สวัสดีค่าเพื่อนๆ มีใครกำลังมองหาเครื่องหนีบผมหรือที่ม้วนผมกันอยู่ไหมคะ เพราะวันนี้เราจะมารีวิวเครื่องหนีบผมจากแบรนด์ Vivid and Vogue ซึ่งสามารถใช้หนีบผมและม้วนผมได้ในเครื่องเดียวค่ะ เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินชื่อน้องผ่านหูมากันบ้างใช่ไหมคะ เพราะแบรนด์นี้เค้าดังอยู่พอสมควรเลย จริงๆเรารู้จักแบรนด์นี้เพราะเครื่องม้วนผมของเค้าค่ะ (เดี๋ยวจะมารีวิวครั้งหน้า) แต่ด้วยความที่เราชอบไว้ผมสั้นประบ่า ก็เลยสนใจที่หนีบผม เพราะคนผมประบ่าน่าจะประสบปัญหาเดียวกันคือ ผมเป็ด ไม่สามัคคี และชี้ไปคนละทิศคนละทางใช่ไหมคะ วันนี้เราเลยก็เลยจะมารีวิวคุณสมบัติของเครื่องหนีบผมนี้กันค่ะเราซื้อจากแอปส้มก็คือ Shopee นั่นเองค่ะ แต่แนะนำให้ซื้อจากร้านที่เป็น Official นะคะ จะได้มั่นใจว่าได้ของแท้ และร้านเค้ายังมีรับประกันเครื่องให้ด้วยค่ะ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 500-600 บาทนะคะ แล้วแต่ร้าน ถ้าใครมีโค้ดลดราคาก็สามารถใช้ได้ตามอัธยาศัยเลยมาถึงวิธีการใช้งานกันบ้างค่ะ ต้องบอกก่อนว่าน้องมี 2 โหมด คือหนีบผมตรง การใช้งานเหมือนเครื่องหนีบผมทั่วไปเลย ที่ตัวเครื่องน้องจะมีตัวล็อกอยู่ค่ะ (แปะภาพไว้ให้) ถ้าอยากหนีบผมตรง ก็ดันตัวล็อกไปตรง STRAIGHT เครื่องก็จะอ้าออกและสามารถหนีบผมได้ค่ะ สามารถปรับอุณหภูมิได้นะคะ โดยกดตรงเครื่องหมาย + และ - ที่ตัวเครื่อง ก็สามารถเพิ่ม-ลดอุณหภูมิได้ตามต้องการเลย และเครื่องก็ร้อนเร็วด้วย ไม่ต้องรอนานค่ะม้วนผมหรือหวีผมค่ะ เราก็ดันตัวล็อกให้ไปทาง CURL ค่ะ น้องก็จะเป็นหวีกลมๆ สามารถใช้หวีและม้วนผมได้ค่ะ โหมดนี้ก็จะเหมาะกับสาวๆผมสั้นหรือผมประบ่าที่ประสบปัญหาผมเป็ดแบบเรานะคะ พอใช้น้องม้วนผมแล้ว ผมก็จะดูเข้าทรงสวยงามค่ะ และเวลาใช้น้องหวีผม ผมก็จะตรงสวยกว่าการใช้หวีปกติด้วยค่ะ โดยเราสามารถใช้หวีได้ตามปกติเลยค่ะ ตัวหนามสีดำนั้นไม่ร้อนค่ะ สามารถจับได้ (ตรงที่ร้อนจะเป็นแถบสีขาว)สำหรับเราก็ให้คะแนนเครื่องนี้ 10/10 ไปเลยค่า เพราะเค้าสามารถใช้งานได้หลายโหมด เหมาะกับทั้งผมสั้นและยาว ปรับอุณหภูมิได้ ร้อนเร็ว เสียบปลั๊กเปิดสวิตช์ไม่เกิน 5 นาที ก็สามารถใช้ได้เลย พกพาก็สะดวก น้ำหนักเบา สามารถพกไปต่างจังหวัดได้ค่ะ เพราะเราต้องสวยทุกที่ 5555 ถ้าใครสนใจก็ลองไปซื้อมาใช้กันดูน้า แบงค์ม่วง 1 ใบเท่านั้นเอง เราจะสวยไปด้วยกันค่ะเครดิตภาพ : ภาพถ่ายโดยผู้เขียน , ภาพปกตกแต่งโดยใช้ Canva💈💅 รีวิวบิวตี้ไอเทมเทรนด์แฟชั่นแบบอันลิมิเต็ดแวะมาแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “TrueID Women”