มีใครชอบรับประทานผักเป็นชีวิตจิตใจเหมือนกับทางนี้บ้างไหมคะ โดยเฉพาะ “ผักกะหล่ำดอก” ผักที่สามารถหาซื้อได้ง่ายๆตามตลาดทั่วไป โดยมีรสชาติกรอบอร่อยและมีคุณประโยชน์อีกเพียบที่อยากแนะนำในบทความต่อไปนี้ ซึ่งเชื่อว่ายังคงมีอีกหลายๆคนที่ไม่เคยรู้ประโยชน์หรือสรรพคุณต่างๆ ที่ถ้าได้รู้แล้ว รับรองต้องร้องว้าวแน่นอน เผื่อจะได้หันมาลองทานเพื่อสุขภาพดีๆกันด้วยค่ะกะหล่ำดอก (Cauliflower)มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Brassica oleracea หรือชื่อตามท้องถิ่นแถวบ้านผู้เขียน(เชียงใหม่)ก็จะเรียกกันว่า ผักกาดดอก เป็นพืชผักที่ผู้คนนิยมใช้ส่วนของดอกของกะหล่ำในการรับประทานกัน โดยอยู่บริเวณปลายยอดของลำต้น มีลักษณะเป็นก้อนอวบแน่นและผลกรอบมีสีขาวๆถึงเหลืองอ่อน หารับประทานได้ง่าย จัดเป็นพืชในตระกูลกะหล่ำเช่นเดียวกับกะหล่ำปลีและบลอกโคลี ที่ประกอบด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินเค วิตามินบี5 โฟเลต โพแทสเซียม ฯ ซึ่งประสิทธิภาพจากพวกสารอาหารต่างๆเหล่านี้นี่แหละสามารถช่วยรักษาและป้องกันโรค ต้านโรคบางชนิดได้ เช่นช่วยต้านมะเร็งด้วยสาร ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพป้องกันมะเร็งหลายชนิดได้ มีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างเอนไซม์ที่ใช้ในการกำจัดเซลล์มะเร็งต่างๆ หากได้กินเป็นประจำ จะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านมและลำไส้ใหญ่ได้ดีช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดในสมองจากสาร แคโรทีนอยด์ ฟลาโวนอยด์ และวิตามินต่างๆ ในกะหล่ำดอก ซึ่งช่วยต้านการอักเสบต่างๆและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ช่วยลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ทำให้เรามีความจำดีขึ้น จากในสาร โคลีน (Choline) ที่อยู่ในกะหล่ำดอก เป็นพืชผักที่ช่วยบำรุงสมองได้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยชะลอการสลายตัวของสารสื่อประสาท ซึ่งก็จะช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมได้นั่นเองช่วยเรื่องโรคกระดูกพรุนโดยกะหล่ำดอกเป็นแหล่งของ วิตามินเค ที่ทำหน้าที่บำรุงกระดูกในร่างกายให้แข็งแรง เสริมการดูดซึมแคลเซียมได้เป็นอย่างดี ช่วยลดอัตราเสี่ยงป้องกันกระดูกหักได้ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายเพราะในกะหล่ำดอกอุดมไปด้วย วิตามินซีสูง จึงสามารถช่วยป้องกันและรักษาโรคหวัด โรคเลือดออกตามไรฟันได้ หรือทำให้ผู้ที่ป่วยมีอาการฟื้นตัวได้เร็วขึ้นคำแนะนำในการเลือกรับประทานไม่แนะนำให้ปรุงจนสุกมากเกินไป เพราะจะไปทำลายคุณค่าทางสารอาหารได้ไม่แนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ เพราะมีสารพิวรีนอยู่ในกะหล่ำดอกระดับปานกลางอาจจะกระตุ้นให้อาการของโรคกำเริบขึ้นมาได้ไม่แนะนำคนที่ชอบมีปัญหา ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้องได้ง่าย เพราะกะหล่ำดอก อาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะได้ง่ายมากและนี่คือตัวอย่างเมนูจากกะหล่ำดอกที่ทางผู้เขียนชอบทานเป็นประจำ โดยแค่เอามาต้มใส่ปลาใส่พริกแกงเพิ่มรสชาติลงไป แล้วกินกับข้าวสวยร้อนๆก็คือถูกปากถูกใจในรสชาติความอร่อยและความกรอบหวานของดอกกะหล่ำมาก อีกเหตุผลที่ชอบก็คือรับประทานได้ง่าย ไม่ขมหรือเหม็นเขียวเหมือนกับผักชนิดอื่นๆเลย และที่สำคัญเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับใครที่กำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ เพราะไม่ได้ให้พลังงานที่สูง ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องความอ้วนเลยค่ะหลังจากอ่านบทความเรื่อง “ กะหล่ำดอก ” ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ ด้วยสรรพคุณที่ต้องว้าว!!! จะเห็นได้เลยว่า‘กะหล่ำดอก’ที่เราๆรู้จักกันนั้น อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆหลากชนิดที่มีสรรพคุณเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเราขนาดไหนภายใต้รสชาติที่อร่อยด้วย และหวังว่าครั้งนี้เพื่อนๆคงจะได้ ข้อควรรู้และข้อควรระวัง จากเรื่องนี้ไปไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านกันค่าเครดิตภาพในบทความทั้งหมดภาพปก จาก Canvaภาพประกอบจากผู้เขียน : ภาพที่1 , ภาพที่4ภาพประกอบจาก Pixabay : ภาพที่2 / Pavlofox , ภาพที่3 / alsenเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !