โยคะเป็นเทรนการออกกำลังกายที่เป็นที่น่าสนใจในยุคปัจจุบันนี้ เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้กำลังมากจนเกินไป ใช้อุปกรณ์ไม่มากและใช้พื้นที่น้อย ท่าโยคะง่ายๆ ออกกำลังกายได้พร้อมกันทั้งครอบครัวสามารถทำได้ทุกช่วงวัย โยคะเป็นศาสตร์ที่ใช้เชื่อมประสานกันระหว่างร่างกายและจิตใจ เป็นการออกกำลังกายที่เน้นการจับลมหายใจและเคลื่อนไหวร่างกายด้วยท่าทางต่างๆ มีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจ ประโยชน์ที่จะได้รับจากการฝึกโยคะมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะร่างกายมีความยืดหยุ่น ท่าโยคะจะช่วยบริหารกล้ามเนื้อความยืดหยุ่นของร่างกาย สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ ช่วยให้คุณเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วยิ่งขึ้น ช่วยให้ข้อต่อในร่างกายเสื่อมช้าลงลดความเครียด ใจเย็น การฝึกโยคะช่วยให้จิตใจสงบ บุคลิกดีขึ้น หากคุณฝึกจนเคยชินร่างกายก็จะอยู่ในสภาพสมดุลตลอดเวลา ผิวดีขึ้น การฝึกโยคะช่วยให้หัวใจทำงานได้ดี เลือดไหลเวียนดีขึ้นอยากลองฝึกโยคะกันแล้วใช่มั้ยคะ เริ่มกันเลยค่ะ1. ท่าต้นไม้ (Tree Pose) ยืนตรงขาชิดกัน แขนแนบข้างลำตัว ถ่ายน้ำหนักไปขาข้างซ้ายจากนั้นยกขาขวาขึ้นแล้วใช้มือจับข้อเท้ามาวางไว้ที่ต้นขาด้านในของขาซ้ายเมื่อรู้สึกร่างกายสมดุลแล้วให้ประกบฝ่ามือเข้าด้วยกัน หายใจเข้าแล้วยืดแขนขึ้นด้านบนแยกฝ่ามือออกและหันหน้าเข้าทีละข้าง ค้างไว้ประมาณ 30 วินาที แล้วค่อยลดมือลงและสลับไปทำขาอีกข้างTrick : ในช่วงระยะแรกหากยังทรงตัวไม่อยู่ หรือล้มบ่อยๆ ลองเปลี่ยนมาทำชิดกันผนังห้องดูก่อนโดยให้หลังติดกับผนังห้องเพื่อสร้างความสมดุลจนร่างกายคุ้นชินแล้วค่อยๆ ขยับออกมานะคะ 2. ท่าสุนัขก้มหน้า (Downward Facing Dog)เริ่มจากท่าคลาน วางเข่าและมือบนพื้น โดยจัดระเบียบร่างกายให้เข่ากว้างเท่าช่วงสะโพก มือสองข้างวางกว้างเท่าช่วงไหล่ กางนิ้วให้กว้าง หลังตรงไม่เกร็งไหล่หายใจออกแล้วดันเข่ายกขึ้นทั้ง 2 ข้าง ทำให้ร่างกายอยู่ในรูปตัว V หัวกลับ แขนและขาเหยียดตรง พยายามกดส้นเท้าให้ติดพื้นหากขาตึงเกินไปสามารถงอเข่าได้เล็กน้อย ค้างไว้ 3 ลมหายใจเข้าออก กลับไปสู่ท่าเริ่มต้นแล้วทำซ้ำTrick : การทำท่าสุนัขก้มในครั้งแรกๆ เท้าทั้งสองข้างของเราอาจจะค่อยเลื่อนถอยออก ขอแนะนำให้เพื่อนลองปูเสื่อติดกับผนังห้อง แล้วจัดวางเท้าให้ห่างจากผนังห้องเล็กน้อย3. ท่าตรีโกณ (Triangle Pose)ยื่นแขนทั้งสองข้างขนานกับพื้น ยืนแยกขาให้มีระยะห่างประมาณไหล่ เท้าขวาหันออกไปด้านข้าง 90 องศา เท้าซ้ายหันออก 45 องศาจากนั้นยืดแขนขวาเอามือลงแตะพื้นปลายนิ้วอีกข้างยืดขึ้นไปและหันมองที่เพดานค้างไว้ 5 ลมหายใจเข้าออก กลับมายืนตรงและสลับทำอีกข้างTrick : หากไม่สามารถเอาปลายนิ้วแตะพื้นได้ ลองเริ่มจากแตะหลังเท้า หรือบริเวณตาตุ่มก่อนก็ได้ค่ะ4. ท่างู (Cobra Pose)เริ่มจากนอนให้ใบหน้าราบลงกับพื้น วางฝ่ามือข้างหน้าอกให้มีระยะห่างเท่ากับไหล่ทั้งสองข้าง ขายืดตรงไปด้านหลังโดยให้หลังเท้าแนบกับพื้นจากนั้นหายใจเข้าแล้วใช้แขนดันตัวขึ้นจนลำตัวด้านบนไม่สัมผัสพื้น เงยหน้าขึ้น กดไหล่ลงให้ห่างจากหูค้างไว้ 15-30 วินาที ระหว่างทำให้หายใจเข้าออกตลอดเวลา คลายท่ากลับไปท่าคว่ำเหมือนเดิมแล้วกลับมาทำซ้ำTrick : ในครั้งแรกๆที่พลังแขนของเรายังไม่มากพอที่จะดันลำตัวด้านบนให้ลอยเหนือพื้นได้ เราอาจจะไม่ดันให้แขนตึงจนเกินไปและดันลำตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยก่อน5. ท่านั่งบิดตัว (Seated Twist)นั่งบนพื้นแยกขา โดยยืดขาขวาให้ตรงชี้เข่าซ้ายไปบนเพดานวางข้อศอกซ้ายไว้ด้านนอกของเข่าขวาและแขนขวาบนพื้นด้านหลังติดกับตัว พยายามบิดไปทางขวาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เกร็งก้นให้ติดกับพื้น ทำเช่นนี้ค้างไว้ 1 นาที เสร็จแล้วให้เปลี่ยนไปทำอีกข้างTrick : ท่านี้ไม่ยากแต่มีประโยชน์มากๆค่ะ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ช่วยกระตุ้นอวัยวะภายในร่างกายโดยเฉพาะระบบย่อยอาหาร ช่วยนวดลำไส้เพราะการบิดลำตัวของเรานั่นเองค่ะ6. ท่าเก้าอี้ (Chair Pose)ยืนตัวตรงแยกขาทั้งสองข้างเล็กน้อย แยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะและพนมมือไว้จากนั้นค่อยๆย่อเข่าลงช้าๆ ดันสะโพกไปด้านหลังคล้ายกันการนั่งเก้าอี้พยายามไม่ให้หัวเข่าเลยปลายเท้าทำค้างไว้ 30-60 วินาที จากนั้นคลายท่าและทำซ้ำTrick : ใครที่มีปัญหาเข่าแล้วทำท่านี้ได้ลำบาก ลองเอนหลังชิดผนังห้อง แล้ววางเท้าห่างจากผนัง 1ช่วงเท้าแล้วค่อยๆ ยกแขนขึ้น ย่อตัวลงโดยใช้ผนังหนุนด้านหลังแทน และไม่ต้องย่อลงเยอะเอาเท่าที่เรารับได้ก็พอค่ะ7. ท่านักรบ (Warrior Pose)ยืนตรงเท้าชิดกัน แยกเท้าทั้งสองออกจากกัน 3-4 ฟุต โดยที่ส้นเท้าวางอยู่ในระนาบเดียวกันบิดเท้าขวาไปข้างหน้า 90 องศา และเท้าซ้ายบิดตามเล็กน้อย พยายามให้ฝ่าเท้าทั้งสองข้างแนบไปกับพื้นจากนั้นบิดลำตัวและสะโพกไปด้านหน้า (ด้านเดียวกับเท้าขวา) หายใจเข้าพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างเหยียดตรงขึ้นเหนือศีรษะหายใจออกพร้อมกับกดสะโพกลงค่อยๆย่อขาขวา ให้หัวเข่าขวาอยู่ตำแหน่งเดียวกันกับข้อเท้าขวา ส่วนเข่าซ้ายยืดตรงยืดแขนและช่วงตัวให้ตึงมากที่สุด ค้างไว้ หายใจเข้าออกลึกๆและยาวๆประมาณ 30 วินาที เมื่อครบแล้วให้หายใจเข้าและยกตัวขึ้น หายใจออกเอามือลง บิดลำตัวกลับมาในตำแหน่งเดิมTrick : ผู้ที่มีอาการปวดหลัง สะโพก หรือเข่าควรจะทำอย่างระมัดระวัง อย่าฝืนตัวเองจนเกินไป ย่อตัวลงเท่าที่ร่างกายพอรับได้นะคะท่าโยคะ 7 ท่าที่นำมาฝากเป็นท่าพื้นฐานที่ไม่ยากจนเกินไปใช่ไหมคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเริ่มฝึกโยคะกันนะคะ ค่อยๆฝึกทำไปที่ละท่า การมีพื้นฐานที่ดีทำให้เราสามารถฝึกท่ายากต่อไปได้ง่ายขึ้น ขอให้ทุกคนสนุกกับการเล่นโยคะและมีสุขภาพที่แข็งแรง โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายมาก แต่ช่วงนี้ไม่กล้าออกไปออกกำลังกายนอกบ้างกับเพื่อนๆ ซักเท่าไหร่ ก็เลยหันมาเล่นโยคะเหมือนกันค่ะ จึงนำประสบการณ์มาแชร์เพื่อนๆ แล้วเราจะสุขภาพดีไปพร้อมๆกันนะคะภาพทั้งหมดจาก pexelsภาพปก Eternal Happiness / ภาพที่ 1 Burst / ภาพที่ 2 Elina Fairytale / ภาพที่ 3 Polina Tankilevitch ภาพที่ 4 Elina Fairytale / ภาพที่ 5 Cliff Booth / ภาพที่ 6 Elina Fairytale / ภาพที่ 7 Elina Fairytale/pexels🩺 อัปเดตคอนเทนต์เพื่อสุขภาพได้ก่อนใครที่คอมมูนิตี้ TrueID Community ได้เล้ย 🏃🏻♀️✨เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !