เชื่อว่าหลายๆ คงเคยผ่านประสบการณ์บริจาคเลือดครั้งแรกมาแล้ว ยังจำครั้งแรกที่เราบริจาคเลือดได้ไหม ว่ามีเหตุการณ์ใดที่เราต้องไปบริจาคเลือด หรือว่ารู้สึกยังไงตอนบริจาคเลือดครั้งแรก วันนี้ NamPla จะมาย้อนแชร์ประสบการณ์ครั้งแรกของการบริจาคเลือด ให้เพื่อนๆ ได้รู้กันค่ะ ว่าการบริจาคเลือดไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย การบริจาคเลือดครั้งแรก เกิดจากการขอความช่วยเหลือของหัวหน้างาน ญาติผู้ใหญ่ป่วย และต้องการใช้เลือดจำนวนมาก โดยขอความช่วยเหลืออย่างสมัครใจ ตอนนั้นสองจิตสองใจ เพราะ ความกลัว การเริ่มต้นกระทำการใดๆ ก็ตาม เชื่อว่าในจิตใจทุกคนคือความกลัว ไม่เคยทำ ไม่มีประสบการณ์ กลัวเจ็บ กลัวเข็ม สรุปคือกลัว.... แต่อีกใจหนึ่ง คือ ต้องการช่วยเหลือคน การตัดสินใจสุดท้ายของเราคือความต้องการช่วยคนชนะความกลัว จึงทำให้เกิดประสบการณ์บริจาคเลือดครั้งแรกค่ะ การบริจาคเลือดครั้งเกิดขึ้นครั้งแรกในโรงพยาบาลของรัฐประจำจังหวัด ใจเต้นมือเย็นตั้งแต่ลงรถ ความไม่รู้ย่อมตื่นกลัวเป็นของคู่กัน แต่เจ้าหน้าที่ในห้องเลือดที่เจอ น่ารักมากค่ะ ทำให้ผ่อนคลายไปได้เยอะ มาเริ่มด่านเริ่มต้นความสุข ความอิ่มเอมใจ ที่เราต้องฝ่าฟันกันจนค้นเจอเลยค่ะ กรอกข้อมูลในใบสมัครผู้บริจาคโลหิต ทั้งผู้บริจาคครั้งแรก และผู้บริจาคประจำ โดยข้อมูลที่เราต้องกรอก ประกอบไปด้วย ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลสุขภาพ ตรงนี้ต้องตอบตามเป็นจริงมากที่สุดนะคะ ข้อมูลสุขภาพทั่วไป ข้อมูลการตั้งครรภ์ การมีเพศสัมพันธ์ ความเสี่ยงการติดเชื้อ จากนั้นยื่นให้เจ้าหน้าที่ค่ะ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลที่เรากรอกไปแล้ว "ผ่าน" ก็สามารถดำเนินการต่อไป คือวัดความดันค่ะ ความดันปกติเราถึงจะผ่านด่านต่อไปได้ ด้วยความตื่นเต้น ความดันทุรันสูง เจ้าหน้าที่จะให้พักสงบจิตใจ หากยังพบว่าสูงหรือต่ำเกินไป สิ้นสุดด่านตรงนี้ทันทีค่ะ ตรวจหากรุ๊ปเลือด ความเข้มข้นของเลือดค่ะ ต้องอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถบริจาคเลือดได้โดยของผู้หญิง จะต้องอยู่ระหว่าง 12.5 - 16.5 กรัม ต่อเดซิลิตร ของผู้ชาย ระหว่าง 13.0 - 18.5 กรัม ต่อเดซิลิตร (ข้อมูลจาก ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย) หลังจากความเข้มเลือดผ่านแล้วรอขึ้นเตียงได้เลยค่ะ ในระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่แนะนำให้เราดื่มน้ำค่ะ จัดไป 2 แก้ว นั่งรอด้วยความตื่นเต้น พอถึงคิวเราแล้ว อุปกรณ์เจาะเลือด ถุงเลือดพร้อม เจ้าหน้าที่จะเรียกเราเลือกเตียงที่ชอบ แล้วขึ้นไปนั่งรอได้เลยค่ะ ตอนที่บริจาคเลือดครั้งแรกยังเป็นเตียงนอน แต่ตอนนี้เป็นเก้าอี้ปรับเอนสบายมากค่ะ จะเจอเป็นเตียงอีกทีก็ตอนที่เราไปบริจาคตามจุดรับบริจาคโลหิตที่กาชาดเค้าออกหน่วยรับบริการกัน