ถ้าพูดถึงโทนเนอร์สุดแจ่ม สุดเริ่ดหลายๆคนก็คงจะนึกถึงโทนเนอร์เค้าท์เตอร์แบรนด์ตามห้างหรือคลีนิคของแพทย์ จนอาจลืมคิดไปว่าน้ำเกลือที่เราเอาไว้ใช้ล้างแผล น้ำเกลือที่มีวางขายตามเซเว่นเนี่ยก็สามารถเป็นโทนเนอร์ชั้นดีของผิวเราได้เหมือนกัน ช่วงหลังๆมานี้จะเห็นรีวิวจากเพจต่างๆตาม Facebook อยู่บ่อยๆว่าน้ำเกลือ สามารถใช้เช็ดหน้าแทนโทนเนอร์ได้ อ้าว...แบบนี้เราก็ไม่ต้องวิ่งวุ่นหาโทนเนอร์ตามห้างต่างๆอีกเลยละสิ แค่วิ่งเข้าไปเซเว่นมองหาน้ำเกลือแล้วเอาไปจ่ายตังค์แค่ไม่กี่บาท เราก็ได้โทนเนอร์แจ่มๆแล้วเอาล่ะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า น้ำเกลือใช้เช็ดหน้าแล้วดียังไงนั้น มาดูกันเลย 1.น้ำเกลือมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพอเราเอามาใช้เช็ดหน้าก็เปรียบเหมือนว่ามันจะทำลายเชื้อต่างๆที่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดสิว 2. อย่างที่รู้ๆกัน โทนเนอร์จะใช้หลังจากเราล้างหน้าเสร็จแล้ว ซึ่งการเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์หลังจากล้างหน้าเสร็จเนี่ย มันจะเป็นการช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนที่จะทำให้เกิดสิวอุดตัน ข้อที่สาม ผู้เขียนลองสัมผัสมาเองเลยจร้าข้อนี้ คือมันช่วยลดการอักเสบของผิว หรือพวกสิวอักเสบแบบนี้ก็ดี ถ้าใครที่ชอบกดสิว บีบสิวเหมือนผู้เขียนละก็ต้องลองแล้วแหละ หลังจากที่กดสิวเสร็จแล้วเนี่ย เราจะเอาน้ำแข็งประคบลงบนบริเวณที่กดประมาณ 5 นาที เพื่อลดการอักเสบและมันจะช่วยลดรอยแดงจากการกดด้วย จากนั้นก็ชุบน้ำเกลือด้วยสำลีแผ่นบางๆเช็ดบริเวณที่กดและบริเวณโดยรอบหรือใครจะแปะแผ่นสำลีทิ้งไว้บริเวณที่คาดว่ามันจะซ้ำก็ได้อีกด้วยไม่เสียหายเทคนิคเหล่านี้ผู้เขียนลองกับตัวเองแล้ว ปกติผู้เขียนจะมีผิวหน้ามัน ถ้าไม่มีการเช็ดโทนเนอร์หลังล้างหน้าคือจะเป็นสิวอุดตันง่ายมาก (ซึ่งชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) พอผู้เขียนเริ่มหันมาใช้น้ำเกลือเช็ดหน้าเนี่ย คือสิวอุดตันลดลงและก็ไม่ค่อยมีสิวอุดตันขึ้นอีก บริเวณจมูกจะเป็นเยอะแต่พอลองกดสิวดูแล้วก็ไม่ค่อยจะมี เนี่ยแหละ...คือข้อแตกต่างของการใช้น้ำเกลือเช็ดหน้ากับไม่ใช้ พิเศษคือน้ำเกลือจะใช้ได้กับผิวทุกประเภท ผิวแพ้ง่ายนี้ก็ใช้ได้ ไม่มีปัญหาเรื่องการกัดผิว การแสบ การระคายเคือง เหมือนโทนเนอร์ตัวอื่นๆที่มีส่วนผสมที่ผิวเราอาจรับไม่ไหวแต่ข้อเสียคือ...1 ขวดที่ซื้อมานั้น จะขนาดกี่มิลลิลิตร จะขวดเล็กหรือใหญ่เราก็ต้องใช้ให้หมดภายใน 1 เดือน ส่วนในเรื่องของการหาซื้อไม่ยากเลย ตามร้านขายยาหรือ 7-11 บางสาขา (บางสาขาไม่มีขาย) ราคาถ้าจำไม่ผิดผูเขียนเคยซื้อมาในราคาไม่เกิน 50 บาท ขนาด 200 มล. หาซื้อง่าย ใครชอบใครอยากลองก็ไปสอยเอามาลองใช้กันนะจ๊ะ จากที่ผู้เขียนเล่ามาทั้งหมดข้างต้นเป็นสิ่งที่ผู้เขียนได้ลองใช้ลองสัมผัสเอง เป็นความรู้สึกที่เห็นของความแตกต่างก่อนใช้กับหลังใช้ ถ้าหากจะเปรียบเทียบกับโทนเนอร์จริงๆก็คงจะมีความแตกต่างในเรื่องของผลลัพธ์ของการใช้และการเช็ดคราบสิ่งสกปรกที่หลงเหลือจากการล้างหน้าที่ไม่สะอาด เพราะน้ำเกลือมีฤทธิ์ทำลายเชื้อ ส่วนในเรื่องของการเช็ดทำความสะอาดอาจจะทำได้ไม่ดีพอ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและความพึงพอใจของผู้ใช้