Work from Home อย่างไรให้ยังสวย! 5 เคล็ดลับหน้าสวยใส เผยความมั่นใจ ทะลุวิดีโอคอล
เมื่อพิษ Covid-19 ทำให้เราต้อง Work from home หรือทำงานจากที่บ้านกันสักระยะ สาวๆหลายคนก็คงจะเริ่มรู้สึกเซ็งๆ ออกข้างนอกไม่ค่อยได้ยังไม่เท่าไหร่ แต่ไม่มีรูปโพสต์ลงโซเชียลนี่สิเรื่องใหญ่ แถมต้องขุดรูปเก่ามาแก้ขัดไปก่อนยังไม่พอ ยังต้องคุยงานผ่านการวิดีโอคอลกันอีก ซึ่งภาพในวีดิโอคอลก็ไม่ได้มีฟิลเตอร์แบ๊วๆ มาใส่ให้เราแถมยังทำให้หน้าเราดูซีดเซียวเหมือนคนป่วยเข้าไปอีก จะปิดกล้องก็ไม่ได้เพราะลูกค้าก็เกิดคิดถึงอยากเห็นหน้ากันขึ้นมา โอ๊ย หลากหลายสารพันปัญหาขนาดนี้ ชวนให้สาวๆเสียความมั่นใจกันจริงๆ
เมิร์ซ เอสเธติกส์ ในฐานะผู้นำนวัตกรรมความงามจากเยอรมัน จึงชวน แพทย์หญิง อรุณี ทองอัครนิโรจน์ หรือ หมอออย แห่ง รมย์รวินท์ คลินิก แพทย์ความงามสาวสวยและยังเป็น 1 ใน 3 ทีมแพทย์ผู้ร่วมคิดค้นโปรแกรมผิวฉ่ำวาว Skin Radiance by Merz Aesthetics ด้วยเทคนิคพิเศษแบบ “Hourglass pattern” เพื่อผิวหน้าสดใส ดูอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดีให้เปล่งประกายอย่างมั่นใจ มาร่วมแชร์เคล็ดลับการดูแลผิวหน้าให้แข็งแรงและกระจ่างใส ในช่วงอยู่บ้าน จะวิดีโอคอลคุยงานหรือถ่ายคลิปลงโซเชียล สาวๆก็สามารถเผยความมั่นใจได้เต็มร้อย
แพทย์หญิง อรุณี ทองอัครนิโรจน์ จาก รมย์รวินท์ คลินิก กล่าวว่า “แม้สถานการณ์จะทำให้หลายคนต้องทำงานจากที่บ้าน อาจจะละเลยการดูแลที่เคยทำเพราะคิดว่าผิวไม่ได้พบเจอปัจจัยกระตุ้นใดๆ จากภายนอก แต่จริงๆ แล้วลองสังเกตสิคะว่าผิวอาจเกิดปัญหาต่างๆ ได้ ทั้งผิวแห้ง ดูไม่สดใส หรือใบหน้าเริ่มหมองคล้ำไม่กระจ่างใสเหมือนเคย ดังนั้นอย่ารอให้พบเจอปัญหาผิวเพิ่มมากขึ้น สาวๆ ควรเริ่มหาวิธีในการดูแลตัวเองให้ดี เพื่อประคับประคองให้ผิวดูดีอยู่เสมอและรอเวลาคลินิกเปิดเพื่อมาฟื้นฟูผิวอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง โดยช่วงนี้แม้จะไม่ได้ออกไปพบเจอใคร แต่สาวๆ หลายคนยังคงต้องประชุมและทำงานผ่านวิดีโอคอล แบบเห็นหน้ากับทีมหรืออาจจะเป็นลูกค้าที่ดูแล ซึ่งหากปล่อยให้ผิวหน้าหมองคล้ำหรือแห้งก็จะยิ่งทำให้ภาพที่ออกมาดูไม่สดชื่นและทำให้สาวๆเสียความมั่นใจ จนถึงขั้นอาจเกิดความเครียดได้ ดังนั้นหมอจึงมีคำแนะนำเพื่อเสริมความมั่นใจให้กับสาวๆง่ายๆ คือ ก่อนวิดีโอคอลสาวๆควรแต่งหน้าเบาๆ ทาลิปกลอสสีๆ สักเล็กน้อยให้ดูมีสีสัน และ เพื่อให้ผิวสวย สว่าง กระจ่างใส ฉ่ำวาวแบบสุขภาพดีให้กับผิว เราก็ต้องดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอกควบคู่ไปด้วย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราทุกคนจะผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกันด้วยดี อย่าลืมดูแลสุขภาพ และรอวันที่จะกลับมาฟื้นฟูผิวและดูแลตัวเองร่วมกันอีกครั้งเมื่อสถานการณ์ปกตินะคะ”
1. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้ผิวเสีย
