่ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจถ้าคุณจะเคยได้ยินว่า "ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ" ผมเติมให้ ถ้าใช้นานเกิน หน้าต่างของหัวใจย่อมอ่อนล้าทำไม?เพราะชีวิตประจำวันของพวกเรา ๆ ท่าน ๆ อยู่กับหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ tv ฯ ไหนจะมองโน่นนี่นั่นอีก แม้บางคนจะเถียงว่า ใช้หนักที่ไหนสายตาก็มองไปเรื่อย ๆ ใช่ครับ คุณแค่เพียงเปลี่ยนกิจกรรม เสมือนคุณกำลังบอกตัวเองว่า สายตายังไหว แต่ถามสักเล็กน้อยเขาส่งเสียงบอกเราได้ไหมเอ่ย? แต่อาการบางอย่างไม่ว่าจะเป็นตาล้า ปวดตา มองภาพไม่ชัดเหมือนเดิม นั่นคือเขาพยายามส่งเสียงแล้ว แต่คุณก็มักอ้างว่าก็สายตาก็เสื่อมไปตามวัย แต่ลืมนึกไปว่า คนในวัยเดียวกัน สายตาเสื่อมเหมือนคุณหรือไม่? จริง ๆ มันน่าจะสะท้อนว่าเราใช้สายตาหนักไป? โปรดฟังเสียงของดวงตาด้วย แสงสีฟ้า กับการใช้ชีวิตของมนุษย์1) พวกเราน่าจะคุ้นกับประโยคที่ว่า "แสงเดินทางเร็วกว่าเสียง"เจ้าแสงที่เราย่อมคุ้นกับแสงอาทิตย์ และมันส่งผลกับการใช้ชีวิตมนุษย์เกือบตลอด 24 ชั่วโมง น่าจะหมายถึงนาฬิกาชีวิต 2) แสงอาทิตย์ แสงยูวี และแสงสีฟ้า มันมีความสัมพันธ์ต่อกิจกรรมของมนุษย์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่าจะเป็นผลต่อการหลั่งฮอร์โมน เตือนให้เราตื่น ทานอาหาร ขับถ่าย เป็นต้นจริงอยู่ที่เราจะรับทราบว่า แสงอาทิตย์ทำให้พืชเจริญเติบโต และสามารถบอกว่ากิจวัตรช่วงไหนมนุษย์ควรทำอะไร แต่มนุษย์เราทุกวันนี้กำลังบิดกฎดังกล่าวกลายเป็นบางท่านนอนกลางวัน ทำงานตอนคืน -และซ้ำร้ายบางงานที่ทำก็ไม่ก่อให้เกิดรายได้แต่อย่างใด (ทำทำไม -น้อง งง?) 3) ส่วนใหญ่งานที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จำเป็นต้องพึ่งแสง เช่น เสพสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะ ในยุคที่ อุปกรณ์พกพากลาย ๆ เป็นปัจจัยที่ 5 ดวงตาของเราจึงต้องทำงานในช่วงที่มันสำควรจะพัก (ถูกไหม?)4) แสงสีฟ้าเป็นส่วนประกอบหนึ่งของแสงขวาจาก UV ซึ่งมีทั้งหมด 7 สี ได้แก่ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง 5) จินตนาการครับว่า 7 สีรวมกันเป็นแสงสีขาว แต่สีฟ้าหรือคราม เป็นเพียงส่วนหนึ่งและต้องมีคลื่นความถี่ถึงระดับหนึ่งที่สายตาคุณจะรับได้ จึงจะมองเห็น6) คำถามต่อไปแล้วแสงสีฟ้าที่มองไม่เห็นหล่ะ? สายตาเรารับรู้แต่มองไม่เห็น เจ้าตัวนี้แหล่ะมันอาจจะสร้างผลเสียให้แก่ดวงตาเรา ถ้าเป็นแสงสีฟ้าที่อยู่ในคลื่นความถี่ 415-455nm อาจทำให้ ตาพวกเราล้า ตาแห้ง จอประสาทตาอักเสบอักเสบ ***ถ้าเราได้รับเป็นเวลานาน ๆ แล้วเราอยู่กับหน้าจอนานไหม? เราจะหลีกเลี่ยงได้หรือไม่ได้ครับ แบ่งเวลาให้อยู่กับหน้าจอเป็นช่วง ๆ เวลาและสอดคล้องกับธรรมชาติและในระหว่างการทำงาน ที่ต้องพึ่งหน้าจอ เราต้องมีเครื่องมือป้องกันนั่น คือ "แว่นกรองแสงสีฟ้า" แม้จะฟังดูเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ พฤติกรรมการใช้ดวงตาของคุณต้องเปลี่ยนด้วยครับ ปัจจุบันผมตัดแว่นที่เรียกว่า blue cut แล้ว ... ข้อดีคือ1) ตาไม่แห้ง ลดค่าใช้จ่ายไม่ต้องซื้อน้ำตาเทียม แต่อย่าลืมดื่มน้ำด้วยนะครับวันละ 8 แก้ว (ไม่ใช่ลิตร)2) อาการวุ้นในตาเสื่อม หายไปแล้วครับตั้งแต่ผม 1) ปรับพฤติกรรมการใช้สายตา 2) ใช้แว่นกรองแสงสีฟ้า 3) ดื่มน้ำอัญชันสุดท้ายแถมให้นิด ก.) เตือนตัวเองว่า ถ้าอยู่กับหน้าจอนานเกินไป ออกไปเดินเล่นพักสายตาบ้างครับ ให้เขาได้พักผ่อนข.) ง่วงก็นอนครับ ไม่ต้องฝืน แว่นกรองแสงสีฟ้าอนึ่ง ตอนซื้อให้พนักงานทดสอบแว่นกรองแสงสีฟ้า ว่าไม่ถูกย้อมแม้ว? โดยใช้ปากกาแสงสีม่วง (blue light) ถ้าจริงมันจะส่องผ่านไม่ได้ถ้าคุณรักตา ตาก็จะรักคุณ ท้ายนี้ขอบพระคุณปก โดย โดย mullleno4ka จาก pixabay1.ภาพที่ 1 โดย ivanovgood จาก pixabay2.ภาพที่ 2 โดย hjanbaby จาก pixabay3. ภาพที่ 3 โดย จาก pixabay4. ภาพที่ 4 โดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !