เคยได้ยินกันมาบ้างไหมว่า “ ถ้าท้องลูกชายแม่จะหน้าหมองคล้ำและเป็นสิว” ตลอดเวลาที่เราตั้งท้องเราไม่เคยเชื่อกับพูดเหล่านี้เลยเพราะว่าเราเชื่อในหลักความเป็นจริงมากกว่า เนื่องจากเราท้องลูกชายและเป็นลูกชายคนที่ 2 ของเราด้วยในช่วงที่เราตั้งท้องมาจนเราใกล้คลอด หน้าเราไม่เคยเป็นสิวหรือว่าหมองคล้ำเลยอาจเป็นเพราะเราดูแลตัวเองดีและเราทำงานเกี่ยวกับพวกผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงามด้วย เราเลยไม่เคยขาดการบำรุงผิวหน้าเราเลยใบหน้าเราตอนท้องจึงไม่ได้สร้างความกังวลให้เราเท่าไหร่ และมีแต่คนทายว่าเราจะได้ลูกสาวก่อนที่เราจะรู้เพศของลูกในท้องพอทุกคนรู้ว่าเราท้องลูกผู้ชาย ก็ต่างตกใจกันเพราะพวกเค้าเชื่อในคำที่ว่า “ ถ้าท้องลูกชายแม่จะหน้าหมองคล้ำและเป็นสิว” นั้นเอง สำหรับเราตอนท้องลูกชายคนแรกเรื่องผิวและหน้าก็ไม่ใช่ปัญหาของเรา มีแค่เรื่องน้ำหนักที่เป็นปัญหาใหญ่เพราะท้องแรกน้ำหนักขึ้นมา 25 กิโลกรัม และไม่เคยกำจัดมันออกไปจากชีวิตได้เลยกับน้ำหนักที่เกินมามันมีแต่จะขึ้นอย่างเดียวไม่ยอมลดให้เลยก็ว่าได้ ส่วนท้องลูกชายคนที่ 2 ไม่กังวลเรื่องอะไรเลยนอกจากกลัวลูกจะไม่แข็งแรงหรือสมบูรณ์เพราะเป็นคนมีรังไข่ข้างขวาแค่ข้างเดียว อีกข้างคือต้องตัดทิ้งเพราะเป็นก้อนเนื้อหลังจากผ่าคลอดลูกชายคนแรกได้ประมาณ 7 – 8 ปี แต่ก็ใช่ว่าสิวจะไม่บุกเราแม้ว่าตอนท้องไม่เป็นแต่ตอนผ่าคลอดลูกคนที่ 2 ได้ประมาณ 1 เดือนสิวที่ไม่เคยเป็นก็ขึ้นมาเป็นผดเต็มช่วงบริเวณคางของเรา แล้วเรายอมรับเลยว่าเราเป็นคนมือซนมากเวลาเห็นสิวจะชอบบีบชอบแกะผลของมันคือถ้าบีบไม่ออกสิวธรรมดาก็กลายเป็นสิวอักเสบขึ้นมาทันที จากที่มันขึ้นมาแค่ 2 – 3 เม็ดหลังจากเราทั้งแกะและบีบมันขึ้นมาเรื่อย ๆ และไม่นานก็รามขึ้นมาเต็มคางและลำคอเรา คือกลุ้มใจมากเพราะเข้าใจอารมณ์คนไม่เคยเป็นสิวเยอะไหมคือแบบปกติถ้าสิวขึ้นจะมาเต็มที่แค่ 1- 2 เม็ดเวลาก่อนเป็นรอบเดือนเท่านั้น แต่นี่คือมาแบบเต็มที่ขึ้นแล้วขึ้นอีกจนเราเริ่มกังวลขึ้นเรื่อย ๆ แต่จะไปหาหมอเพื่อรักษาก็ยังทำไม่ได้เพราะตอนนั้นยังให้ลูกกินนมตัวเองอยู่ จึงค่อย ๆ รักษาไปด้วยวิธีธรรมชาติคืองดบีบและแกะมันเด็ดขาดและพยายามไม่ไปโดนหน้าบริเวณนั้น เพราะมือเราบางทีสกปรกพอไปโดนเหมือนยิ่งไปกระตุ้นให้สิวขึ้นมากไปอีก และพยายามล้างหน้าให้สะอาดหลังจากล้างหน้าจะเอาสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดทุกครั้ง แต่กลัวว่าจะทำให้ผิวหน้าแห้งเกินไปจึงใช้สำลีชุบน้ำต้มปล่อยให้เย็นแล้วเช็ดหน้าอีกครั้งหนึ่งและใช้ครีมบำรุงตาม หลังจากที่ล้างหน้า เช็ดหน้าด้วยน้ำเกลือ เช็ดตามด้วยน้ำต้มสุกปล่อยให้เย็น ประมาณ 2 เดือนกว่า ๆ สิวเริ่มน้อยลงแต่ยังไม่หายทั้งหมดยังมีขึ้นมาบ้าง แต่น้อยลงกว่าตอนที่เริ่มเห่อขึ้นมาใหม่ ๆ ใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือนกว่า ๆ สิวเริ่มหายไปอาจจะเป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายเริ่มปกติแล้ว เพราะคลอดลูกมาได้ 4 เดือนเกือบ 5 เดือนแล้วและประจำเดือนเริ่มกลับมาแล้ว แต่ผลของการมือซนชอบบีบชอบแกะก็ทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็นอย่างชัดเจนคือรอยสิว ลองนึกภาพเล่น ๆ ดูว่าเราเป็นสิวเยอะมากช่วงบริเวณคางมาจนถึงคอ แล้วเราทั้งแกะทั้งบีบเกือบทุกส่วนที่เป็นสิวแล้วริ้วรอยของสิวที่ทิ้งไว้จะมากขนาดไหน พอสิวหายก็ต้องมานั่งรักษารอยสิวต่อไปอีก แต่ดีหน่อยตอนรักษารอยสิวลูกไม่ได้กินนมเราแล้วเราสามารถใช้พวกครีมที่รักษารอยสิวได้แล้ว มันเลยหายเร็วกว่าตอนรักษาสิวใช้เวลารักษารอยสิวประมาณ 1 เดือนแต่ก็ยังต้องทำความสะอาดผิวหน้า และบำรุงผิวหน้าอีกหลายขั้นตอนเหมือนเดิมเพื่อทำให้เชื้อสิวหายขาดและไม่กลับขึ้นมาอีก ปัจจุบันหน้าเริ่มดีขึ้นแต่ก็ยังมีสิวขึ้นบ้างเล็กน้อยเหมือนที่เคยผ่านมาคือจะมีสิวขึ้นเฉพาะก่อนเป็นรอบเดือน แต่พอเริ่มต้องใส่หน้ากากอนามัยเวลาไปทำงานทุกวันตอนนี้เหมือนจะเริ่มเป็นสิวเสี้ยนและสิวหัวดำขึ้นมาบ้าง เพราะด้วยเหงื่อที่อบอ้าวอยู่ภายในเลยต้องกลับมาดูแลผิวหน้าเป็นพิเศษอีกเพราะกลัวจะเป็นสิวแบบที่เคยเป็นอีก ยังไงใครที่มีปัญหาสิวแบบเราในช่วงหลังคลอดลูกลองทำตามเราดูอาจจะพอช่วยได้อยู่ค่ะ เครดิตภาพหน้าปกจาก Pixbay.com เครดิตภาพประกอบจากผู้เขียน