เช่น แสงแดดที่ส่องผ่านจากทางหน้าต่าง ซึ่งจะทำให้ผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอยก่อนวัย หรือสภาพอากาศที่แห้งอย่างห้องแอร์ก็จะส่งผลให้ผิวของเราแห้งและเกิดปัญหาผิวตามมา ยังมีเรื่องของมลภาวะในอากาศหรือฝุ่นต่างๆ ความเครียดจากการทำงาน การเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน สิ่งเหล่านี้ล้วนอยู่ใกล้ตัวเราแม้อยู่ในบ้านและส่งผลให้ผิวของเราอ่อนแอ เกิดริ้วรอยและถุงใต้ตาได้ง่าย รวมทั้งแสงสว่างจากจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ ก็ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหมองคล้ำได้ จึงควรลดแสงสว่างของหน้าจอให้มากที่สุดหรือมีค่าศูนย์ เพื่อลดปัญหาผิวหมองคล้ำได้ถึง 80% และตั้งหน้าจอให้อยู่ในระดับสายตาเพื่อลดการเกิดเหนียงและริ้วรอยบริเวณคอ
2. ทาครีมกันแดดเสมอแม้อยู่ในบ้าน
สาวๆ หลายคนเข้าใจว่าอยู่บ้านไม่ต้องทาครีมกันแดดก็ได้ เพราะไม่ได้ออกไปโดนแสงแดดที่ไหน แต่จริงๆแล้วการทาครีมกันแดดไม่ใช่เพียงแค่การปกป้องผิวจากแสง UVA ที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย และ UVB ที่ทำให้ผิวหมองคล้ำจากแสงแดดที่ผ่านเข้ามาทางหน้าต่างเท่านั้น ยังต้องช่วยปกป้องผิวจากแสงของหน้าจอมือถือและคอมพิวเตอร์ด้วย ยิ่งช่วง Work from home ที่หลายคนอาจจะอยู่กับหน้าจอคอมหรือมือถือนานกว่าปกติ จะส่งผลให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย โดยควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า PA+++ และค่า SPF 30 เป็นอย่างต่ำ
3. ทำความสะอาดและบำรุงผิวอย่างถูกวิธี
ควรเช็ดผิวไปตามแนวรูขุมขนบนใบหน้า เช่น เช็ดจากบริเวณหน้าผากไปทางด้านข้างขมับ บริเวณใต้ตาเช็ดลงไปที่บริเวณกรอบหน้า ส่วนบริเวณกลางหน้าให้เช็ดไล่ลงจากระหว่างคิ้วจนถึงปลายจมูก และจากใต้จมูกจนถึงคาง โดยวิธีการเช็ดผิวหน้าแบบนี้จะทำให้ผิวสะอาดยิ่งขึ้นและไม่เกิดปัญหาเรื่องสิวอุดตันตามมา และควรล้างหน้าด้วยความอ่อนโยน และไม่ควรปล่อยให้ผิวแห้งจนเกินไปก่อนการบำรุงผิว ควรบำรุงหน้าด้วยเซรั่มหรือโลชั่น แล้วค่อยตามด้วยครีมบำรุงผิว เพื่อให้ผิวชุ่มชื่นและฉ่ำวาวยิ่งขึ้น และต้องไม่ลืมทาครีมกันแดดแม้ทำงานอยู่ที่บ้าน
4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวและดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ
เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและความกระจ่างใสให้กับผิวนั้น การบำรุงผิวภายนอกอย่างเดียวไม่เพียงพอต้องบำรุงผิวจากภายในด้วย อย่างการเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเลือกอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอีและวิตามินซี อย่างเช่น ฝรั่ง มะเขือเทศ อะโวคาโด และแอปเปิ้ลสีเขียว เป็นต้น เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความสดใสให้กับผิว รวมทั้งควรดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำที่มีแร่ธาตุที่จำเป็นอย่างเพียงพอวันละ 8-10 แก้วต่อวัน ก็จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวเราด้วยเช่นกัน
5. ปรับ Life Style ให้ดีและมีคุณภาพ
คือการปรับฮอร์โมนของร่างกายให้สมดุล อย่างการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการนอนดึก โดยควรเข้านอนไม่เกินเวลา 4 ทุ่ม ซึ่งจะทำให้ร่างกายหลับสนิทในช่วงเที่ยงคืน ช่วยให้ผิวได้รับการฟื้นฟู และยังช่วยชะลอวัยได้อีกด้วย รวมทั้งควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 45 นาที 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังช่วยให้หุ่นดีอีกด้วย