เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผู้เขียนได้มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ชุมชนจากสาหร่ายขนนกและกลุ่มผู้จัดจำหน่าย และผลิตภัณฑ์ชุมชน “ของเด่นพื้นที่ ของดีพื้นถิ่น” ของจังหวัดกระบี่ ณ วิสาหกิจชุมชนการเพาะเลี้ยงสาหร่ายขนนกกระบี่ ตำบลตลิ่งชัน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ซึ่งผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เป็นพระเอกในงานก็คือ สาหร่ายขนนก หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า สาย สาหร่ายขนนกนี้เป็นทรัพยากรล้ำค่าจากทะเล ซึ่งพบแพร่กระจายทั่วไปบริเวณชายฝั่งทะเลภาคใต้ และจะพบมากในฤดูร้อน การขนส่งก็ทำได้ยาก เพราะลักษณะของสาหร่ายจะเป็นถุงน้ำ เมื่อได้รับการกระทบกระเทือนก็จะทำให้ถุงน้ำแตก ทำให้สาหร่ายเสียรูปทรงได้และสูญเสียรสชาติความอร่อยไปด้วยโดยส่วนตัวของผู้เขียนนั้นเคยรับประทานสาหร่ายขนนกมาตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นคนในพื้นที่ภาคใต้ ของจังหวัดกระบี่ ปกติแล้วสาหร่ายขนนกสามารถหาซื้อได้ง่ายๆ ในตลาดสดทั่วไป การนำสาหร่ายขนนกมารับประทานนั้น ส่วนมากจะนำมาเป็นเครื่องเคียงที่รับประทานคู่กับแกงเผ็ด เช่น นำมาจิ้มน้ำพริก นำมารับประทานคู่กับขนมจีน นำเป็นมาเป็นผักเหนาะกับแกงเผ็ดต่างๆ เพื่อดับอาการเผ็ดร้อนที่เกิดจากแกง หรือนำมาใส่ยำต่างๆ ก็ได้ สำหรับประโยชน์ของสาหร่ายขนนก ได้แก่ ป้องกันมะเร็ง มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมายที่ร่างกายต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นสาหร่ายขนนกยังสามารถนำมาทำเวชสำอางได้มีเทคนิคการถนอมสาหร่ายขนนกให้สามารถรับประทานได้นานขึ้น หากไม่สามารถรับประทานหมดภายในมื้อเดียวที่ผู้เขียนใช้เป็นประจำก็คือ นำสาหร่ายขนนกมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำจืดในปริมาณที่จะรับประทานในขณะนั้นเท่านั้น ส่วนที่เหลือหากยังไม่รับประทานก็ยังไม่ต้องล้างก่อน สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะสาหร่ายขนนกที่โดนน้ำจืดแล้วทิ้งไว้สักพักใหญ่ๆ ถุงน้ำจะเกิดอาการฝ่อหรือแตก ซึ่งจะทำให้สาหร่ายขนนกเหี่ยวลงและไม่น่ารับประทาน แต่ถ้ายังไม่โดนน้ำจืดก็สามารถอยู่ได้นาน และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ห้ามแช่ในตู้แข็ง เพราะน้ำในตู้เย็นก็เป็นน้ำจืด แช่ไปสาหร่ายขนนกเหี่ยวแน่นอนเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า สาหร่ายขนนกสามารถนำมารับประทานเป็นเครื่องเคียงพร้อมแกงเผ็ดได้ แต่ภายในงานวันนั้นทางร้าน โทบิโกะ นำสาหร่ายขนนกมาดัดแปลงเป็นเมนูหนึ่งของทางร้านก็คือ ปลาช่อนทะเลห่อสาหร่ายขนนก โดยนำเนื้อปลาช่อนทะเลมาหั่นเป็นแผ่นบางๆ มาห่อสาหร่ายขนนกและเสียบด้วยไม้โดยมีพริกและกระเทียมอยู่ด้วยกัน การรับประทานก็นำมาจิ้มกับน้ำจิ้มเฉพาะของทางร้าน ซึ่งผู้เขียนก็ได้ลองรับประทาน ปรากฎว่ารสชาติอร่อยมาก เป็นความอร่อยแบบซูชิที่มีความกรุบกรอบของสาหร่ายขนนก พร้อมด้วยน้ำจิ้มที่ขับรสชาติให้เด่นชัดมากขึ้น ซึ่งจากการสอบถามน้องๆ ที่มาออกบูธภายในงานได้ข้อมูลมาว่า สาหร่ายขนนกที่ทางร้านนำมาใช้นั้น เป็นสาหร่ายขนนกที่เกษตรกรเพาะเลี้ยงโดยผ่านการควบคุมความสะอาดเป็นอย่างดี ไม่มีสารปนเปื้อนอื่นใดอย่างแน่นอนนอกจากนั้น ภายในงานยังมีผลิตภัณฑ์ที่สร้างความน่าสนใจและน่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งก็คือ น้ำชาสาหร่ายขนนก ลักษณะภายนอกมีสีน้ำชาแต่สีเข้มกว่า ก่อนที่ผู้เขียนจะดื่มก็ลองดมดูก่อน ก็มีกลิ่นของสาหร่ายขนนก และเมื่อดื่มเข้าไปก็ยิ่งสัมผัสถึงรสชาติของสาหร่ายขนนกอย่างแท้จริง นอกจากผลิตภัณฑ์อาหารแล้ว ภายในงานยังแสดงให้เห็นว่าสาหร่ายขนนกสามารถนำมาทำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้อีกด้วยMika klare เป็นผลิตภัณฑ์เจลดูแลสภาพผิวหนังหลังจากออกแดด ผลิตจากกสารสกัดจากสาหร่ายขนนก มีคุณสมบัติบำรุงผิวและช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดด ลดการอักเสบและสามารถกระตุ้นกลไกการซ่อมแซมผิวหนัง ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นและชะลอการเกิดริ้วรอย ผลิตภัณฑ์นี้ อยู่ใน กระบี่ Krabi Goes Green วิสาหกิจชุมชนสาหร่ายขนนกกระบี่ผงปรุงรสสาหร่ายขนนก บรรจุภัณฑ์เป็นกล่องซึ่งภายในกล่องมีเป็นซอง 30 ซอง ซึ่งผงปรุงรสสาหร่ายขนนกสามารถใช้แทนเกลือได้ เพราะมีความเค็มเช่นกัน แต่มีความกลมกล่อมมากกว่า เพราะนอกจากความเค็มที่ได้จากทะเลแล้ว ยังมีความกลมกล่อมที่ได้จากสาหร่ายขนนกอีกด้วย เพราะความเค็มที่ได้จะไม่เค็มโดดเหมือนกับเกลือทั่วไปสบู่สาหร่ายขนนก สูตรสะอาดลึกล้ำ และสูตรอ่อนโยนกระจ่างใส ทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น กระจ่างใส ชะลอวัย เพราะสบู่สาหร่ายขนนกมีส่วนผสมของสาหร่ายขนนก น้ำผึ้งและสมุนไพรที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ครีมกันแดดสาหร่ายขนนก ช่วยป้องกันผิวหนังจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดซึ่งเป็นคุณสมบัติทั่วไปของครีมกันแดด นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคผิวหนังอีกด้วย จะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้สาหร่ายขนนกของจังหวัดกระบี่ได้รับความสนใจทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยในส่วนของภาครัฐได้ให้การสนับสนุนทั้งเรื่องการให้ความรู้ในการเพาะเลี้ยงสาหร่ายขนนกโดยกำหนดมาตรฐานความสะอาดภายใต้สิ่งแวดล้อมที่สามารถควบคุมได้ เพื่อยกระดับมาตรฐานของสาหร่ายขนนกขึ้นเป็นเมนูต่างๆ ในร้านอาหารระดับสากล ซึ่งในขณะนี้ร้านโทบิโกะก็นำสาหร่ายขนนกมาดัดแปลงเป็นหนึ่งในเมนูของทางร้าน ซึ่งนับเป็นก้าวแรกที่สดใสของสาหร่ายขนนก ส่วนในภาคเอกชนก็ให้ความร่วมมือกับภาครัฐเป็นอย่างดี และเปิดโอกาสให้สาหร่ายขนนกเป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไปมากขึ้น ซึ่งผู้เขียนคิดว่าต่อไปในอนาคตสาหร่ายขนนกจะสามารถเพิ่มมูลค่าได้อีกมากมายและเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในท้องถิ่นสามารถสร้างรายได้และพึ่งตนเองได้ในอนาคตภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียนอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !