เริ่มเข้าสู่ช่วงเทศกาลถือศีลกินเจของชาวไทยกันแล้ว ซึ่งเทศกาลกินเจปีนี้เริ่มในวันที่ 26 กันยายน และไปจบวันสุดท้ายในวันที่ 4 ตุลาคม 2565 จุดประสงค์หลักของการกินเจนั้นก็เพื่อให้เราได้เว้นว่างจากการกินเนื้อสัตว์ ปรับสมดุลภายใน ขับของเสียออกจากร่างกาย และกินด้วยจิตใจเมตตา งดเว้นการบริโภคสรรพสัตว์ทุกชนิด แต่หากเราเลือกกินอาหารไม่ดี หรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอก็อาจจะนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพแทนได้ มาดูกันดีกว่าค่ะว่า 4 เคล็ดลับกินอาหารเจให้ได้ทั้งบุญ และได้สุขภาพจะมีอะไรกันบ้าง 1.เลี่ยงของทอด อาหารที่มีไขมันเยอะ อย่างที่เราทราบกันดีค่ะว่าช่วงของเทศกาลกินเจ จะมีอาหารเจให้เลือกกินหลากหลายประเภทมาก ซึ่งเรามักเจออาหารเจที่ทอดกรอบๆ ชวนกินเยอะสุดๆ ทั้งเผือกทอด เต้าหู้ทอด เปาะเปี๊ยะเจทอด แฮ่กึ๊นเจ หมูกรอบเจ ฯลฯ ซึ่งของทอดเหล่านี้มีรสสัมผัสที่กรุบกรอบ ทานเพลิน รสชาติอร่อยสุดๆ พอเข้าช่วงกินเจหลายๆ คนก็จะปล่อยใจเพลิดเพลินไปกับของทอดเหล่านี้อย่างเต็มที่ ทางที่ดีคือพยายามเลี่ยงของทอดน้ำมันท่วมๆ ไปจะดีกว่าค่ะ เพราะของทอดเหล่านี้มีไขมันสูง แถมยังมีแคลอรีสูงมากอีกด้วย เรียกว่ากินไม่กี่ชิ้นแคลอรีก็พุ่งสุดๆ แบบแทบจะไม่รู้ตัว หรือถ้าอดไม่ได้ก็จำกัดปริมาณการกินให้เหมาะสมค่ะทางที่ดีในช่วงเทศกาลกินเจให้เราเน้นกินอาหารที่มีไขมันน้อย ปรุงด้วยวิธีการตุ๋น ต้ม นึ่ง หรือย่างจะดีต่อสุขภาพ ช่วยลดปริมาณแคลอรีได้ดีกว่าค่ะ 2.จำกัดปริมาณของหวาน ขนมหวาน อีกหนึ่งเมนูยอดฮิตอย่าง ขนมหวานเจ ที่มีให้เลือกกินเยอะมาก มีหลายๆ เมนูที่ปรับสูตรเจออกมาเพื่อรับกับช่วงเทศกาลกินเจ ทำให้เราอยากกิน อยากลองไปหมดทุกเมนู อย่างที่เราทราบกันดีค่ะว่าเมนูของหวานนั้นอัดแน่นไปด้วยน้ำตาลและแป้ง ยิ่งกินมากแคลอรีก็ยิ่งล้น แถมยังไม่อยู่ท้อง กินไปไม่นานก็หิวใหม่ เลี่ยงพวกของหวานแล้วไปกินพวกผลไม้ ถั่วและธัญพืชเป็นขนมแทนจะดีกว่าค่ะ 3.เติมโปรตีนจากพืช ในปริมาณที่เพียงพอ ร่างกายของเราต้องการโปรตีนประมาณ 0.8-1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เป็นประจำทุกวัน ในช่วงกินเจที่ต้องงดเนื้อสัตว์ ยิ่งทำให้ปริมาณโปรตีนที่ร่างกายได้รับต่อวันน้อยลงไปอีก หากร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอติดต่อกันหลายๆ วัน จะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย หมดแรง และป่วยง่าย ดังนั้นแล้วเราจึงควรให้ความสำคัญกับการเติมโปรตีนให้เพียงพอในช่วงของการกินเจค่ะรับประทานพืช ถั่วและธัญพืชที่มีโปรตีนสูงเป็นหลักอาจเสริมด้วยเวย์โปรตีนจากพืช (Plant Based) โดยมาก 1 scoop ให้โปรตีนมากกว่า 20 กรัม 4.