ตรงนี้เจ้าหน้าที่จะสอบถามว่า เราอยากเจาะข้างไหน โดยเราได้รับคำแนะนำว่า ให้เจาะข้างที่เราไม่ถนัด ได้ลูกบอลให้กำไว้ ให้เลือกสีได้ด้วยนะคะ แต่อารมณ์ ณ เวลานั้น สีไหนก็ได้!! จากนั้นรัดสายรัด แล้วหาเส้นเลือดที่จะทำการลงเข็มค่ะ ส่วนตัวเจอแต่เส้นริมค่ะ เส้นแห่งความบอบบาง ช้ำง่าย เจาะยาก เค้าบอกมา ตั้งแต่บริจาคเลือดมาเคยช้ำอยู่แค่สองครั้ง เห็นเข็มแล้วมันหยุดมองไม่ได้จริงๆ ตะลึงไปกับรูเข็ม พอหาเส้นเลือดลงเข็มได้ก็จัดการค่ะ ขอบอกว่าโชคดีมากเจ้าหน้าที่มือเบามาก นอกจากได้ยินเสียงจากเข็มสัมผัสเนื้อเราแล้วไม่เจ็บเลย นี่ดูตั้งแต่ ดึงเข็มออก หาเส้น แทงเข็ม มั่นใจว่ากลัวนะ แต่อดดูไม่ได้จริงๆ จากนั้นเจาะเลือดเพื่อเก็บตัวอย่างเลือดค่ะ เก็บตัวอย่างได้แล้ว ก็เริ่มบีบลูกบอลเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดเลยจ้า ความตื่นเต้นที่หวาดกลัว มันกลายเป็นเราเริ่มคิดว่า เลือดของเราจะได้ไปช่วยคนอื่นใช่มั้ย? มันรู้สึกภูมิใจ ที่เราฝ่าความกลัวที่เราสร้างขึ้นมา พอเลือดได้ตามกำหนด เจ้าหน้าที่จะมาดึงเข็มออกให้เรานะคะ เคยมีคนบอกว่า เจ็บตอนเจาะกับตอนดึงเข็มออก แต่นี่ไม่รู้สึกเจ็บขนาดนั้น จากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้เราพักบนเตียงก่อนนะคะ อย่าหุนหันพลันแล่นลงจากเตียง เพราะเคยไปบริจาคเลือดครั้งหนึ่งมีผู้บริจาครีบลุกลงจากเตียงเกิดอาการหน้ามืด พร้อมกับมีเลือดที่ยังไม่หยุดไหล เจ้าหน้าที่แตกตื่นกันทั้งห้องค่ะ พักจนเรามั่นใจว่าไม่มีอาการใดๆ ลุกจากเตียงได้ มานั่งพักจุดที่เจ้าหน้าที่จะเตรียมน้ำหวาน นม ขนมไว้ให้ทานนะคะ พร้อมกับยาบำรุงเลือด ไว้ทานวันละ1 ครั้ง/เม็ด ในระหว่างที่เรานั่งทานของว่างที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ ความรู้สึกสุขใจ และเริ่มคิดว่า ต่อไปนี้ชั้นจะทำบุญด้วยการบริจาคโลหิตอีกทางหนึ่ง เสร็จแล้วก่อนกลับเจ้าหน้าที่จะมอบบัตรประจำตัวผู้บริจาคโลหิตให้เรานะคะ ตอนนั้นจำไม่ได้แล้วว่าได้รับเข็มบริจาคเลือดครั้งแรกเลยหรือว่าทางสภากาชาดไทยจัดส่งมาให้เราที่บ้าน แต่ว่าได้รับแน่นอนค่ะ ในส่วนของบัตรประจำตัวผู้บริจาคโลหิต ได้บัตรสีชมพูมา ตอนแรกแอบคิดไปเองว่าทุกคนคงต้องได้สีเดียวกัน แต่พอไปออกบริจาคเลือดตามหน่วยรับบริจาค ที่คนมาเยอะๆ เห็นของแต่ละคนแต่ละสีจนไปหาข้อมูลได้ว่าบัตรสีชมพูที่Nampla ได้ เป็นของผู้บริจาคเล็อด กรุ๊ป Bบัตรสีเหลือง เป็นของผู้บริจาคเล็อด กรุ๊ป Aบัตรสีฟ้า เป็นของผู้บริจาคเล็อด กรุ๊ป Oบัตรสีขาว เป็นของผู้บริจาคเล็อด กรุ๊ป AB ตั้งแต่วันแรกที่บริจาคเลือดเป็นต้นมา Nampla ก็ได้ตั้งใจไว้ว่าจะทำบุญด้วยเลือดของเรานี่แหละ ก็บริจาคเลือดมาเรื่อยๆ พยายามทำตามเงื่อนไขของผู้บริจาคให้ครบ หลังบริจาคทานยา ก็จะมีเหตุฉุกเฉินขลุกขลัก ที่ทำให้ไม่สามารถบริจาคเลือดได้ ไม่ว่าจะเป็นความเข้มข้นของเลือดไม่ผ่าน กินยารักษาโรค ฯลฯ บางปี ไม่สามารถบริจาคเลือดได้เลย ในกรณีความเข้มข้นของเลือดไม่ผ่าน เจ้านี้จัดยาให้ไปทานค่ะ 3 เดือน มาเจอกันอีกรอบ อีกสิ่งหนึ่งที่จะทำก่อนบริจาคเลือด จะถามเพื่อนๆ ก่อนว่า ถึงรอบที่ต้องบริจาคแล้ว มีญาติหรือใครที่ต้องการเลือดไหม? จะขอชื่อของผู้ป่วย เพื่อระบุในข้อมูลก่อนบริจาค และในบางโอกาส เพื่อนๆ ก็จะทักมาว่าครบรอบบริจาคเลือดหรือยัง ขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งข่าวร้ายก็มา คือวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ได้เวลาไปบริจาคเลือดรอบที่ 27 หลังจากกรอกข้อมูลแล้ว เจ้าหน้าที่เช็คข้อมูลของเรา นั่งรอนานมาก เจ้าหน้าที่ขอทั้งบัตรประจำตัวผู้บริจาคโลหิต บัตรประชาชน ตีย์ข้อมูลซ้ำๆ ได้รับการแจ้งว่าไม่สามารถบริจาคโลหิตได้ เพราะว่าตรวจเจอไวรัสตับอักเสบ B ข้อมูลปรากฎขึ้นมาในระบบ ทั้งห้อง เงียบ...........! จนเจ้าหน้าที่บอกเราว่า เดี่ยวขอเช็คให้อีกทีค่ะ เช็คแล้วเช็คอีก "B" ยังคงอยู่ อาการ ใจเต้นมือเย็น ตอนที่บริจาคเลือดครั้งแรก ปรากฎมาอีกครั้ง คำถามมากมายเต็มหัว ปากคำก็ออกมาจากปาก แต่คำตอบที่ยืนยันและจำได้แม่น ข้อมูลปรากฎแล้วจะไม่สามารถบริจาคได้อีก ซึ่งเสี่ยงต่อผู้รับ และนัดแนะว่าอาทิตย์ถัดไปให้เข้ามาตรวจผลเลือดอีกครั้ง จากผลการตรวจเลือดออกมา สรุปแล้ว Nampla ไม่สามารถบริจาคเลือดได้อีกแล้ว เนื่องจากความเสี่ยงต่อผู้รับเลือด ถึงแม้ผลการตรวจจะไม่พบเชื้อนั้นแล้ว แต่ยังคงมีเชื้อแฝงอยู่ซึ่งอาจแพร่สู่ผู้อื่นได้ ต้องงดบริจาคเลือด และปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจติดตามภาวะของโรค ก็ต้องไปตรวจเลือดทุก 6 เดือน และปฏิบัติตามที่หมอแนะนำ ตอนแรกรู้สึกเศร้าใจกับโอกาส แต่ตอนหลังเรายังมีวิธีทำบุญแบบอื่น ได้อีก แค่เราคิดจะเป็นผู้ให้ และเรารักษาสุขภาพให้ดี มีแรงที่จะทำ สรุปการบริจาคเลือดของ Nampla จบลงตรงครั้งที่ 26 ยังได้เข็มไม่ครบ 2 เข็ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็แนะว่าให้เข้าไปถามที่โรงพยาบาลที่บริจาคประจำเรื่อยๆ ในวันนี้ มาแชร์ประสบการณ์การบริจาคเลือดครั้งแรก และเหตุผลด้วยว่า เสียผู้บริจาคประจำไปแล้ว 1 คน Nampla เลยเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อประสงค์ให้ผู้ที่สนใจ และได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ สนใจไปบริจาคเลือดเพิ่มขึ้น อย่างน้อย 1 คน หรือ มากกว่ายิ่งยินดี ถือเป็นการบอกบุญแก่เพื่อนๆ นะคะ ข้อมูลการบริจาคเลือดสภากาชาดไทยศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ข้อมูลบัตรประจำตัวผู้บริจาคโลหิต https://web.ku.ac.th/saranaroo/chap5a.htmภาพปกและภาพประกอบโดยผู้เขียน: Namplaเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !