความสัมพันธ์กันต่อ ควรจะรีบหยุดและแสดงจุดยืนชัดเจนว่าเราไม่เข้าไปเล่นด้วย ไม่สนใจ และไม่ให้ความสำคัญ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันหัวใจตัวเองไม่ให้เกิดรอยร้าวและส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตได้ photo: https://unsplash.com/photos/XX2WTbLr3r8 04. เห็นเราเงียบ ๆ โยนงานให้เพียบเลยนะพี่ ปิดท้ายด้วยความสัมพันธ์ในที่ทำงานกันบ้าง เคยไหมมีรุ่นพี่ท่าทางใจดี มีน้ำใจ เอ็นดูน้อง เห็นเราเป็นเด็กเข้ามาใหม่ก็พาไปรู้จักคนนั้นคนนี้ ช่วยสอนนั่นสอนนี่ แนะนำวิถีชีวิตในออฟฟิศให้อย่างกับเป็นพี่แท้ ๆ ที่คลานตามกันมา แต่ไม่ทันไรพี่ก็เริ่มออกลาย โยนงานให้ทำแล้วเผ่นแน่บหายไปไม่เคยเห็นหน้าเห็นตา เราเชื่อว่าหลายคนคงจะต้องเจอเหตุการณ์และความสัมพันธ์อันเป็นพิษนี้ สถานการณ์แบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ด้วยความสนิท ความเกรงใจไม่กล้าบอกไปตรง ๆ ว่าพี่คะหนูก็ยุ่งมากเลยค่ะ ได้แต่ยิ้มแหย ๆ และรับงานมาทำในที่สุด สุดท้ายแล้วจะเกิดเป็นความเครียด ความอึดอัด อยากลาออก ไม่อยากไปทำงาน ดังนั้นถ้าเริ่มเจอพฤติกรรมโยนงานแบบนี้ ให้รีบแสดงจุดยืน อย่าอายที่จะปฎิเสธ อย่าเกรงใจที่จะพูดคำว่า ไม่ว่าง ยิ่งถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนที่ขี้เกรงใจมาก ๆ ก็ยังไม่ควรไปสนิทกับใครมากนัก ควรจะใช้เวลาในการศึกษาคน และเรียนรู้คนให้มากกว่านี้ หรือถ้าสุดท้ายแล้วคิดว่าปฎิเสธต่อหน้าไม่ได้จริง ๆ ก็อาจจะใช้วิธีไลน์ไปบอกไปก็อาจจะง่ายขึ้น อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์แบบนี้มากวนใจ แล้วทำให้เราสุขภาพจิตเสียเปล่า ๆ photo: https://unsplash.com/photos/oMpknr7yi7g อย่างที่เรารู้กันดีว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราต้องมีการพบเจอ พูดคุย มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ทุกวัน แต่ว่าความสัมพันธ์เหล่านี้ บางครั้งก็คุ้มค่าน่าลงทุน ในขณะที่บางครั้งก็เป็นพิษและทำให้เราป่วยได้ ดังนั้นการที่จะมีสุขภาพจิตที่ดี ก็ต้องขึ้นอยู่กับการเลือกสรรคนเข้ามาอยู่ในชีวิต บางคนด่วนตัดสินไปคว้าคนไม่ดีเข้ามา ก็ตกหลุมไปในความสัมพันธ์พัง ๆ ป่วย ๆ จนตัวเองก็ป่วยตาม และอาจจะทำให้เราเสียคนดี ๆ ในชีวิตออกไปเพราะคนแย่ ๆ ที่เราดึงเข้ามาด้วย ใครที่กำลังหลุดเข้าไปเจอความสัมพันธ์แย่ ๆ แบบนี้ก็รีบดึงสติตัวเอง และพาตัวเองออกมาด้วยความมั่นใจ เพราะสำหรับคนห่วย ๆ นั้นไม่มีค่าพอที่จะให้เราเสียเวลาด้วยแม้แต่แค่วินาทีเดียว :)