เน้นแป้งเชิงซ้อน จากธรรมชาติ ในช่วงกินเจกลุ่มอาหารที่เรากินเป็นจำนวนมากคงหนีไม่พ้น "แป้ง" หรือ "คาร์โบไฮเดรต" ค่ะ ซึ่งแนะนำว่าให้กินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน หรือแป้งจากธรรมชาติ ที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป หรือการขัดสีมากนัก เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ มันเทศ มันหวาน ข้าวโพด ฟักทอง กล้วย มันฝรั่ง ฯลฯ แป้งที่ไม่ผ่านการแปรรูปจะทำให้เรารู้สึกอิ่มท้องได้ยาวนานยิ่งกว่า เพราะมีเส้นใยอาหารสูง ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในค่าคงที่ ไม่พุ่งสูงมากเกินไปในช่วงเวลาสั้นๆ แถมยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกายมากกว่าแป้งที่ผ่านการขัดสีมากๆ หรือแป้งแปรรูป ตัวอย่างอาหารเจ หาซื้อง่ายใน 7-11 สารอาหารครบถ้วนสมัยนี้อาหารเจหาทานง่ายขึ้นมากค่ะ จากหลายๆ ปีก่อนที่เราจะต้องไปหากินที่โรงเจ ถึงจะมีอาหารเจให้เลือกหลากหลายหน่อย แต่ตอนนี้เราสามารถเลือกซื้ออาหารเจได้ครบครันทั้งอาหารคาว อาหารว่าง หรือของหวานที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 เริ่มที่กลุ่มคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน แนะนำโซนแช่เย็นใน 7-11 เลยค่ะ มีของเจเยอะมากๆ อย่างที่ผู้เขียนซื้อมาทานก็จะเป็นมันเผา มันหวาน ธัญพืชรวม กล้วยปิ้ง กล้วยทับ อิ่มอร่อย เติมแป้งดีๆ ช่วยให้เราอยู่ท้องได้นาน ต่อกันที่โปรตีน และไขมันดีค่ะ เน้นดื่มพวกนมถั่วเหลือง โดยเฉพาะ TOFUSAN คือดีมากเพราะเป็นสูตร Hight Protein ค่ะ 1 ขวดให้โปรตีนมากถึง 27 กรัม แถมยังเป็นสูตรไม่มีน้ำตาลอีกด้วยตอบโจทย์การกินเจ แถมยังดีต่อสุขภาพสุดๆ หรือจะเลือกดื่มเป็นน้ำนมข้าวโพด นมอัลมอนด์ นมพิสตาชิโอ ก็จะช่วยเติมคาร์โบไฮเดรต และไขมันดีให้กับร่างกายอีกด้วยค่ะ ตัดมาที่โซนถั่วกันบ้างค่ะ เหมาะกับการกินเป็นของว่างในช่วงกินเจสุดๆ เพราะไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ ถูกหลักการกินเจสุดๆ ถั่วยังอุดมไปด้วยไขมันดี ทำให้เราอิ่มได้ยาวนาน ลดปัญหากินจุบจิบระหว่างวันไปได้เยอะ แต่ก็ต้องจำกัดปริมาณการทานให้เหมาะสมด้วยนะคะ 1 วันควรทานไม่เกิน 1 กำมือ เพราะพวกถั่วจะมีแคลอรีค่อนข้างสูง หรือจะเป็นอาหารแปรรูปอย่างไส้กรอกเจ โบโลน่าเจ เกี๊ยวซ่าเจ น้ำพริกเจ ไก่ทอดกรอบเจ ไก่ป๊อบเจ ก็มีให้เราเลือกทานแก้เบื่อแบบพอกรุบกริบเช่นเดียวกันค่ะ เลือกทานแก้เบื่อ ให้พอหายอยากได้ แต่อย่าทานเป็นหลัก เพราะเมนูอาหารแปรรูปเหล่านี้มีปริมาณโซเดียมค่อนข้างสูง กินแล้วก็อย่าลืมดื่มน้ำตามเยอะๆ ค่ะ กินเจปีนี้ เพื่อนๆ อย่าลืมเอาทั้ง 4 เคล็ดลับนี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ นอกจากนี้แล้วอย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับให้พอ รับรองว่าไม่ว่าจะเทศกาลไหนๆ เราก็จะได้ทั้งบุญ ได้ทั้งสุขภาพค่ะ ภาพจาก canvaภาพปกบทความ : ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 โดย missycloud แต่งด้วย canvaภาพในเนื้อหา : ภาพที่ 1 โดย Kadek Bonit Permadi / ภาพที่ 2 โดย juhide / ภาพที่ 3 โดย bit245 / ภาพที่ 4 โดย margouillatphotos / ภาพที่ 5-9 โดยผู้เขียน แหล่งที่มาข้อมูลเทศกาลกินเจมารู้เรื่องการกินโปรตีนกันดีกว่าคิดจะลดน้ำหนัก ต้องงด “คาร์โบไฮเดรต” จริงหรือ? เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !