ยาลดน้ำมูก ยี่ห้อไหนดี ยาคลอร์เฟนิรามีน CPM กินยังไง ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมากค่ะ อยู่ดีคืนดีฝนก็ตกลงมาซะงั้นตอนสายร้อนมากพอตกเย็นค่อยสบายหน่อย แต่เช้ามืดเหมือนจะเป็นหน้าหนาวนั่นคืออากาศที่บ้านของผู้เขียนค่ะ แต่หลายจังหวัดในตอนนี้คงหนาวจริงจังกันแล้วโดยเฉพาะภาคเหนือ อากาศหนาวสำหรับบางคนก็ดีค่ะแต่สำหรับบางคนเริ่มจะต้องหาหยูกยามาไว้ดูแลตัวเองกันยกใหญ่โดยเฉพาะคนที่เป็นภูมิแพ้หรือแม้แต่คนธรรมดาทั่วไปที่อาจจะปรับตัวไม่ทันกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง จนทำให้ร่างกายเริ่มมีการตอบสนองด้วยการจามจนน้ำตาไหลและสุดท้ายก็เริ่มมีน้ำมูกไหลออกมาให้เห็น ซึ่งที่ว่ามานั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่อย่างเราๆ ค่ะปล่อยไหลน้ำมูกไหลตลอด จามตลอดก็อาจจะไม่ดีนักทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้างค่ะ ไหนจะภาพลักษณ์ที่อาจจะดูไม่จืดนักที่ต้องมานั่งเช็ดน้ำมูกน้ำตาไหลกันต่อหน้าชุมชนคนส่วนมาก มีน้ำมูกไหลก็ต้องหายามาลดน้ำมูกมาดูแลตัวเองค่ะ แล้วยาตัวไหนดีทำไมยาลดน้ำมูกก็ได้ยินมาว่ามีตั้งเยอะแยะจนเลือกไม่ถูกแล้ว! คนนั้นก็ว่าอันนี้แหละเด็ดแต่ไปอีกที่ก็ว่าอันนี้เด็ดกว่า เลยกลายเป็นว่าสรุปยาลดน้ำมูกอันไหนดีแน่ ในบทความนี้ผู้เขียนอยากเล่าถึงยาตัวหนึ่งที่เป็นยาสามัญประจำบ้าน ที่ผู้เขียนชอบเรียกยาลดน้ำมูกตัวดี! ดีขนาดชนิดที่ว่าสามารถเป็นยาลดน้ำมูกได้ตั้งแต่สามัญชนไปจนถึงฮ่องเต้ ยาตัวนี้แผงละ 5 บาทเท่านั้น แต่ไม่มีขายในเซเว่นนะคะ คิดว่าในอนาคตอาจนำมาขายยาลดน้ำมูกที่ผู้เขียนจะได้เล่าถึงต่อไปนี้แบบยาวๆ มีชื่อว่า ยาคลอร์เฟนิรามีน (Chlorpheniramine Maleate; CPM) ยามีหลายรูปแบบและหลายขนาด แต่ในบทความนี้จะขอพูดถึง ยาคลอร์เฟนิรามีน ชนิดเม็ด ขนาด 2 มิลลิกรัมค่ะ สำหรับยาคลอร์เฟนิรามีนขนาดอื่นก็สามารถใช้ได้แต่ปริมาณในการใช้จะแตกต่างกันออกไป ดังนั้นการอ่านฉลากยาคือสิ่งที่ต้องทำทุกครั้งก่อนใช้ยายาคลอร์เฟนิรามีนค่ะ เพราะโดยส่วนใหญ่สำหรับคนทั่วไปอาจจะไม่ได้สังเกตในส่วนของปริมาณของยา ดังนั้นการอ่านฉลากยาจะช่วยให้สามารถใช้ยาได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยมากขึ้นค่ะยาคลอร์เฟนิรามีน ขนาด 2 มิลลิกรัม เป็นยาเม็ดกลมขนาดเล็กมีสีเหลือง มีทั้งแบบกระปุกและแบบแผงจำหน่ายค่ะ ยาคลอร์เฟนิรามีนเป็นยาพื้นฐานที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ยาคลอร์เฟนิรามีน เป็นยาเบื้องต้นที่ช่วยลดอาการแพ้ เช่น ลมพิษ และลดน้ำมูก สามารถใช้ได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 6-12 ปี และผู้ใหญ่ เป็นยากินตามอาการ หมายความว่าถ้ามีอาการตอนไหนก็กินตอนนั้น ถ้าดีขึ้นแล้วก็ให้หยุดกินยาคลอร์เฟนิรามีนได้เลยทันที ขนาดที่ใช้สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 6-12 ปี กินยาคลอร์เฟนิรามีน ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง เมื่อมีอาการ แต่ไม่ควรกินเกินวันละ 6 เม็ดผู้ใหญ่ กินยาคลอร์เฟนิรามีน ครั้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง เมื่อมีอาการ แต่ไม่ควรกินเกินวันละ 12 เม็ดคำเตือนไม่ควรกินยาคลอร์เฟนิรามีนติดต่อกันเกิน 7 วันยาคลอร์เฟนิรามีนมีผลข้างเคียงอาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม จึงไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมประสบการณ์การใช้ยาคลอร์เฟนิรามีนของผู้เขียนเมื่อมีน้ำมูกไหลผู้เขียนจะมีอาการจามมาก่อน พอจามเท่านั้นล่ะค่ะจะรู้เลยว่าเริ่มต้องเตรียมยาแล้ว ในระหว่างจามก็จะมีน้ำตาไหลด้วย โดยปกติก่อนจะเป็นมักจะเป็นเพราะว่าไปอยู่ในที่ๆ ร้อนจัดจากนั้นก็ไปเจอที่เย็นจัดสลับไปสลับมาจนร่างกายงง กับสภาพอากาศภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยส่วนใหญ่จะเป็นตอนมีน้ำมูกใสเป็นหลักที่ทำให้ผู้เขียนต้องเลือกใช้ยาคลอร์เฟนิรามีนค่ะ ใช้ไปประมาณ 4 เม็ดก็ดีขึ้นแล้วค่ะ สำหรับการใช้ยาคลอร์เฟนิรามีนเพื่อลดอาการแพ้นั้นได้แนะนำให้กับคนใกล้ตัวใช้ยาคลอร์เฟนิรามีน ก็พบว่าได้ผลดีและหายขาดค่ะ ยาคลอร์เฟนิรามีนเป็นยาราคาถูกมีอายุการเก็บรักษานานถึง 5 ปี ดังนั้นมียาคลอร์เฟนิรามีนติดบ้านไว้ใช้ยามฉุกเฉินค่ะ โดยส่วนตัวของผู้เขียนจะพกยาคลอร์เฟนิรามีนติดบ้านไว้ที่เป็นแบบแผง จำนวน 1 แผง เท่านั้น เพราะถ้าเป็นแบบกระปุกอาจเกินความจำเป็นสำหรับบ้านที่มีคน 3-4 คน แบบกระปุกจะดีสำหรับที่ทำงานที่มีคนทำงานจำนวนมาก ก็สามารถมียาคลอร์เฟนิรามีนติดสำนักงานไว้ได้ค่ะ ยาคลอร์เฟนิรามีนโดยส่วนตัวยังไม่เคยเห็นคนแพ้ยาตัวนี้ค่ะ และพบว่ายาคลอร์เฟนิรามีนให้ผลการรักษาที่ดีในราคาที่ถูกมาก ยาคลอร์เฟนิรามีนเมื่อนำไปรวมกับพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม และฟินิลเอฟฟิล ไฮโดรคลอไรด์ 10 มิลลิกรัม จะได้ยาที่มีชื่อทางการค้าว่า ดีคอลเจน เราจึงพบว่า ดีคอลเจนสามารถช่วยลดน้ำมูกไหลได้ เพราะมียาคลอร์เฟนิรามีนในส่วนประกอบ การจะเลือกใช้ดีคอลเจนก็ต่อเมื่อมีอาการมีน้ำมูกไหล เป็นไข้และปวดศรีษะร่วมด้วย และดีคอลเจนต้องใช้อย่างระมัดระวังเพราะดีคอลเจนถูกจัดเป็นยาอันตราย ปกติผู้เขียนจะเลือกใช้ยาคลอร์เฟนิรามีนเพียงอย่างเดียวก่อนเสมอถ้ามีเพียงน้ำมูกไหล กับถ้ามีไข้ก็จะเลือกเพิ่มพาราเซตามอลมาอีก 1 เม็ดเท่านั้น ยาอื่นๆ ไม่ค่อยได้ใช้และจะใช้ยาเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นค่ะ เพื่อลดการได้รับยาชนิดอื่นที่เกินความจำเป็น หากไม่ได้ผลหรืออาการไม่ดีขึ้นจึงจะเลือกใช้ยาตัวอื่นที่สูงขึ้น แต่ปกติใช้ยาคลอร์เฟนิรามีนก็หายเป็นปกติทุกครั้งค่ะการใช้ยาคลอร์เฟนิรามีนยังมีข้อควรระวังเพราะหากใช้ยาคลอร์เฟนิรามีนเกิน 7 วันแล้วยังไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและรักษาอย่างถูกต้องหรือปรึกษาเภสัชกรเพื่อพิจารณาใช้ยาตัวอื่นที่สูงขึ้นค่ะ ที่ผู้เขียนบอกว่ายาคลอร์เฟนิรามีนดีเพราะยาคลอร์เฟนิรามีนเป็นยาที่มีฤทธิ์ต่ำสุดแล้ว เพราะการใช้ยาควรเริ่มจากยาที่มีเป็นยาพื้นฐานก่อน การใช้ยาจะไม่เหมือนการเปลี่ยนเกียร์รถที่นึกอยากจะเปลี่ยนมาเกียร์หนึ่งก็ทำได้ทันทีหรือนึกอยากจะเปลี่ยนเป็นเกียร์สามก็สามารถทำได้เลย การใช้ยาในระดับที่สูงแล้วการจะถอยมาใช้ยาระดับต่ำๆ มีความเป็นไปได้ว่าร่างกายจะไม่ตอบสนอง เราจึงอาจเคยได้ยินคนใกล้ตัวมักพูดว่าเขาใช้ยาบางตัวแล้วไม่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราใช้ยาระดับสูงกว่ายาคลอร์เฟนิรามีนไปเรียบร้อยแล้วอย่างไรก็ตามสำหรับคนธรรมดาทั่วไปสามารถใช้ยาคลอร์เฟนิรามีนได้ถ้ามีอาการแพ้และมีน้ำมูกไหล ในส่วนของผู้เขียนนั้นยาคลอร์เฟนิรามีนจะเป็นตัวเลือกอย่างแรกเมื่อมีอาการแพ้และน้ำมูกไหลค่ะ ซึ่งก็ให้ผลการรักษาจนดีขึ้นทุกครั้ง มีอาการง่วงซึมเหมือนกันค่ะแต่ยังไม่ถึงขนาดต้องนอนหลับ อาการจะประมาณว่างงๆ มึนหัวและตาลาย ไม่สามารถทำอะไรที่ต้องใช้สมาธิ 100% ได้ ซึ่งทุกครั้งหลังใช้ยาคลอร์เฟนิรามีนก็จะพักค่ะ โดยหายและดีขึ้นภายในวันเดียวเท่านั้นค่ะ จากการใช้ยาคลอร์เฟนิรามีนไปเพียงแค่ 1 แผง ในราคา 5 บาท แล้วแบบนี้จะไม่ให้บอกว่าดีได้ยังไง!เครดิตภาพประกอบบทความจาก: ผู้เขียนภาพหน้าปกจาก PublicDomainPictures/Pixabayออกแบบภาพหน้าปกใน Canvaภาพประกอบเนื้อหาจากผู้เขียนบทความอื่นที่น่าสนใจ✳️เกลือแร่สำหรับออกกำลังกาย ในเซเว่น เป็นแบบไหน Royal D electrolyte อ่านเลย👈ยาอมขับเสมหะ แก้ไอ ยาอมมะแว้ง ในเซเว่น ดียังไง ราคากี่บาท อ่านเลย👈ยาแก้เมารถ เมาเรือ ไดเมน ในเซเว่น เป็นยังไง ราคากี่บาท อ่านเลย👈🩺 อัปเดตคอนเทนต์เพื่อสุขภาพได้ก่อนใครที่คอมมูนิตี้ฟิตแอนด์เฟิร์ม 🏃🏻♀️✨